ความเกลียดชังที่ปลูกฝังในจิตใจของพลเมืองจีนโดย CCP

(Minghui.org) ฉันชื่นชอบบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์หมิงฮุ่ยเมื่อเร็ว ๆ นี้คือ “จีนกลายเป็นสังคมที่ทุกคนเป็นศัตรูได้อย่างไร” ฉันอ่านบทความนี้สองรอบ บทความนี้อธิบายว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) ทำลายค่านิยมดั้งเดิมในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมอย่างไร

ที่จริงความเสียหายที่ CCP กระทำต่ออารยธรรมจีนเริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านั้น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนจากประสบการณ์ของฉันเอง

เมื่อ CCP พิชิตฉงชิ่งในเดือนพฤศจิกายน 1949 ฉันอายุ 10 ขวบและเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แม้ว่าเราอายุยังน้อย CCP ก็ล้างสมองเราโดยบอกว่าพวกเขารับใช้ชาวนาและกรรมกร ในขณะที่เจ้าของที่ดินและนายทุนเป็นพวกชั่วร้าย พวกเขาใส่ร้ายมิชชันนารีโดยพูดว่าพวกเขากินเด็กและพบศพเด็กจำนวนมากในบ่อน้ำใกล้กับสถานรับเลี้ยงเด็กที่มิชชันนารีก่อตั้ง

การณรงค์ทางการเมืองมากมายเกิดขึ้นระหว่างปี 1950 ถึง 1951 เช่น การปฏิรูปที่ดิน การปราบปรามผู้ต่อต้านการปฏิวัติ การกวาดล้างผู้ต่อต้านการปฏิวัติ ฯลฯ พวกเรานักเรียนถูกบังคับให้ดูการประหารชีวิตประชาชนที่เรียกกันว่า "เคาะขวดทราย" (หมายความว่าการทำให้หัวคนแตกนั้นง่ายพอ ๆ กับการทุบขวดโหลให้แตก) นี่ปลูกฝังความหวาดกลัวในจิตใจของเด็ก ๆ ของเรา

โรงเรียนจัดกิจกรรมให้เราโจมตีเจ้าของที่ดิน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นามสกุล ซู วิพากษ์วิจารณ์พ่อของเขาในระหว่างการประชุมของโรงเรียน โดยพูดว่าพ่อของเขาซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินกำลังเอาเปรียบชาวนา ฉันไม่เข้าใจ : เด็กคนหนึ่งจะโจมตีพ่อแม่ของตัวเองในที่สาธารณะอย่างง่ายดายได้อย่างไร

ระหว่างการรณรงค์ต้านสามต้านห้า (Three-Anti and Five-Anti campaigns) ในปี 1953 โรงเรียนขอให้ฉันกับพี่สาวสามคนซึ่งเราทุกคนเป็นนักเรียนมัธยมต้น แยกตัวออกจากครอบครัวของเรา เจ้าหน้าที่ยังแพร่ข่าวลือว่าเรามีทองซ่อนอยู่ในบ้านของเรา เรื่องนี้ไม่จบจนกระทั่งพวกเราทุกคนค้นหาทองคำทุกที่แต่ไม่พบเลย

ครูใหญ่ของโรงเรียนของเรามักจะเริ่มสุนทรพจน์ด้วยคำว่า “นักเรียนของผม...” เขาถูกประณามในที่สาธารณะเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะ “นักเรียนเป็นของ CCP ไม่ใช่ครูใหญ่”

เมื่อกลุ่มต่อต้านการปฏิวัติที่เรียกว่าหูเฟิงตกเป็นเป้าหมายในปี 1955 เจ้าหน้าที่ได้จัดให้สารวัตรนักเรียนผลัดกันดักฟังนอกหน้าต่างของครูเพื่อฟังว่ามีคำพูดต่อต้านการปฏิวัติอะไรบ้าง ฉันฟังอยู่สองชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย

หลังจากที่ CCP เริ่มการรณรงค์ต่อต้านฝ่ายขวา (Anti-Rightist campaign) ในปี 1957 ประชาชนยิ่งกลัวที่จะรายงานข้อเท็จจริงหรือพูดในสิ่งที่พวกเขาคิดจริง ๆ นี่แสดงให้เห็นว่า CCP เริ่มปลุกปั่นความเกลียดชังในหมู่พลเมืองจีนมายาวนานก่อนการปฏิวัติวัฒนธรรมอย่างไร

ฉันถูกการโฆษณาชวนเชื่อของ CCP หลอกและไปอยู่แถวชนบทในปี 1957 เป็นที่ทราบกันว่าคนในชนบทเจียมเนื้อเจียมตัวและมีค่านิยมดั้งเดิม แต่การล้างสมองของ CCP เปลี่ยนให้พวกเขาต่อต้านกัน ระหว่างนโยบายก้าวกระโดดครั้งใหญ่ (Great Leap Forward) ในปี 1958 พวกเขาถูกบังคับให้ปรึกษาหารือกันว่าจะปฏิบัติตามนโยบายของพรรคอย่างไรตลอดวันตลอดคืน คนที่เคลิ้มหลับจะถูกประณามในที่สาธารณะ

มีอาหารไม่เพียงพอในช่วงการอดอยากครั้งใหญ่ (Great Famine) เจ้าหน้าที่ในมณฑลเสฉวนพูดว่าชาวนาแต่ละคนสามารถรับธัญพืชได้ 100 กรัม (หรือ 3.5 ออนซ์) ในแต่ละวัน แต่ถึงกระนั้นบางครั้งปริมาณก็น้อยกว่าที่ได้รับแจ้ง

เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวนาที่หิวโหยทำอาหารเอง เจ้าหน้าที่จึงห้ามใช้ไฟส่วนตัว คนที่จุดไฟทำอาหารจะถูกโจมตีในที่สาธารณะ รวมทั้งถูกทุบตีและโดนน้ำเดือดลวกเท้า

เมื่อชาวนาอดอยากจนเสียชีวิตมากขึ้น บางคนก็ขุดเมล็ดพืชมาจากพื้นดินเพื่อความอยู่รอด เจ้าหน้าที่แช่ถั่วหรือเมล็ดพันธุ์ถั่วในปัสสาวะแล้วปลูกพร้อมกับขี้เถ้าไม้เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ประชาชนกำลังตายเพราะความอดอยาก บางคนจึงขุดมันขึ้นมากิน พวกเขาถูกรายงานต่อเจ้าหน้าที่บ่อย ๆ ผลคือถูกทุบตีหรือทำให้อับอายด้วยการแห่ไปตามถนนโดยมีลวดโลหะเจาะทะลุกระดูกไหปลาร้า

สิ่งเลวร้ายที่ CCP ส่งเสริมทั้งหมดนี้พอจะจินตนาการได้ในอดีต แต่มันยิ่งแย่ลงและกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม