การเล่นสมาร์ตโฟนทำให้เจิ้งเนี่ยนของเราเบี่ยงเบนและชักนำเราให้ออกห่างจากการบำเพ็ญ

(Minghui.org) Minghui.org ได้เผยแพร่หลายบทความเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือ ฉันขอพูดถึงความเข้าใจที่ผิวเผินของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันเห็นบทความออนไลน์เรื่อง “เขาหาตำแหน่งปัจจุบันของฉันได้อย่างง่ายดาย” ซึ่งส่วนใหญ่พูดถึงปัญหาเกี่ยวกับการหาตำแหน่งปัจจุบันของโทรศัพท์มือถือได้ง่ายเพียงไรเพราะผู้คนใช้ WeChat ฉันไม่ได้พูดถึงปัญหาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือ นี่เป็นปัญหาที่ชัดเจน ฉันจึงไม่ขอขยายความ สิ่งที่ฉันต้องการพูดคือการเล่นโทรศัพท์มือถือและใช้ WeChat และแอปพลิเคชันที่คล้ายกันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ฝึกอย่างร้ายแรง

หลังจากที่เว็บไซต์หมิงฮุ่ยเผยแพร่ “สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต้องรู้” ในปี 2018 ผู้ฝึกในท้องถิ่นส่วนใหญ่ลบ WeChat และซอฟต์แวร์ที่ไม่ปลอดภัยอื่น ๆ ตามที่หมิงฮุ่ยระบุ ฉันเพียงแค่เปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าสองเครื่อง ฉันใช้เครื่องหนึ่งสำหรับโทรหาคนที่ไม่ใช่ผู้ฝึก และอีกเครื่องหนึ่งสำหรับโทรหาเพื่อนผู้ฝึก เครื่องนี้ไม่แสดงชื่อจริงของฉัน และฉันมักปิดมันไว้เสมอ โดยทั่วไปฉันจะไม่โทรหาเพื่อนผู้ฝึกยกเว้นเมื่อมีสถานการณ์รุนแรง และฉันพยายามหลีกเลี่ยงอันตรายด้านความปลอดภัยที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันสังเกตว่าผู้ฝึกจำนวนมากทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ของฉันเท่านั้น กลับมาใช้ WeChat และดูวิดีโอและอื่น ๆ ของคนธรรมดาสามัญ บางคนติดสิ่งเหล่านี้มาก เมื่อเกิดปัญหาร้ายแรงในการบำเพ็ญ พวกเขาหยุดไม่ได้แม้ว่าจะมีคนเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันสังเกตว่าผู้ฝึกเหล่านี้มีปัญหาในการบำเพ็ญ ที่พบบ่อยที่สุดคือพวกเขามีปัญหาในการศึกษาฝ่า เราไม่สามารถเข้าใจฝ่าได้อย่างถ่องแท้ถ้าเราง่วงนอน แล้วมันหมายความว่าอะไรถ้าคุณไม่สามารถศึกษาฝ่า นี่ไม่ใช่จุดจบของทุกสิ่งในการบำเพ็ญหรือ สภาวะที่ไม่ถูกต้องต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่ตัวอย่างของผู้ฝึกในพื้นที่ของฉัน

จิง อายุ 81 ปี เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1996 เธอขยันมากและเริ่มพิมพ์เอกสารอธิบายความจริงไม่นานหลังจากการประทุษร้ายเริ่มขึ้น คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านของเธอลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ แต่เธอดูข่าวและวิดีโอบน Dynaweb บางครั้งนานหลายชั่วโมง ประมาณ 5 ปีที่แล้ว สามีของเธอเสียชีวิตและเธออาศัยอยู่เพียงลำพัง หลายปีแล้วที่เธอไม่สามารถปล่อยวางจิตยึดติดในอารมณ์ความรู้สึกผูกพันที่มีต่อเขาได้

เพื่อเติมเต็มชั่วโมงว่าง เธอดูวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือ สุขภาพของเธอเริ่มแย่ลง เธอเกือบจะสูญเสียการมองเห็น และเธอเดินได้อย่างยากลำบาก ฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว จู่ ๆ เธอก็ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม เธอลืมฝึกท่าและลืมฟาเจิ้งเนี่ยน ตอนนี้เธอทำสามสิ่งไม่ได้เลย เธอผ่ายผอมและพึมพำอยู่ตลอดว่า “ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว” ในสภาพนี้ เธอจะยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิตได้อย่างไร

