(Minghui.org) ฉันตัดสินใจเข้าสอบในการสอบที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับงานเมื่อต้นปี ฉันเริ่มเตรียมตัวสอบหลังจากลงทะเบียนสำเร็จ และทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับการอ่านและการเรียน

แม่ของฉันซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเช่นกัน เตือนฉันว่าระหว่างการสอบต่าง ๆ ที่ผ่านมาในอดีตของฉัน ถ้าฉันอ่านหนังสือหนักเกินไป ผลจะกลับตรงข้าม และฉันก็ไม่สามารถสอบผ่านได้เลยแม้จะสอบใหม่ก็ตาม เธอบอกว่าถ้าฉันปล่อยวางจิตยึดติดกับการสอบและถือฝ่ามาก่อน ฉันก็จะสอบผ่านได้ง่าย ๆ

ฉันเข้าใจว่าท่านอาจารย์เป็นผู้จัดวางทุกอย่าง และตราบใดที่ฉันมีความปรารถนานี้ ฉันควรจะปล่อยวางความปรารถนาอื่น ๆ ของมนุษย์ จากนั้นมา ฉันก็เริ่มศึกษาฝ่าและฝึกท่าก่อนทุกวัน ฉันใช้เวลาที่เหลืออ่านหนังสือสอบ

แม้ฉันจะพูดกว่าฉันปล่อยวางจิตยึดติดแล้ว แต่ฉันก็ยังปล่อยวางไม่ได้อย่างสิ้นเชิงว่าจะสอบผ่านหรือไม่ ดังนั้นในช่วงสองเดือนก่อนการสอบ ผมของฉันจำนวนมากเปลี่ยนเป็นสีขาว มากจนช่างทำผมแนะนำให้ฉันย้อมผม

หลังการสอบ ฉันเริ่มฟาเจิ้งเนี่ยนเกี่ยวกับผมของฉัน ฉันไม่ควรปล่อยให้ตัวเองมีผมขาวมากขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของผู้ฝึกต้าฝ่า ฉันฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อกำจัดความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของฉันเกี่ยวกับการสอบที่เกี่ยวข้องกับงานนี้ด้วย ในขณะเดียวกัน ฉันก็อ่านฝ่าและฝึกท่าให้มากขึ้น

หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ฉันรู้สึกดีขึ้นจึงมัดผมหางม้าและขอให้แม่ตรวจดูว่าเห็นผมขาวหรือไม่ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอมองไปทางซ้ายและทางขวาแล้วพูดว่า “มันน่าทึ่งมาก ลูกไม่มีผมขาวอีกแล้ว !” ในเวลาเพียง 10 กว่าวัน ผมขาวของฉันเปลี่ยนเป็นสีดำ !

ก่อนที่ฉันจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า คนทั่วไปนมองว่าฉันเป็นคนที่มี “ความกดดันในใจ” เมื่อไรที่ฉันประสบกับความยากลำบากหรืออุปสรรค มันจะปรากฏออกมาทางร่างกายคือเป็นสิวบนใบหน้าและเจ็บคอ อาการเหล่านี้เป็นอาการ “ร้อนใน” ตามตำราแพทย์แผนจีน แต่ตราบใดที่ฉันแก้ไขตัวเองให้ถูกต้องจากในฝ่า สิ่งที่ดูเหมือนเป็นปัญหาทั้งหมดก็หายไปทันที

"ปาฏิหาริย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าได้เกิดขึ้นกับฉันมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว การที่ผมขาวกลายเป็นดำก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อสองปีที่แล้วฉันเจออุปสรรคใหญ่และผมของฉันกลายเป็นสีขาวจำนวนมาก คืนหนึ่ง ขณะที่ฉันกับแม่พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดกัน ผมขาวของฉันก็กลับเป็นสีดำอีกครั้งในชั่วข้ามคืน วันรุ่งขึ้นไม่มีผมขาวเหลืออีกเลย"

การที่ผมของฉันเปลี่ยนเป็นสีขาวแสดงให้เห็นถึงปัญหาในการบำเพ็ญของฉัน ทุกครั้งที่ฉันประสบกับปัญหา ฉันพูดว่าฉันปล่อยวางได้แล้ว แต่ที่จริงฉันยังคงยึดติดกับปัญหานั้นในใจ อยู่ในระดับของคนธรรมดาทั่วไป

ฉันจำเป็นต้องยกระดับความคิดถูกต้องของฉันอย่างแท้จริงในการบำเพ็ญในอนาคต