(Minghui.org) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเหตุการณ์ที่น่าสังเกตหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เรื่องแรกคือ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกตัดสินว่ามีความผิด เรื่องที่สองคือสื่อด้านข่าวทางตะวันตกยักษ์ใหญ่บางสื่อ เช่น BBC, the New York Times รายงานว่า CFO (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน) ของเดอะอิพอกไทมส์ถูกอัยการรัฐบาลกลางกล่าวหาว่า “ฟอกเงิน” และเชื่อมโยงคดีนี้กับฝ่าหลุนต้าฝ่า (หรือเรียกว่าฝ่าหลุนกง) ความเข้าใจของฉันคือผู้ฝึกจำเป็นต้องรักษาความมีสติที่แจ่มชัดและมีเหตุผลเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านี้ เพื่อที่เราจะช่วยเหลือผู้คนได้ดีขึ้น

หลังจากทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิด เศรษฐีหลายคนของพรรครีพับลิกันก็บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนเขา ตามรายงานของ BBC ทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ประกาศว่าพวกเขาระดมเงินได้เกือบ 53 ล้านดอลลาร์ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการพิพากษาว่ากระทำผิด สมาชิกหรือผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันอื่น ๆ ก็อาจปฏิบัติเช่นเดียวกัน ประเด็นนี้มีความซับซ้อน และต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ผลทางกฎหมายของข้อกล่าวหาต่อ CFO ของเดอะอิพอกไทมส์ยังไม่ชัดเจน ตามความเห็นของผู้ที่มีอาชีพด้านสื่อ คนนี้อาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินการบางอย่างในธุรกิจสีเทา และหน่วยงานของรัฐบาลกลางมีหลายทางเลือกที่จะจัดการกับคดีนี้

สิ่งที่ศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าทำไม่ใช่เรียบง่าย ในยุคธรรมะปลาย มีเพียงการบำเพ็ญตามหลักการของต้าฝ่าเท่านั้นที่จะปกป้องเราไม่ให้แปดเปื้อนในโลกโคลนตมนี้ ต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่ง

ประการแรก ฝ่าหลุนต้าฝ่าเกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญเท่านั้น และไม่มีองค์กร หน่วยงานทางเศรษฐกิจ หรือการดำเนินการทางธุรกิจ สื่อด้านข่าวและโครงการอื่น ๆ ไม่ใช่ส่วนที่เป็นบรรทัดฐานของฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่เป็นการกระทำของผู้ฝึกเฉพาะรายหรือกลุ่มผู้ฝึกเฉพาะกลุ่มในการบอกความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับประชาชน

ประการที่สอง ผู้ฝึกก่อตั้งสื่อด้านข่าวและองค์กรอื่น ๆ เพื่อต่อต้านการประทุษร้ายโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถ้าไม่มีการประทุษร้ายและการรณรงค์ “ทำให้ [ผู้ฝึก] เสื่อมเสียชื่อเสียง ล้มละลายทางการเงิน และทำลายร่างกายของพวกเขา” ถ้าพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่แต่งเรื่องโกหกเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ เช่น การจัดฉากเผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ผู้ฝึกก็จะไม่ก่อตั้งสื่อด้านข่าวและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเหล่านี้นอกประเทศจีน ถ้าไม่มีการประทุษร้าย ผู้ฝึกก็จะแค่ปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนอย่างเงียบ ๆ ในที่ทำงานและในชีวิตประจำวัน พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะเรียนรู้วิธีบริหารจัดการบริษัทสื่อสารมวลชนจากจุดที่ไม่มีอะไรเลย

ประการที่สาม การประทุษร้ายเกิดขึ้นและคงอยู่อย่างต่อเนื่องมา 25 ปีแล้ว แม้แต่สื่อด้านข่าวในโลกเสรีก็แทบไม่ได้รายงานข้อเท็จจริงของฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเขากลับนำเสนอการโฆษณาชวนเชื่อที่ใส่ร้ายป้ายสีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือยังคงนิ่งเงียบ ผู้ฝึกจึงมีความจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำเว็บไซต์ สถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์

