ฟลัชชิง นิวยอร์ก : การเดินขบวนครั้งใหญ่เพื่อรำลึกถึงการอุทธรณ์อย่างสันติในวันที่ 25 เมษายน 1999

(Minghui.org) ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากว่า 2,000 คน เดินขบวนครั้งใหญ่ในเมืองฟลัชชิง รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 21 เมษายน เพื่อรำลึกถึงการอุทธรณ์อย่างสันติในกรุงปักกิ่งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว พวกเขาเฉลิมฉลองให้กับชาวจีนเกือบ 430 ล้านคนที่ลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) ด้วย

ฟลัชชิงเป็นไชนาทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งซึ่งมีชุมชนชาวจีนที่หลากหลายรวมถึงชาติพันธุ์อื่นอาศัยอยู่ การเดินขบวนเริ่มต้นที่ถนน Main Street และ 41st Avenue มุ่งหน้าไปทางใต้บนถนน Main Street เลี้ยวซ้ายที่ Sanford Avenue และเดินต่อไปที่ Kissena Blvd จากนั้นก็มีการชุมนุมกันที่บริเวณข้างห้องสมุดฟลัชชิง กิจกรรมทั้งหมดใช้เวลาสามชั่วโมง กรมตำรวจนครนิวยอร์กและเขตที่ 109 จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยให้กับการเดินขบวนและการชุมนุมอย่างเต็มที่

การเดินขบวนครั้งใหญ่จัดขึ้นที่ฟลัชชิง รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 21 เมษายน เพื่อรำลึกถึงการอุทธรณ์อย่างสันติที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 25 เมษายน 1999

ชาวจีนจำนวนมากที่เพิ่งอพยพมาไม่นานนี้พูดว่าพวกเขาประทับใจป้ายผ้าที่มีข้อความอย่างเช่น "โลกต้องการความจริง-ความเมตตา-ความอดทน" และ "การลาออกจาก CCP จะนำอนาคตที่ดีกว่ามาสู่ประเทศจีน" สมาชิกจากกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนจีน (Chinese Democracy & Human Rights) มากกว่า 10 คน เข้าร่วมการเดินขบวนและถือป้ายผ้า “สนับสนุนฝ่าหลุนต้าฝ่า”

อี้ จงหยวน ซึ่งเป็นตัวแทนของสมาคมฝ่าหลุนต้าฝ่าในนิวยอร์ก พูดว่าการอุทธรณ์อย่างสันติภายใต้การปกครองแบบเผด็จการของ CCP นี้เป็นไปไม่ได้ในอดีต “การอุทธรณ์ในปี 1999 เป็นตัวอย่างของการต่อต้านความโหดร้ายอย่างสันติด้วยความมีเหตุผล และเป็นเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกถึงค่านิยมทางศีลธรรมในสังคมของเรา” เธอพูด

คำยืนยันของผู้เห็นเหตุการณ์ : เสียงที่จริงใจ

จาง ซ่งหลิน อดีตอาจารย์ที่ Capital Medical University ได้เข้าร่วมการอุทธรณ์เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีผู้ฝึก 45 คนถูกจับกุมในเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกับเทียนจิน ผู้ฝึกมากกว่า 10,000 คนจึงไปที่สำนักงานอุทธรณ์กลางในกรุงปักกิ่งเพื่อร้องขอให้ปล่อยตัวพวกเขาอย่างสันติ “ด้วยการปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ผู้ฝึกไม่หวาดกลัวและไม่แสวงหาทางการเมือง เราเพียงแค่มีความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นเท่านั้น” เขาอธิบาย “ใครก็ตามที่เคยประสบกับการรณรงค์ทางการเมืองของ CCP โดยเฉพาะการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 จะทราบความน่ากลัวของ CCP แต่สิ่งที่เราผู้ฝึกทำนั้นยึดถือความไว้วางใจในรัฐบาลและความเมตตา ไม่มีผลประโยชน์ส่วนบุคคลเกี่ยวข้อง”

นับตั้งแต่ CCP ยึดอำนาจในปี 1949 การอุทธรณ์อย่างสันติเช่นนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกในประเทศจีน ทั้งยังพบเห็นได้น้อยในโลก ผู้ฝึกจำนวนมากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหาร ศาสตราจารย์ เจ้าหน้าที่จากกระบวนการยุติธรรม หรือนักธุรกิจมืออาชีพ “มีผู้ฝึกประมาณ 100 ล้านคน และพวกเขาเป็นตัวแทนสังคมกระแสหลักของประเทศจีน” จางอธิบาย “CCP มุ่งเป้าไปที่ฝ่าหลุนต้าฝ่าและหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน จึงทำลายรากฐานทางศีลธรรมในประเทศจีน ถ้า CCP ยอมรับฝ่าหลุนต้าฝ่าในเวลานั้น สังคมของเราในวันนี้คงจะแตกต่างไป”

เรียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

หลี่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ และเขารู้สึกประทับใจกับการเดินขบวนมาก เขาเห็นด้วยกับหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน และบอกว่าหลักการนี้จะทำให้โลกของเราเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น “ผมหวังว่าผู้คนจะสามารถฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากันได้มากขึ้น” เขาพูดเสริม “บางครั้งผมเห็นผู้ฝึกอยู่ตามถนนและบอกคนอื่นเกี่ยวกับการฝึก ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก ผมชื่นชมความพากเพียรของพวกเขา”

ย้อนกลับไปในประเทศจีน หลี่มักจะได้รับเอกสารจากผู้ฝึกตามโถงทางเดินหรือในที่ชุมชน “หลังจากอ่านและดูดีวีดีแล้ว ผมเข้าใจว่า CCP ใส่ร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วยคำโกหกอย่างไร เช่น การจัดฉากเผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ผมเรียนรู้จากพวกเขาว่าฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นยอดเยี่ยม และผู้ฝึกก็เป็นคนดี” เขาพูด

อุดมสมบูรณ์ด้วยองค์ประกอบทางวัฒนธรรม

ไต๋กับแม่อยู่ระหว่างท่องเที่ยวที่นิวยอร์ก และพวกเขาเห็นการเดินขบวนขณะรับประทานอาหารเย็นในฟลัชชิง “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นอะไรแบบนี้ มีสีสันมากและอุดมสมบูรณ์ด้วยองค์ประกอบทางวัฒนธรรม” ไต๋พูด

“นี่ดูยอดเยี่ยมมาก ! ฉันสามารถบอกได้ว่าคนเหล่านี้ (ผู้ฝึก) มีบุคลิกลักษณะที่มีความสามารถสูง ฉันรู้สึกประทับใจมากและหวังว่าสักวันหนึ่งฉันจะได้เห็นแบบนี้ในประเทศจีน” แม่ของไต๋พูด

ผู้ชมอีกคนหนึ่งชื่อหยูพูดว่าผู้ฝึกมีพลังด้านบวก “ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี นั่นคือวิถีที่เราควรเป็น” เขาพูดเสริม

พลังของความศรัทธาและมนุษยชาติ

จ้าวมาจากประเทศจีนเมื่อหกเดือนที่แล้ว และเขาไปทำงานที่รัฐอื่น วันแรกที่เขากลับมานิวยอร์ก เขาเห็นการเดินขบวนและรู้สึกแปลกใจกับงานนี้ เมื่อเห็นผู้ฝึกจำนวนมากจากทุกวัย ทุกอาชีพ และทุกเชื้อชาติ จ้าวพูดว่า “พูดตามตรง ทุกวันนี้มันยากที่คนจีนจะมีความศรัทธา นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมประหลาดใจที่มีคนเชื่อในฝ่าหลุนต้าฝ่ามากเหลือเกิน นี่คือพลังแห่งศรัทธา”

การอุทธรณ์อย่างสันติในปี 1999 เป็นการอุทธรณ์อย่างสันติครั้งใหญ่ที่สุดหลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ซูซาน หลิว พูด “ทำไมมีเพียงผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าที่อุทธรณ์ ฉันเห็นว่าหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดีกว่า ผู้ฝึกช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเข้มแข็งกว่า”

เธอคิดว่าผู้ฝึกแตกต่างจากคนจีนทั่วไป “นี่เป็นเพราะความเป็นมนุษย์ของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูและด้านบวกของความเป็นมนุษย์ปรากฏออกมา” เธอพูดต่อ “ฉันอยากเห็นชาวจีนมากกว่านี้ทำเช่นนี้ ฉันยังหวังด้วยว่าจะสามารถจัดการเดินขบวนเช่นนี้ได้ในประเทศจีนในไม่ช้า”

“นึกภาพว่ามีการเดินขบวนนี้ในประเทศจีน”

ชาวจีนบางคนที่ประกาศลาออกจากองค์กรของ CCP ในงานก็เข้าร่วมการเดินขบวนในส่วน “ลาออกจาก CCP” ด้วย หนึ่งในคนที่ลาออกคือกง เขาดีใจที่ได้เข้าร่วมงานนี้เพราะนี่คือวัฒนธรรมที่เขารู้สึกเชื่อมโยงด้วย

“ฝ่าหลุนต้าฝ่ามอบความเชื่อในความจริง-ความเมตตา-ความอดทนให้เรา ช่วยให้เราเห็นธาตุแท้ที่ชั่วร้ายของ CCP” กงพูด “มีผู้ชมจำนวนมากในฟลัชชิง นึกภาพว่ามีการเดินขบวนแบบนี้ในประเทศจีน ฉันมั่นใจว่าจำนวนคนที่มาดูจะมากกว่านี้มาก นั่นจะนำประเทศจีนไปสู่อีกระดับหนึ่ง และฉันหวังว่ามันจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้”

