(Minghui.org) ผู้คนมักส่งความปรารถนาดีให้แก่กันในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เนื่องในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ปี 2024 ที่ใกล้เข้ามา ผู้ฝึกเด็กในโทรอนโตขอขอบพระคุณอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าที่สอนหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนแก่พวกเขา

ผู้ฝึกเด็ก 4 คน อธิบายว่าการปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาพัฒนาคุณลักษณะทางศีลธรรมให้ดีขึ้นได้อย่างไร พวกเขาปรารถนาให้ผู้คนมากขึ้นรู้เกี่ยวกับผลกระทบด้านบวกของฝ่าหลุนต้าฝ่าที่มีต่อชีวิตของพวกเขา

ผู้ฝึกวัยเด็กในโทรอนโตขออวยพรท่านอาจารย์หลี่เนื่องในเทศกาลพระจันทร์ !

ผู้ฝึกเด็กเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในประเทศจีนและบอกผู้คนเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

การนําคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าไปปฏิบัติ

เหนิง เหนิง ขออวยพรอาจารย์หลี่เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

เหนิง เหนิง อายุ 8 ขวบ เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในเดือนกุมภาพันธ์ วันหนึ่งแทนที่จะฝึกท่าของต้าฝ่า เขากลับเล่นบาสเกตบอล เขาตระหนักว่าเขามีความยึดติดกับความเกียจคร้าน วันต่อมาเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องฝึกท่า ในตอนแรกเขาไม่อยากฝึก เขาพูดว่า "แต่ 5 นาทีต่อมา ความคิดที่ไม่อยากฝึกก็หายไป 10 นาทีต่อมา ผมก็สามารถฝึกได้ด้วยจิตใจที่สงบ แม้ว่าจะมีการรบกวนบ้าง แต่ในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้าย ผมก็สามารถทําสมาธิได้ ผมเข้าใจว่า ถ้าผมศึกษาคําสอนและฝึกท่าอย่างขยันหมั่นเพียร ความคิดที่ไม่ดีเหล่านั้นจะหายไป"

เพื่อน ๆ ของเหนิง เหนิง พูดคุยกับเพื่อนในชั้นเรียนของเขาและไม่สนใจเขา เขาคิดว่าคงจะดีถ้าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ไม่อยู่ที่นั่น เพื่อน ๆ ของเขาจะได้เล่นกับเขา ขณะเล่นบาสเกตบอล เพื่อน ๆ ของเขาช่วยเพื่อนร่วมชั้นที่เคยรังแกเขาในอดีตให้โยนลูกบาสเกตบอลลงห่วงได้ เหนิง เหนิง พูดว่า "ตอนนั้นผมอยากจะตีเขา แต่แล้วผมก็คิดว่าผมเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผมตีคนอื่นไม่ได้ จากเหตุการณ์นี้ ผมเห็นความอิจฉาริษยาของผม หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ของผมก็เลิกเพิกเฉยต่อผม"

เพื่อนร่วมชั้นของเขาซื้อรถควบคุมระยะไกลและให้คนอื่นเล่นมัน เหนิง เหนิง ถามว่า "ทําไมคุณไม่ให้ผมเล่นรถของคุณล่ะ ผมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณนะ" เขาตอบว่า "คุณเป็นเพื่อนสนิท แต่ไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดของผม" เขาตระหนักว่าเขาพูดแบบนั้นกับคนอื่นในอดีต และแบ่งเพื่อน ๆ ของเขาออกเป็น 3 กลุ่ม : เพื่อนทั่วไป เพื่อนที่ดี และเพื่อนที่ดีที่สุด เขาพูดว่า "ผมตระหนักว่าผมกําลังเลือกปฏิบัติต่อผู้คน และนี่คือจิตยึดติดที่ผมต้องกําจัด"

เหนิง เหนิง แจกแผ่นพับให้กับผู้คนที่บริเวณอธิบายความจริงใกล้กับหอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งชาติของแคนาดาเพื่อช่วยให้พวกเขาทราบความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายในประเทศจีน

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เหนิง เหนิง จะไปสถานที่อธิบายความจริงกับแม่ ที่นั่นไม่มีร่มไม้ในฤดูร้อนและพวกเขาต้องยืนอยู่หลายชั่วโมง วันหนึ่งเขาได้พบกับกลุ่มคนจากประเทศจีนที่หยาบคายกับเขา เขารู้สึกท้อแท้ แต่หลังจากที่ผู้ฝึกคนหนึ่งให้กําลังใจเขา เขาก็กลับมาร่าเริงอย่างรวดเร็วและแจกแผ่นพับต่อไป

คนส่วนใหญ่เป็นมิตรกับเด็ก ๆ และชมเชยเขาหลังจากรับแผ่นพับและยกนิ้วให้เขา เหนิง เหนิง และผู้ฝึกเด็กอีกคนหนึ่งได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งที่ต้องการเลี้ยงไอศกรีมเด็ก ๆ หลังจากเห็นการกระทําที่ดีของพวกเขา เมื่อเด็ก ๆ ปฏิเสธข้อเสนอของเธอ เธอก็หยิบช็อกโกแลตออกจากกระเป๋าของเธอและมอบให้พวกเขา และพูดว่าเธอหวังว่าพวกเขาจะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนําในอนาคต หลังจากที่ผู้ฝึกคนหนึ่งบอกเธอเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอพูดว่าเธอต้องการเรียนรู้การฝึกนี้

ในช่วงไม่กี่เดือนของการบำเพ็ญ เหนิง เหนิง แลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญของเขากับแม่ทุกวัน โดยบอกเธอว่าเขาทําด้านไหนได้ดีและด้านไหนที่เขาต้องปรับปรุง เนื่องในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ เขาขอบอกอาจารย์หลี่ว่า "แม้ว่าจะยากในระหว่างความยากลําบาก แต่ผมก็จะพยายามยกระดับ ในความขัดแย้ง ผมค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะคิดว่าตัวเองเป็นศิษย์ต้าฝ่า ขออวยพรท่านอาจารย์เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ !"

เรียนรู้ที่จะอดทนและนึกถึงคนอื่น

แอนนาขออวยพรท่านอาจารย์เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

แอนนาเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เธออารมณ์เสียเมื่อมีคนเอาของเล่นของเธอไป เมื่อพี่ชายของเธอได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็ไปหาเพื่อนร่วมชั้นที่เอาของเล่นของแอนนาไปและขอให้เธอเอาของเล่นมาคืน แอนนาบอกว่า "ฉันรู้สึกดีใจที่พี่ชายของฉันยืนหยัดเพื่อฉัน ฉันคิดว่าเขากําลังช่วยฉัน" แต่ครูบอกแอนนาและพี่ชายของเธอว่าพวกเขาควรนึงถึงคนอื่นมากกว่านี้

แอนนาตระหนักว่าเธอคิดผิด "พี่ชายของฉันอายุมากกว่าพวกเรา เมื่อเขาไปเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมชั้นของฉัน เธอจะกลัว ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยฉัน แต่สําหรับเด็กผู้หญิงคนนี้ การกระทําของพี่ชายของฉันขาดความเมตตาและนั่นไม่ถูกต้อง ฉันเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะอดทนเช่นกัน เด็กคนนี้เอาของเล่นของฉันไป แต่ฉันต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันสิ่งของของฉันแทนที่จะอารมณ์เสีย"

อีกครั้งหนึ่ง เด็กผู้หญิงหลายคนกําลังเล่นเกมกัน แอนนาต้องการเข้าไปเล่นกับพวกเขาด้วย แต่มีคนหนึ่งไม่อยากให้เธอเล่นกับพวกเขา แอนนาโต้เถียงกับเด็กผู้หญิงคนนี้และในที่สุดเธอก็ไม่สบายใจเช่นกัน เธอบอกแอนนาว่าเธอไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับแอนนาอีกแล้ว แอนนาเสียใจกับการกระทําของตัวเองเพราะเธอไม่ต้องการสูญเสียเพื่อนที่ดีคนนี้ ตามคําสอนของท่านอาจารย์ เธอค้นหาจากภายในและพบปัญหาของเธอ "ฉันค้นพบว่ามันเป็นจิตต่อสู้ของฉัน และฉันขอโทษ ฉันบอกเธอว่าฉันหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคต"

แอนนาฝึกท่าที่ 2 ของฝ่าหลุนต้าฝ่า

แอนนาเข้าร่วมฝึกท่ากับกลุ่มพร้อมกับพี่ชายของเธอ เธอต้องการบอกท่านอาจารย์ว่า "เมื่อฉันฝึกท่าชุดที่ 2 (ฝ่าหลุนจวงฝ่า) แม้ว่าแขนของฉันจะปวด แต่ฉันก็ยืนหยัด ฉันหวังว่าท่าเคลื่อนไหวของฉันจะถูกต้องยิ่งขึ้นในอนาคต ขอบพระคุณท่านอาจารย์ !"

ใส่ใจกับจิตยึดติดและกําจัดมัน

โอเวนขอบคุณท่านอาจารย์ที่สอนให้เขาเป็นคนดีและขออวยพรท่านอาจารย์หลี่เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

โอเวนในวัย 9 ขวบ บอกว่าเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งไม่รู้วิธีเล่นกีฬา เขาและเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ก็เลยหัวเราะเยาะเพื่อนคนนี้ เขารู้สึกผิดหลังจากนั้น "ผมปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมชั้นไม่ดีและดูถูกคนอื่น เพื่อนต้องเหงาและเศร้า ผมมุ่งมั่นที่จะกําจัดพฤติกรรมที่ไม่ดีของผม"