เฉิน ซึ่งมีอายุเพียง 50 กว่าปี เริ่มฝึกต้าฝ่าในปี 1996 เช่นกัน เขาเป็นพ่อค้าขายของริมถนน เขาต้องทนทุกข์ทรมานมากมายตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มติดการอ่านนวนิยายบนโทรศัพท์มือถือ และไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่ออ่านฝ่า เขาง่วงทันทีที่เขาหยิบหนังสือขึ้นมา ท่านอาจารย์มีเมตตาและจัดวางให้ผู้ฝึกผลัดกันอ่านฝ่ากับเขาทุกวัน เขายังคงง่วงนอนมากและผู้ฝึกหลายคนแนะนำเขาอย่างจริงจังให้หยุดอ่านนวนิยาย

หลังจากความพยายามอย่างหนักในการกำจัดจิตยึดติดของเขา ในที่สุดเขาก็หยุดอ่านนวนิยายบนโทรศัพท์มือถือได้ และค่อย ๆ มีสมาธิเมื่อเขาศึกษาฝ่า อย่างไรก็ตาม เมื่อสองปีที่แล้ว เขาเริ่มดูวิดีโอบนโทรศัพท์มือถืออีก เขาง่วงมากในขณะที่ศึกษาฝ่าจนทำหนังสือหล่น บางครั้งเขาง่วงนอนแม้ในขณะที่ยืนอยู่ นอกจากนี้ เขายังมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองอ่อน ๆ ด้วย คำพูดของเขาสับสนและจิตใจเชื่องช้าลง

ผู้ฝึกที่อ่านฝ่ากับเขาเป็นห่วงเขามาก พวกเขาให้กำลังใจเขาเกือบทุกวัน บอกเขาว่าการเล่นโทรศัพท์มือถืออันตรายแค่ไหน และอ่านฝ่าของท่านอาจารย์ให้เขาฟัง ทุกวันเขาสัญญาว่าจะหยุดเล่นโทรศัพท์ แต่พอเขาไปทำงาน เขาก็เริ่มดูอีก เขาหยุดไม่ได้ เขาล้มสองครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้แต่เขาไม่ได้ค้นหาจากภายใน เขามักจะโกรธคนธรรมดาสามัญและแช่งด่าพวกเขา เขาไม่สามารถอธิบายความจริงให้ใครได้

ไอหยิน อายุ 50 กว่าปี เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1998 เธอทำสามสิ่งนับตั้งแต่การประทุษร้ายเริ่มต้นขึ้นและเข้าร่วมอ่านฝ่ากับกลุ่ม แต่เธอตกหลุมรัก WeChat เธอรู้สึกง่วงเมื่ออ่านฝ่าและลืมวิธีบำเพ็ญ เธอไม่สามารถสงบนิ่งและไม่สามารถผ่านการทดสอบเกี่ยวกับครอบครัว เธอมักมีความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานและบางครั้งก็ตีกันจริง ๆ ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของต้าฝ่าเสียหายอย่างร้ายแรง เธอไม่อ่านฝ่ากับกลุ่มแล้ว เธอพูดเองว่าเธอมีเวลาให้กับการกินและนอนเท่านั้น และไม่สามารถอ่านฝ่า

มันน่าเสียใจ ยังมีตัวอย่างที่คล้ายกันอีกมากมาย ผู้ฝึกบางคนอาจพูดว่า “คุณเกษียณแล้วและไม่ได้ทำงานแล้ว แน่นอนว่าคุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้ WeChat” แล้วบทความแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ผู้ฝึกบางคนที่ยังทำงานได้ดีโดยไม่ต้องใช้ WeChat ล่ะ

ฉันคิดว่าสมาร์ตโฟนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังจริง ๆ ที่อิทธิพลเก่าใช้เพื่อให้ศิษย์ต้าฝ่าและคนทั่วไปไขว้เขว ระดับชั้นของฉันมีจำกัด ฉันจึงจะไม่ขยายความต่อ ผู้ฝึกจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหานี้ทางออนไลน์ พวกเขาทั้งหมดได้ถกเรื่องนี้ในเชิงลึกและอธิบายจุดสำคัญ ฉันแนะนำให้ผู้ฝึกที่ยังคงเล่นโทรศัพท์และใช้ WeChat ว่าให้อ่านบทความแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยึดติดกับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ฉันหวังว่า Minghui.org จะเผยแพร่บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้

