(Minghui.org) ในหนังสือประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) รัฐบาลเผด็จการจะต้อง “ยิ่งใหญ่ รุ่งโรจน์ และถูกต้อง” เสมอ ภายใต้การปกครองของ CCP แทบไม่มีภัยพิบัติหรือวิกฤตการณ์เลย แม้กระทั่งตอนเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ สถานการณ์ก็จะได้รับการ “แก้ไข” ในเวลาอันรวดเร็ว และทุกอย่างจะกลับมาสงบเรียบร้อยอีกครั้ง ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่ง

CCP ไม่ได้เผยแพร่จำนวนผู้เสียชีวิตจากทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1959 ถึง 1962 และให้เหตุผลว่าเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย—เว้นแต่ข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยาจะแสดงให้เห็นว่าสภาพอากาศในช่วงเวลานั้นดีเยี่ยม ในหนังสือ Tombstone: The Great Chinese Famine, 1958-1962 ที่เขียนโดยนักข่าวที่ชื่อหยาง จี้เซิง เขาประมาณยอดผู้เสียชีวิตไว้อย่างน้อย 30 ล้านคน ในหนังสือ Mao’s Great Famine ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2010 ศาสตราจารย์และนักประวัติศาสตร์ชื่อฟรังก์ ดีเคอตเตอร์ คำนวณคร่าว ๆ ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุดคือ 45 ล้านคน

ในวันที่ 8 สิงหาคม 1975 เขื่อนหลายสิบแห่งพังทลายลงใกล้กับเมืองจูหม่าเตี้ยนในมณฑลเหอหนาน คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้ประมาณ 230,000 คน สาเหตุที่แท้จริงมาจากความด้อยคุณภาพของเขื่อนที่สร้างขึ้นในช่วงนโยบายก้าวกระโดดครั้งใหญ่ (Great Leap Forward) แม้ว่า Discovery Channel จะจัดลำดับเหตุการณ์นี้เป็นอันดับที่หนึ่งของ “10 อันดับความวิบัติทางเทคโนโลยีที่เลวร้ายที่สุดในโลก” ในปี 2005 ซึ่งแซงหน้าการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลและโศกนาฏกรรมก๊าซโภปาล แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศจีนไม่รู้เรื่องนี้เพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในข่าว

หลังจากแผ่นดินไหวที่ถังซานเมื่อปี 1976 ตอนแรก CCP ประกาศยอดผู้เสียชีวิตที่ 655,000 คน แต่ต่อมาได้ "แก้ไข" เป็น 240,000 คน เมื่อมีการแจกคูปองปันส่วนเสื้อผ้าในช่วงปลายปี มีคนรับคูปองเพียง 650,000 คน ขณะที่ประชากรในถังซานก่อนเกิดแผ่นดินไหวมีประมาณ 1.2 ล้านคน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey, USGS) ประมาณการยอดผู้เสียชีวิตจริงจากข้อมูลนี้ว่ามีประมาณ 655,000 คน

ผู้เสียชีวิต 30 คนในหนึ่งเดือน

วารสาร Shanghai Journal of Preventive Medicine ตีพิมพ์บทความในเดือนมกราคม 2024 ชื่อเรื่อง “การสอบสวนการเสียชีวิตส่วนเกินจากโรคเรื้อรังในช่วงของการระบาดใหญ่โควิด-19 ในเขตหนึ่งของเซี่ยงไฮ้” บทความนี้ระบุว่าหลังจากที่ CCP ยกเลิกการล็อกดาวน์ในเขตหนึ่งของเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนธันวาคม 2022 ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยประมาณอยู่ที่ 7,651 คน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้วิจัยยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่ 20,990 คน แต่ในช่วงเวลาเดียวกันในเขตเดียวกัน ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างเป็นทางการมีเพียง 232 คน หรือประมาณ 1/90 ของจำนวนที่รายงานในบทความ

ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2023 ภาพที่ได้รับจาก Voice of America ผ่านทางบริษัทดาวเทียม Planet Labs แสดงให้เห็นยานพาหนะเรียงเป็นแถวยาวอยู่หน้าสถานที่จัดงานศพในบางเมืองของประเทศจีนในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2022 จากฐานข้อมูลภาพที่เผยแพร่โดย Google Earth Pro ความคล่องตัวของการจราจรที่สถานที่จัดงานศพเขตปันหยู เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง และสถานที่จัดงานศพเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ในเดือนธันวาคม 2022 ไม่เคยหนาแน่นเช่นนี้มาก่อนในช่วง 5 ถึง 10 ปีที่ผ่านมา

จากรายงานของ Voice of America คำสำคัญที่ใช้สืบค้นอย่างเช่น “สถานที่จัดงานศพ” และ “เมรุ” เริ่มเพิ่มขึ้นที่ไป่ตู้ (Baidu) (เซิร์ชเอนจินหรือเครื่องมือสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอันดับหนึ่งในประเทศจีน) ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2022 และขึ้นเป็นคำสำคัญที่ใช้สืบค้นมากที่สุดติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์

บทความหนึ่งใน Washington Post รายงานภาพถ่ายจากดาวเทียมจากสถานที่หลายแห่งในประเทศจีน เป็นภาพประชาชนเข้าแถวยาวรออยู่ด้านนอกเมรุเผาศพทั่วประเทศเพื่อเผาศพญาติที่เสียชีวิต

ชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนในเวยป๋อ (Weibo) ว่า “หลังจากยกเลิกการล็อกดาวน์เมื่อปลายปี 2022 สถานการณ์ที่ฌาปนสถานทั่วประเทศเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เมรุเผาศพทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และมีแถวยาวทุกวัน คนที่เสียชีวิตถูกวางอยู่บนพื้น มันเป็นหายนะ ทุกเมืองมีการแต่งตั้งคนขับรถให้ขนส่งศพไปยังเมรุเผาศพ คนขับรถงานทำงานหนักมากจนได้นอนเพียงวันละ 3 ชั่วโมง”

วิทยุนานาชาติฝรั่งเศส (Radio France Internationale) นำเสนอบทความแสดงความคิดเห็นบทความหนึ่งเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2023 ว่าคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของประเทศจีน (Chinese National Health Commission) รายงานว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 120,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 30 คนใน 1 เดือนหลังยกเลิกการล็อกดาวน์ บทความดังกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “ผู้เสียชีวิต 30 คนทั่วประเทศทำให้ประชาชนสงสัยว่าคณะกรรมาธิการสุขภาพจงใจเยาะเย้ยพรรคคอมมิวนิสต์และสี จิ้นผิง… แค่นับผู้เสียชีวิตของคณาจารย์และเจ้าหน้าที่วิทยาลัยในเขตไห่เตี้ยน ปักกิ่ง หรือผู้เสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหารผ่านศึกในกระทรวงการต่างประเทศก็มากเกิน 30 คนแล้ว !”

“ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A”

ตั้งแต่ปลายปี 2023 โรงพยาบาลในประเทศจีนพบคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจอีกระลอกหนึ่ง Wenzhou Metropolis Daily ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง รายงานเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2024 ว่ามีประชาชนประมาณ 30,000 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่น 4 แห่งในช่วง 8 วันแรกของเทศกาลวันตรุษจีน ผู้ป่วยเหล่านี้มีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจเป็นหลัก ห้องฉุกเฉินก็เต็มไปด้วยคนที่ติดเชื้อในปอดด้วย

โรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของมหาวิทยาลัยการแพทย์เหวิน (Wen Medical University) เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีในรายงานของ Wenzhou Metropolis Daily ที่นี่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในช่วงเทศกาลตรุษจีนมากกว่า 10,000 คน ประมาณ 40% ของผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น การติดเชื้อในปอด จ้าว กวงจู ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลบอกว่าห้องฉุกเฉินมีผู้ป่วยเต็มตลอดช่วงปีใหม่ และ “ต้องเพิ่มเตียงเสริมในบริเวณที่มีพื้นที่ว่างทั้งหมด” ผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินที่อยู่ในภาวะวิกฤติส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง

ในทำนองเดียวกัน แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลประชาชนเหวินโจว (Wenzhou People’s Hospital) มีผู้ป่วยผู้ใหญ่ประมาณ 600 ถึง 700 คน และผู้ป่วยเด็กมากกว่า 200 คนทุกวัน ในกลุ่มนี้พบการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจมากที่สุด

ที่เพจของ TikTok ซึ่งมีหัวข้อเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศจีน มีชาวเน็ตคนหนึ่งในมณฑลหูหนานพูดว่า “แม่ของฉันก็ติดเชื้อทางเดินหายใจเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย !” ชาวเน็ตอีกคนหนึ่งในมณฑลเสฉวนพูดว่า “ผมกับภรรยาไปแถบชนบทในฉงชิ่งเพื่อร่วมงานเลี้ยง เราทั้งคู่เป็นหวัด ผมแน่ใจว่ามันเป็นไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พูดถึงมัน” ชาวเน็ตบางคนแสดงความเห็นว่า “สถานการณ์การระบาดใหญ่ในกรุงปักกิ่งและเทียนจินร้ายแรงมาก และมีการติดเชื้อในปอดเป็นส่วนใหญ่”

โซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มในประเทศจีนโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีคน "ล้มลงเสียชีวิตบนพื้น" เมื่อไม่นานนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว มีวิดีโอหนึ่งแสดงว่าผู้โดยสารคนหนึ่งเป็นลมขณะมุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟขบวน T25 ที่สถานีรถไฟสายใต้เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2024 ในวิดีโอนี้ มีคนเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นชานชาลาซึ่งมีรถไฟอยู่ใกล้ ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกำลังทำ CPR ให้เขา ชาวเน็ตบางคนพูดว่า “การล้มฟุบแบบนี้กลายเป็นภาพที่เห็นบ่อยมาก น่ากลัวจริง ๆ !"