วันต่อมา ระหว่างชั้นเรียนเต้นรํา การเคลื่อนไหวของเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ไม่ประสานกัน โอเวนพูด "ผมเกือบจะอยากหัวเราะเยาะเขา แต่แล้วผมก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานและเตือนตัวเองว่าอย่าปฏิบัติต่อคนอื่นแบบนั้น ผมดีใจที่ครั้งนี้ผมสามารถควบคุมตัวเองได้ ผมรู้สึกว่าผมยกระดับขึ้นแล้ว เราไม่ควรทํากับคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่อยากให้คนอื่นทํากับคุณ ผมไม่ชอบให้เพื่อนร่วมชั้นหยอกเย้าผม ดังนั้นผมจึงไม่ควรหัวเราะเยาะคนอื่น"

ครั้งหนึ่งเพื่อนของโอเวนแพ้การแข่งขันฟุตบอล เขารู้สึกหดหู่เพราะคู่ต่อสู้ชนะด้วยการโกง โอเวนอารมณ์เสียกับความอยุติธรรมที่เพื่อนของเขาได้รับ ต่อมาเมื่อเขาค้นหาจากภายใน เขาก็ค้นพบว่า "ไม่ได้หมายความว่าผมยึดติดกับการได้และการเสียหรือ"

มีอีกวันหนึ่งในช่วงบ่าย เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งคัดลอกคําตอบที่ด้านหลังของหนังสือเรียนเพื่อทําการบ้านให้เสร็จเร็ว ๆ เมื่อโอเวนเห็นสิ่งที่เขาทํา เขาก็อดไม่ได้ที่จะทําเหมือนกัน หลังจากนั้นโอเวนก็คิดว่าสิ่งที่เขาทําไม่เหมาะสม "ผมขี้เกียจและต้องการทําการบ้านให้เสร็จเร็ว ๆ เพื่อที่ผมจะได้ไปเล่น ผมไม่ได้บำเพ็ญ "ความจริง" ตามความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ผมกําลังหลอกอาจารย์และหลอกตัวเอง"

โอเวน (คนที่ 3 จากขวา) เข้าร่วมกิจกรรมวันฝ่าหลุนต้าฝ่ากับเด็กอื่น

ในปีนี้โอเวนแสดงในรายการบนเวทีในช่วงวันฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาบอกว่า "การฝึกเต้นเป็นงานหนัก ผมรู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่าเมื่อได้ยินเสียงผู้ชมปรบมือ ผมต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอธิบายความจริงมากขึ้นในอนาคต"

โอเวนต้องการแสดงความขอบคุณท่านอาจารย์หลี่เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ "ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่สอนผมหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้ผมสามารถยกระดับตัวเองในชีวิตประจําวันได้ ผมจะขยันหมั่นเพียรและเป็นศิษย์ต้าฝ่าเด็กที่มีคุณสมบัติเหมาะสม"

ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ขอสิ่งตอบแทน

จุนเร็นขอบคุณท่านอาจารย์หลี่ที่สอนให้เขาคิดถึงผู้อื่นโดยไม่ขออะไรตอบแทน

จุนเร็นอายุ 11 ปี บำเพ็ญไปกับแม่ของเขา เขาเปลี่ยนเป็นเด็กที่อดทนที่คิดถึงผู้อื่นโดยไม่ขออะไรตอบแทน

เพื่อน ๆ ร่วมชั้นเรียนของจุนเร็นนําขนมมาที่โรงเรียน ครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งนําลูกอมมาแบ่งให้กับเด็กอื่น ๆ แต่ไม่แบ่งให้จุนเร็น เมื่อจุนเร็นขอลูกอมจากเธอ เธอไม่ยอมให้ เขาโกรธและคิดว่า "ผมให้ลูกอมเธอทุกครั้งที่ผมเอาลูกอมมาที่โรงเรียน ผมปฏิบัติต่อเธออย่างดีและช่วยเธอเสมอทุกครั้งที่เธอขอ ผมรู้สึกว่าผมถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมและโกรธเล็กน้อย"

ต่อมาเขาตระหนักว่าเขาไม่ควรขอขนมจากคนอื่น และควรกําจัดความยึดติดกับความโลภของตัวเอง นอกจากนี้เขาไม่ควรต้องการได้รับการตอบแทนเมื่อเขาปฏิบัติดีต่อผู้อื่น มิฉะนั้นจะเป็นการยึดติดกับการได้ประโยชน์

จุนเร็น (คนที่ 3 จากขวา) เข้าร่วมในพิธีเชิญธงในวันฝ่าหลุนต้าฝ่า

จุนเร็นเข้าร่วมพิธีเชิญธงในวันฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย เขาหวังว่าผู้คนจํานวนมากขึ้นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการฝึกต้าฝ่า เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ใกล้เข้ามา เขาขอพูดกับอาจารย์หลี่ว่า "ผมขออวยพรท่านอาจารย์เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ! ผมหวังว่าผมจะตัวสูงเมื่อโตขึ้นเพื่อวันหนึ่งจะได้เต้นกับเสิ่นยวิ่น !"