ชาวเน็ต : ความแข็งแกร่งของความสงบภายใน

โมมีบล็อกทางอินเทอร์เน็ตของตัวเอง เขาพูดว่าเขาดีใจที่ได้เห็นการเดินขบวนของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอีกครั้ง “จากใบหน้าที่สงบของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผมมองเห็นความแข็งแกร่งของความสงบภายในที่มาจากความศรัทธาของพวกเขา ผมสนับสนุนผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและความพยายามของพวกเขาในการต่อต้าน CCP” เขาพูด

หลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนมีความสำคัญมากและทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่วุ่นวายนี้ โมพูดเสริม “ผมเป็นคริสเตียน แต่ผมคิดว่าทุกคนที่มีหลักการ ทุกคนที่มีมโนธรรมควรสนับสนุนผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาสามารถเกิดขึ้นได้กับพวกเราทุกคน” เขาพูด

ขอบคุณผู้ฝึกสำหรับความพยายามของพวกเขา

หลี่อายุประมาณ 40 ปี มาจากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ขณะที่เขาดูการเดินขบวนพร้อมกับลูกชาย เขาบอกว่าเขาสามารถเข้าใจได้ถึงความทุกข์ทรมานที่ผู้ฝึกประสบอยู่ “CCP ไม่สามารถทนค่านิยมดั้งเดิมได้ ปู่ของผมก็ถูกรัฐบาลเผด็จการประทุษร้ายเช่นกัน จากประสบการณ์ของครอบครัว ผมจึงสงสัยในโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเก้าบทวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ ผมเข้าใจทุกอย่างและรู้สึกซาบซึ้งกับความพยายามของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจริง ๆ ที่บอกความจริงให้กับผู้คนและฟื้นฟูค่านิยมดั้งเดิม”

ออร์โดเนซมาจากเอกวาดอร์ เขาชมการเดินขบวนกับลูกสาว และพวกเขาชอบมาก เมื่อได้ยินคุณประโยชน์ของฝ่าหลุนต้าฝ่า และได้ยินว่าผู้ฝึกถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายในประเทศจีนอย่างไร ออร์โดเนซก็พูดว่าโลกต้องการความจริง-ความเมตตา-ความอดทน “ผมรู้สึกได้ถึงความสงบ และผมจะพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคำสอนและท่าฝึก” เขาพูด

หยูมาจากมณฑลฝูเจี้ยน เขาพูดว่าเขารู้สึกประทับใจการเดินขบวน “นี่ทำให้ผมนึกถึงผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ผมเจอในประเทศจีน ก่อนที่การประทุษร้ายจะเริ่มขึ้นในปี 1999 มีผู้ฝึกอยู่ทุกที่ ผมหวังว่าจะได้เห็นเช่นนั้นในประเทศจีนอีก” เธอพูด

ซืออพยพมาที่นิวยอร์กเมื่อหลายปีก่อน เขาพูดว่าเขาเพลิดเพลินกับการชมการเดินขบวนทุกปี “ผมอายุ 75 ปี และมีประสบการณ์กับการรณรงค์ทางการเมืองหลายครั้ง รวมถึงการยึดที่ดินจากเจ้าของที่ดิน การยึดทรัพย์สินจากเจ้าของธุรกิจ และการสังหาร ผมเคยเห็นมาหลายอย่าง” เขาอธิบาย

เจิ้งเดินทางจากประเทศจีนมาถึงนิวยอร์กเมื่อหลายเดือนก่อน เขาดีใจที่ได้เห็นกิจกรรมที่สงบนี้ และบอกว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟัง

จางพูดว่าเขาสังเกตว่าจำนวนผู้ฝึกเพิ่มมากขึ้น “อีกทั้งเราไม่เห็นคน [ที่สนับสนุน CCP] บนท้องถนนโบกธงแดงอีกแล้ว เห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะอยู่ในอำนาจ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็มีฉันทามติที่จะเผชิญหน้ากับ CCP” เขาพูด

หลี่พูดว่าเขานับถือฝ่าหลุนต้าฝ่าสำหรับความอุตสาหะของพวกเขาตลอดหลายปีนี้ เขาบอกว่าการเดินขบวนนี้ยอดเยี่ยม “แม้จะมีการปราบปรามในประเทศจีน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอยู่ในต่างประเทศ น่าทึ่งมาก” เขาพูด

โจวพูดว่าเธอมีความสุขที่ได้อยู่ในสหรัฐฯ ดินแดนแห่งอิสรภาพ “ฉันดีใจที่ได้เห็นกิจกรรมของฝ่าหลุนต้าฝ่า และบางครั้งฉันก็เข้าร่วมด้วย ฉันมอง CCP ได้ทะลุปรุโปร่ง และตัดความสัมพันธ์กับองค์กรต่าง ๆ ของ CCP” เธอพูด

หลังจากการเดินขบวน ผู้ฝึกมาชุมนุมกันที่บริเวณด้านข้างของห้องสมุดฟลัชชิง ในช่วงเย็นมีการจุดเทียนรำลึกหน้าสถานกงสุลจีนเพื่อเรียกร้องให้ยุติการประทุษร้าย