ผู้ใช้ Weibo รายหนึ่งพูดในโพสต์ว่า “ปีนี้ฉันเห็นคนตายแบบกะทันหันมากเหลือเกิน อาจเกิดจากผลข้างเคียงของการติดเชื้อโควิด-19” อีกคนหนึ่งพูดว่า “ในวันแรกของปีใหม่ เพื่อนบ้านของฉันจัดงานศพหลังจากลูกชายทั้ง 2 คนของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหันในวัย 30 ปีเศษ ฉันขอแค่อย่างเดียวในปี 2024 คือขอให้มีชีวิตรอดตลอดปีแม้มีภัยคุกคามจากโควิด-19 !”

ผู้ป่วยอุบัติใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนมกราคม 2024

แม้จะมีคนรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างท่วมท้นในโซเชียลมีเดีย แต่ข้อมูลอย่างเป็นทางการที่ประกาศโดย CCP นำเสนอไม่เหมือนกัน

ข้อมูลจาก WHO ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในเดือนธันวาคม 2023 เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับหนึ่งเดือนก่อนหน้า และจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น 62% แต่ศูนย์ควบคุมโรคของประเทศจีน (China CDC) จัดทำข้อมูลที่อัปเดตเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2024 พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเพียง 88 คนที่ต้องเข้าแผนกผู้ป่วยหนัก และมีผู้เสียชีวิตเพียง 11 รายจากทั้งหมด 31 มณฑล เขตปกครองตนเอง และมหานครในประเทศจีน

ชาวเน็ต “Hai Kuo Ping Yu Yue” ทวิตที่ X ว่าทางการไม่อนุญาตให้บันทึกผลวินิจฉัยโรคว่าเป็นการติดเชื้อโควิด-19 เขาบอกว่าการขอใบมรณะบัตรที่ออกโดยสำนักกิจการพลเรือน ต้องปฏิบัติตามข้อความตัวอย่างที่ติดไว้ที่หน้าต่างกระจก : “ฉันรับประกันว่าผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ถ้ามีข้อความที่เป็นเท็จ ฉันจะรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา”

ผู้ใช้ TikTok คนหนึ่งโพสต์ว่า หญิงวัย 51 ปี ในมณฑลเจียงซู ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มานาน 10 วัน ส่งผลให้ระบบหายใจล้มเหลวและการทำงานของปอดเสียหาย จากผลเอ็กซเรย์ แพทย์สรุปว่า “ปอดของเธอเป็นสีขาวทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (Influenza A) และอีกข้างหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิดผสมกัน” เมื่อชาวเน็ตในมณฑลหูหนานถามว่า “ยังมีไวรัสโคโรนาอยู่ไหม” ชาวเน็ตหลายคนตอบว่า “ยังมีอยู่ตลอด ! แค่เปลี่ยนชื่อ—ตอนนี้เรียกว่า 'ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (Influenza A) !'”

ยานพาหนะเผาศพสัตว์เลี้ยงเคลื่อนที่

พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อที่ทางเดินหายใจในเดือนมกราคม 2024 ประชาชนเริ่มสังเกตว่ามีการโฆษณาเผาศพสัตว์เลี้ยงเคลื่อนที่ในประเทศจีน ยานพาหนะนี้มีความยาว 5.3 เมตร (17 ฟุต), กว้าง 2 เมตร (7 ฟุต), สูง 2.47 เมตร (8 ฟุต) และหนัก 3.51 ตัน โดยโฆษณาว่ากระบวนการเผาไหม้เป็นแบบไร้ควัน ไม่มีไอเสีย และไม่มีกลิ่น

ตาม "2020 China Pet Industry White Paper" ในตลาดของผู้บริโภคกลุ่มสัตว์เลี้ยงในเมือง (สุนัขและแมวเป็นหลัก) อัตราการฝังหรือเผาศพสัตว์เลี้ยงมีเพียง 3.6% ชาวเน็ตบางคนชี้ให้เห็นโดยการโพสต์บน Weibo ว่า “ถ้าสัตว์เลี้ยงของฉันตาย ฉันจะฝังมันหรือเผามันเอง ไม่มีใครจะเผาศพพวกมัน ไม่มีตลาดของการเผาศพสัตว์เลี้ยง”

