(Minghui.org) ชื่อบทความของผมส่วนหนึ่งยกมาจากจ้วนฝ่าหลุน จากการบำเพ็ญมาหลายปีทำให้ผมเข้าใจว่า การฝึกเจิน [ความจริง] เป็นเรื่องง่าย คนดีพูดแต่ความจริง คนเลวแค่พูดในสิ่งที่ต้องการโดยไม่กลัวว่าจะทําให้คนอื่นไม่สบายใจ การมีซั่น [ความเมตตา] ต้องใช้หัวใจที่เปิดกว้างขึ้นและคํานึงถึงผู้อื่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เหยิ่น [ความอดทน] ดูเหมือนจะยากกว่าทั้งกับคนทั่วไปและผู้ฝึก ความเข้าใจของผมคือเหยิ่นมีความสําคัญมากสําหรับผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า
ชีวิตของผมโดยมากเกี่ยวกับการฝึกเหยิ่น คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจการจัดการสถานการณ์เหล่านี้ของผม แม้แต่ผู้ฝึกบางคน แต่เมื่อผมฟังสัญชาตญาณของตัวเอง สิ่งต่าง ๆ ก็ออกมาดี
ทั้งคนทั่วไปและผู้ฝึกพยายามบอกให้ผมจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้แตกต่างออกไป พวกเขาไม่เข้าใจและทุกคนคิดว่าผมถูกเอาเปรียบ แต่ผมมักจําสิ่งที่ท่านอาจารย์พูดในจ้วนฝ่าหลุน :
"มีคนบอกว่าคุณดี คุณไม่แน่ว่าจะดีจริง มีคนบอกว่าคุณเลว คุณไม่แน่ว่าจะเลวจริง เพราะว่ามาตรฐานของการประเมินความดีความเลวล้วนเกิดการบิดเบือนแล้ว" (บทที่ 4 จ้วนฝ่าหลุน)
เรื่องที่หนึ่ง
หลายปีก่อนผู้ชายคนหนึ่งอิจฉาการมีส่วนร่วมในสถานการณ์หนึ่งของผมอย่างมาก เขาถึงจุดเดือดและคืนหนึ่งเมื่อเขารู้ว่าผมอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่มีผู้คนเต็มไปหมด เขามาเคาะประตู ไม่พูดอะไร แต่พุ่งเข้ามาหาผม เขาเป็นคนตัวใหญ่มาก
ผมมีความชัดเจนจริง ๆ ในขณะนั้น ผมเห็นเขามาและรู้ว่าผมต้องปล่อยให้เขาทําในสิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาต้องการจะทำ เขายกผมขึ้นด้วยมือข้างเดียวและเริ่มต่อยผมซ้ำ ๆ จากนั้นเขาก็ลากผมออกไปข้างนอกและเริ่มบีบคอผมจนผมหายใจไม่ออก ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้ทําอะไรเลย
คนในบ้านมาช่วยผม ที่จริงเพื่อนบ้านก็มาช่วยกันทุกคน พวกเขาดึงชายคนนี้ออกจากผมได้และในที่สุดเขาก็เข้าคุก พวกเขาทุกคนชื่นชมวิธีที่ผมจัดการกับสถานการณ์นี้ และทุกคนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นยังทําทุกอย่างให้ผมจนถึงทุกวันนี้ ผมได้ประกันตัวชายคนนี้ออกมาจากคุกเพื่อให้เขาได้ไปฉลองวันเกิดกับลูกชายของเขา ตอนนี้เขากับผมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและเขาเคารพผมมาก
เรื่องที่สอง
อีกเรื่องหนึ่งค่อนข้างน่าตกใจ ผมเล่าเรื่องนี้โดยเฉพาะเพื่อผลลัพธ์สุดท้าย
ในปี 2017 อดีตภรรยาของผมและผมรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม เธอมีลูกของตัวเอง 4 คน แต่เรายังคงเลือกเส้นทางนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ ผมรู้ว่ามันจะยากเพราะเราเลือกรับเลี้ยงเด็กที่โตกว่าจากสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าในโคลอมเบีย อเมริกาใต้
ผมประหลาดใจที่ส่วนที่ยากที่สุดคือภรรยาของผม เธอหมกมุ่นอยู่กับเด็กชายคนนี้ และลูก ๆ ของเธอก็สังเกตเห็น เธอดูจะมีความเห็นอกเห็นใจเขาและสิ่งที่เขาผ่านมามาก แต่เธอทำเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเกี่ยวกับเขา ลูก ๆ ของเธออิจฉาทำให้ผมกังวล
เขาพูดอยู่เรื่อย ๆ ว่าเขากลัวและเขาต้องการให้มีคนนอนกับเขา แน่นอนว่าเธอยืนกรานที่จะนอนกับเขา ผมพยายามหยุดเธอแต่ไม่สำเร็จ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอขัดผมจริงๆ และผมรู้สึกขัดแย้ง
เธอเริ่มใช้เวลาว่างทั้งหมดที่มีกับเขา เธอถึงกับไปเที่ยวพักผ่อนกับเขาและทิ้งลูก ๆ ของเธอไว้กับผม ลูก ๆ ของเธอขอร้องให้เธอหยุดพฤติกรรมแปลก ๆ ทั้งหมดนี้เพราะมันส่งผลกระทบต่อพวกเขาเช่นกัน ทุกครั้งที่เราไม่เห็นด้วย เธอทําให้ผมรู้สึกว่าผมไม่เห็นใจภูมิหลังและสถานการณ์ที่เจ็บปวดของลูกชายของเรา ผมรู้สึกเหมือนกําลังเสียสติและเกิดภาวะสุขภาพที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งคือผมคิดว่าผมกําลังจะตายด้วยอาการหัวใจวายทุกคืน อาการนี้อยู่กับผมนานกว่า 4 ปี และน่าจะเกิดจากความหงุดหงิด สับสน และความโกรธของผม
หลังจากผ่านไป 18 เดือนที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความขัดแย้งมากมาย วันหนึ่งลูกชายของผมเริ่มตะโกนใส่ผมเมื่อผมว่าเขาว่าโกหก มันบานปลายจนถึงจุดที่เขาพุ่งเข้าใส่ผมและเราทะเลาะวิวาทกัน แน่นอนว่าภรรยาของผมตําหนิผม เธอพาเด็ก ๆ ออกจากบ้านไปหลายวัน ผมบอกให้เธอกลับบ้านและผมจะไปเอง เราแยกทางกันอย่างเป็นทางการ
เราพยายามซ่อมแซมความสัมพันธ์ของเราในช่วงหนึ่งปีที่เราแยกทางกัน และสุดท้ายผมก็ย้ายกลับเข้าบ้าน แต่สิ่งต่าง ๆ แย่กว่าเดิม ผมรู้สึกเหมือนกําลังจะบ้าและสถานการณ์ก็แย่สําหรับทุกคน มันแย่มากจนลูกเลี้ยงที่เป็นผู้หญิงคนสุดท้องของผมย้ายออกไปอยู่กับพี่สาวที่เป็นผู้ใหญ่แล้วของเธอ ผมย้ายออกอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน 2020 ก่อนการล็อกดาวน์โควิด หลายวันต่อมาผมตกงานและผมอาศัยอยู่คนเดียวในคอนโดสกปรกที่ห่างไกลจากครอบครัว เนื่องจากการระบาดใหญ่ ผมไม่สามารถออกจากบ้านได้และผมรู้สึกเหมือนกําลังเสียสติ
หลังจากหนึ่งปีของสภาพที่แยกอยู่อย่างโดดเดี่ยวนี้ แม่ของผมได้รับแจ้งว่าเธอเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ผมตัดสินใจย้ายไปฟลอริดาเพื่อดูแลเธอ ก่อนหน้านี้อดีตภรรยาและลูก ๆ ของผมก็ย้ายไปอยู่อีกส่วนหนึ่งของฟลอริดาด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ผมห่างเหินทางความรู้สึกจากเธอและเด็ก ๆ เนื่องจากความเจ็บปวดและความสับสนในใจของผม เธอโกรธมากที่ผมย้ายไปแม้ว่าเราจะหย่ากันอย่างเป็นทางการแล้วในเวลานี้จากการเลือกของเธอ
เจ็ดเดือนต่อมาสุขภาพของแม่ของผมแย่ลงอีกและผมไม่สบายใจมาก ถึงจุดนี้ 4 ปีได้ผ่านไปแล้วนับตั้งแต่การทะเลาะวิวาทกับลูกชายของผมและการแยกทางกับภรรยาครั้งแรก ลูกชายของผมซึ่งไม่ได้คุยกันมานานแล้วติดต่อผมเพราะ (เขาบอกว่า) เขาคิดถึงผม ผมตัดสินใจว่าวิธีเดียวที่จะผ่านปัญหานี้ไปได้คือการเผชิญหน้ากับมันและให้อภัยเขาอย่างแท้จริง เราตกลงที่จะพบกันที่ออร์แลนโด การพบกันครั้งนี้ดีมากและสะเทือนใจ และเราตัดสินใจติดต่อกันอีก หลายสัปดาห์ต่อมาแม่ของผมเสียชีวิต
สามสัปดาห์หลังจากแม่ของผมเสียชีวิต อดีตภรรยาของผมโทรหาผมและบอกว่าเธอต้องคุยกับผม เธอฟังดูว้าวุ่นมากและเราคุยกันสักพัก ในที่สุดเธอก็สารภาพว่าเธอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับลูกชายของเรา ความโกรธทั้งหมดที่เธอมีต่อผมก่อนหน้านี้เป็นหน้ากากเพื่อซ่อนความลับนี้ อารมณ์ความรู้สึกของเธอกำลังพังทลายและเธอบอกว่าเธอรู้สึกว่าเธอต้องสารภาพกับผม
ถึงแม้จะเจ็บปวดเมื่อได้ยิน แต่นี่คือสิ่งที่ผมจำเป็นต้องได้ยิน มันหมายความว่าผมไม่ได้บ้าและผมทำถูกต้องแล้วที่พยายามหยุดสิ่งที่ผมรู้สึกว่าพฤติกรรมของเธอที่มีต่อเขาไม่เหมาะสม การยอมรับของเธอในที่สุดก็ทําให้ผมเป็นอิสระและผมสามารถปล่อยวางทุกอย่างได้ เธอจงใจปล่อยให้ผมคิดว่าผมกําลังจะบ้าและทําให้ผมอยู่ในสภาพนั้นหลายปี ผมไม่ได้บ้า—ผมรู้โดยสัญชาตญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลังจากนี้ผมสามารถสู้หน้ากับครอบครัวได้อีกครั้ง ผมสามารถปล่อยวางทุกอย่างและเริ่มให้อภัย ผมสามารถพูดคุยกับอดีตภรรยา ลูกๆ ของเธอซึ่งไม่เคยหันหลังให้ผมและเก็บผมไว้ในใจเสมอ และแม้แต่ลูกชายของผม
กรอไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว 2 ปี : ผมได้สร้างความสัมพันธ์ใหม่อย่างสมบูรณ์กับลูกชายและลูกเลี้ยงและหลานของผม ผมไปเยี่ยมพวกเขาบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมให้อภัยอดีตภรรยาของผมและเราสามารถพูดคุยกันได้ อาจพูดได้ว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน ทั้งหมดที่ผมต้องการคือความจริง ผมสามารถทนต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะความอ่อนแอของผมมาจากความสับสนและความสงสัยในตัวเอง ลูกชายของผมถึงกับขอให้ผมช่วยร่วมลงนามกับเขาเรื่องรถและผมก็ตกลง เขาประสบปัญหาเรื่องเงินและผมสามารถหาที่ว่างในใจได้อย่างสบาย ๆ เพื่อช่วยเขา ตอนนี้เขาคืนเงินให้ผมแล้วเพราะเขาแก้ปัญหาเรื่องเงินได้แล้วและเราคุยกันบ่อย ๆ
ผมไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนเหล่านี้แล้วและหัวใจของผมเบามาก เนื่องจากการเลือกที่ถูกต้องบางอย่างของผม อดีตภรรยา ลูกเลี้ยง และหลาน ๆ และลูกชายของผม ทุกคนรักและเคารพผมมาก พวกเขาคอยดูแลผมอยู่เสมอและทําทุกอย่างเพื่อช่วยผม
บทสรุป
ชีวิตของผมมีสถานการณ์เช่นนี้มากมาย บางสถานการณ์รุนแรงกว่าที่ผมเล่าที่นี่ ผมคิดว่านี่อาจเป็นเพราะ ผมมีกรรมมากมายที่ต้องกําจัด
หลายครั้งเมื่อผมติดอยู่กับปัญหา ผมจะก็กลับไปอ่านหนังสือฝ่าหลุนกงเพื่อจะได้มีมุมมองที่แตกต่างออกไป ท่านอาจารย์กล่าวว่า
"เราเน้นความสามารถในการอดทนโดยเฉพาะ มีเพียงความอดทนเท่านั้นจึงจะสามารถบำเพ็ญเป็นผู้มีกุศลยิ่งใหญ่ได้ ความอดทนเป็นสิ่งที่แรงกล้ามาก เลยล้ำความจริงและความเมตตา ตลอดขั้นตอนของการบำเพ็ญล้วนบอกให้ท่านไปอดทน รักษาซินซิ่งให้มั่น ต้องไม่ทําสิ่งชั่วร้ายตามอําเภอใจ" (บทที่ 3 ฝ่าหลุนกง)
หนึ่งในสิ่งสุดท้ายที่ท่านอาจารย์บอกเราในจ้วนฝ่าหลุนคือ :
“อดทนยากก็สามารถอดทนได้ ปฏิบัติยากก็สามารถปฏิบัติได้” (บทที่ 9 จ้วนฝ่าหลุน)
เมื่อเราปล่อยวางความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ เราก็สามารถทําสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และทนต่อสิ่งที่ทนไม่ได้ได้จริง ๆ
นี่เป็นเพียงความเข้าใจของผม โปรดชี้แนะสิ่งที่ไม่อยู่ในฝ่า ขอบคุณที่อนุญาตให้ผมได้แบ่งปัน
(นําเสนอในการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ฟลอริดาปี 2024)
ลิขสิทธิ์ © 2023 Minghui.org สงวนลิขสิทธิ์
หมวดหมู่: การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์