ในการบริหารจัดการบริษัทสื่อที่จะบอกความจริงและช่วยเหลือผู้คนต้องการเงินทุนมหาศาล เงินจำนวนนี้มาจากไหน ธุรกิจ องค์กร และรัฐบาลที่ต้องการทำธุรกิจกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่กล้ามอบทุนสนับสนุนผู้ฝึกฝ่าหลุนกงตลอด 25 ปีที่ผ่านมา นี่หมายความว่าผู้ฝึกต้องหาเงินเอง แต่เราต้องระมัดระวัง มีเหตุผล และฉลาดรอบคอบ ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงสภาพสังคมและเศรษฐกิจด้วย มิฉะนั้นจะถูกใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์เช่นนี้และทำให้ชื่อเสียงของต้าฝ่าเสียหาย พวกเราผู้ฝึกทราบว่ามันยากที่คนทั่วไปจะไม่รู้สึกอะไรเลยต่อหน้าเงินและอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ คนทั่วไปคุ้นเคยกับ "การต่อสู้กับความชั่วร้ายด้วยความชั่วร้าย" และวิธีคิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับการต่อสู้ทางชนชั้นคือใช้ด้านชั่วร้ายของธรรมชาติของมนุษย์ แต่นี่มีแต่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ แย่ลง เพื่อช่วยเหลือผู้คนในโลกที่ศีลธรรมเสื่อมทราม เราจำเป็นต้องมีความเมตตามหาศาลทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ

ประการที่สี่ สื่อด้านข่าวต้องมีความรับผิดชอบสูงเพราะการเป็นเจ้าของสื่อด้านข่าวจะได้รับสิทธิ์ในการพูดและสามารถเผยแพร่สิ่งที่ต้องการสื่อสู่สาธารณชนได้ตามต้องการ ในองค์กรของสื่อที่สร้างขึ้นเพื่ออธิบายความจริงและช่วยเหลือผู้คน ไม่ว่าผู้ฝึกจะอ่อนน้อมถ่อมตนและมีเหตุผลหรือไม่ และไม่ว่าสติปัญญาที่พวกเขาได้รับจากต้าฝ่าจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับผลลัพธ์และผลกระทบต่อสังคมในการช่วยเหลือผู้คนหรือไม่ เนื่องจากผลประโยชน์ทางวัตถุ เงิน หรืออำนาจ ไม่ควรมีอิทธิพลต่อเรา เราจึงไม่ควรมีความปรารถนาทางโลกใด ๆ และมีเพียงทำได้เช่นนี้ เราจึงจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้ เรามีทุกเหตุผลที่ต้องมีเหตุผลมากกว่าสื่อทั่วไปเนื่องจากหลักการและความซื่อสัตย์ของเรา

สังคมตะวันตกเน้นการคิดอย่างอิสระ คนไม่เพียงฟังสิ่งที่คุณพูด แต่ยังสังเกตว่าคุณทำอะไรและทำอย่างไร สาธารณชนกำลังเฝ้าดูสื่อของเรา สิ่งที่สื่อทำและวิธีที่สื่อทำแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนแบบไหน พวกเราผู้ฝึกมีค่านิยมทางศีลธรรม มาตรฐาน และเขตแดนทางจิตวิญญาณที่สูงกว่า ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเป็นกลางในเรื่องต่าง ๆ เช่น พรรคการเมือง และต้องไม่ไปทางแดง (พรรครีพับลิกัน) หรือน้ำเงิน (พรรคเดโมแครต)

ประการที่ห้า ฉันคิดว่ามันสำคัญที่ต้องย้ำว่าผู้ฝึกไม่ฝักใฝ่การเมือง นี่คือพื้นฐานและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

เพราะเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แม้เราจะถกกันเรื่องการเมือง แต่เราถกกันจากมุมมองทางศีลธรรม กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราส่งเสริมความเมตตาและมีส่วนร่วมกับสาธารณชนเพื่อให้ผู้คนแยกความดีออกจากความชั่วได้ดีขึ้น และรู้ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” แม้เมื่อเราใช้รูปแบบของสื่อหรือธุรกิจด้านข่าว เราก็ยังควรปฏิบัติตามหลักการของเราและเข้มงวดกับตัวเอง มีเพียงการทำเช่นนี้เท่านั้นที่เราจะสามารถเห็นพลังแห่งปัญญาจากต้าฝ่า ส่งเสริมความเมตตาแทนที่จะก่อให้เกิดความคิดที่ไม่ดี และสร้างมิตรภาพมากกว่าสร้างศัตรู เมื่อเราทำได้ดี ผู้คนจะเรียนรู้ความจริงและเลือกความดีงาม เพราะมีเพียงการทำเช่นนั้นที่จะทำให้พวกเขามีอนาคตที่ดีได้

ในฐานะศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า เรามุ่งเน้นที่การบำเพ็ญและเรามีภารกิจ ไม่ว่าเราจะทำโครงการใด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและเป็นกลาง โดยการปฏิบัติตามหลักการของเรา เราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดีขึ้นและบรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกสิ่งที่เราทำ

ข้างต้นคือความคิดของฉัน ฉันหวังว่าผู้ฝึกจะแสดงความคิดเห็นและความเข้าใจของตนเองมากขึ้น