แม้ว่าโฆษณาดังกล่าวจะอ้างว่ายานพาหนะดังกล่าวให้บริการเผาศพสัตว์เลี้ยง แต่ขีดความสามารถในการเผาศพของรถอยู่ที่ 120 กก. (265 ปอนด์) - 150 กก. (330 ปอนด์) ทำให้คนจำนวนมากสงสัยว่าจะมีสัตว์เลี้ยงที่ต้องเผามากขนาดนั้นหรือ ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นในโพสต์เดียวกันบน Weibo ว่า “นี่น่ากลัว มันใช้ได้ทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยง”

การเปิดเผยลำดับยีนส์ของไวรัสล่าช้า

CCP ไม่เพียงปกปิดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างโจ่งแจ้ง ที่สำคัญกว่านั้นคือ CCP ไม่เคยมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ ในขณะที่เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ถูกระบุว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด

ผู้สืบสวนรัฐสภาสหรัฐฯ ระบุว่า นักวิจัยชาวจีนคัดแยกและจัดทำแผนที่พันธุกรรมของไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 ได้ก่อนสิ้นเดือนธันวาคม 2019 หนึ่งเดือนก่อนที่อู่ฮั่นจะถูกล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัส

บทความหนึ่งใน Wall Street Journal ระบุว่าเอกสารที่ได้รับจาก U.S. House Energy and Commerce Committee จาก U.S. Department of Health and Human Services แสดงให้เห็นว่าเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2019 นักวิจัยจาก Institute of Pathogen Biology จาก Chinese Academy of Medical Sciences ในกรุงปักกิ่ง ได้อัปโหลดลำดับยีนส์ของไวรัสโคโรนาเข้าฐานข้อมูลในสหรัฐฯ ลำดับยีนส์ดังกล่าวเกือบตรงกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ที่ CCP เปิดเผยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2020 คณะกรรมการรัฐสภาสหรัฐฯ สรุปว่า CCP ปกปิดลำดับยีนส์ของไวรัสไว้นาน 2 สัปดาห์

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าสองสัปดาห์ดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชุมชนทางการแพทย์ระหว่างประเทศในการคิดค้นว่าโควิด-19 แพร่กระจายอย่างไร และสำคัญต่อพัฒนาแผนการรักษาที่สอดคล้องกัน แต่ CCP ไม่ทำอะไรเลยในเวลานั้น ยกเว้นการอนุญาตให้เที่ยวบินระหว่างประเทศบินจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปยังทุกส่วนของโลก

มองผ่านคำโกหกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ตั้งแต่ปี 1949 CCP ไม่เคยหยุดส่งเสริมวัฒนธรรมพรรคฯ ได้แก่ ความเกลียดชัง อเทวนิยม และวิวัฒนาการ พวกเขาแทนที่ค่านิยมดั้งเดิมและคุณธรรมด้วยการหลอกลวง การปราบปราม และความรุนแรง เมื่อถูกพรรคฯล้างสมอง ประชาชนในประเทศจีนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวจะสูญเสียความสามารถในการรับรู้ว่าอะไรคือความจริง

เมื่อตระหนักแล้วว่าจำนวนประชากรชาวจีนลดลงหลังการระบาดใหญ่ของซาร์สในปี 2003 ในที่สุด CCP ก็ยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวที่เข้มงวด (คือสามีภรรยา 1 คู่ มีลูกได้เพียงคนเดียว) ในเดือนมกราคม 2016 CCP เริ่มนโยบายลูกคนที่สองทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้สามีภรรยามีลูกสองคน หลังจากการระบาดใหญ่โควิด-19 แผ่ขยายไปทั่วประเทศในปี 2020 ก็เริ่มนโยบายลูกสามคนในเดือนพฤษภาคม 2021 เพื่อเพิ่มจำนวนประชากร

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2023 ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนกงกล่าวว่า CCP ได้ปกปิดการระบาดใหญ่มานานกว่า 3 ปี การระบาดใหญ่ในประเทศจีนคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 400 ล้านคน เมื่อมันสิ้นสุด ประชาชนในประเทศจีนจะเสียชีวิตถึง 500 ล้านคน ท่านอาจารย์หลี่ยังกล่าวอีกว่าตอนที่โรคซาร์สระบาดในประเทศจีนเมื่อปี 2003 ประชาชนเสียชีวิต 200 ล้านคน

ทำไม CCP จึงต้องการปกปิดการเสียชีวิตเหล่านั้น ชัดเจนว่า เพื่อการรักษา "ชื่อเสียง" ในด้าน "ความรุ่งโรจน์และความยิ่งใหญ่" เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจในการควบคุมประชาชนจีน ตราบใดที่ CCP ปกครองประเทศจีน ภัยพิบัติครั้งใหญ่และการเสียชีวิตจำนวนมหาศาลจะ “ยอม” ให้เกิดขึ้นไม่ได้