ฉันช่วยผู้ฝึกหลายคนส่งการ์ดอวยพรถึงท่านอาจารย์เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ พวกเขาเกือบทุกคนใช้ประโยคเดิมซ้ำ ๆ กันคือ “เราต้องกลับบ้านพร้อมกับท่านอาจารย์ !” ฉันคิดว่า “ความปรารถนานี้ไม่มีอะไรผิด แต่มีมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับความปรารถนานี้ และเราต้องกำจัดความยึดติดของมนุษย์ของเราทั้งหมด”

ฉันขอถามผู้ที่ยังหมกมุ่นอยู่กับโทรศัพท์มือถือและยังไม่สามารถหลุดออกจากปัญหานี้ว่า “คุณจะสามารถกลับคืนสู่บ้านที่แท้จริงของคุณถ้าคุณยังยึดพระพุทธด้วยมือข้างหนึ่งและยึดการเป็นมนุษย์ด้วยมืออีกข้างหนึ่งได้หรือ” สรรพชีวิตในโลกสวรรค์ของคุณกำลังรอคอยให้คุณกลับไปอย่างใจจดใจจ่อ

ต่อไปนี้เป็นข้อความจากคำสอนของท่านอาจารย์ :

“ถาม : สภาพการบำเพ็ญดีบ้างไม่ดีบ้าง บางครั้งยึดติดกับของที่ชอบ ดูคอมพิวเตอร์ เล่นเครื่องเล่นเกมส์ เล่นมือถือ การบำเพ็ญเสียเวลาไปเปล่า ๆ จะควบคุมตัวเองได้อย่างไร ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ

“อาจารย์ : คนพูดว่าเสพติด ข้าพเจ้าขอบอกทุกคนอะไรที่เรียกว่าเสพติด ในทางการแพทย์ ผู้คนเข้าใจว่า เส้นประสาทถูกกระตุ้น เมื่อพัฒนาต่อไปก็กลายเป็นเสพติด ที่จริงไม่ใช่ แล้วคืออะไรละ ข้างในร่างกายของคุณ เวลานานเข้าสะสมรูปลักษณ์หนึ่งที่เหมือนคุณทุกประการ ทว่ากลับประกอบขึ้นมาจากสิ่งนั้น ควบคุมคุณไว้ เพราะว่ามันเป็นรูปลักษณ์ของคุณที่ประกอบขึ้นมาจากการยึดติดที่รุนแรงมาก ดังนั้นมันจึงมีกำลังมากจนสามารถควบคุมใจของคุณได้ เพราะมันเกิดจากจิตยึดติดที่รุนแรงมาก

“แม้แต่การเสพยาก็ใช่ พวกเสพยาบางคนบอกว่าไม่มีปัญหา ฉันแค่ลองเสพ ไม่เป็นไร ใช่ รู้สึกว่าไม่เลว ลองอีกที ไม่มีปัญหา ลองอีกที ได้เรื่องแล้ว ควบคุมไม่ได้แล้ว ทำไมละ หลังจากเสพสารนั้นเข้าไปอยู่ในร่างกายคุณ ก็จะเกิดเป็นคุณคนหนึ่งที่บาง ๆ จาง ๆ ครั้งเดียวก็เกิดได้ เพราะมันมีฤทธิ์แรง พอเสพครั้งที่สอง ตัวคุณที่บาง ๆ จาง ๆ ก็เปลี่ยนเข้มข้นขึ้น เสพอีก มันก็เข้มข้นขึ้น ยิ่งเสพ ยิ่งเข้มข้น มันจึงยิ่งแข็งแรง แม้แต่ทั่วทั้งโครงสร้างร่างกายของคุณล้วนมี ในความคิดก็มี ทั้งหมดล้วนเป็นตัวคุณที่มีจิตมาร ซึ่งประกอบขึ้นจากสารพิษ แน่ละ มันคงไม่ทำอย่างอื่น มันต้องเสพสารพิษ ถ้าหมดแล้ว ไม่เสพไม่ได้ เพราะอะไรละ เพราะมันมีชีวิตขึ้นมาแล้ว หลังจากมีชีวิตแล้ว ทุกคนทราบ คุณไม่เสพนะ ร่างกายของคุณมีการผลัดเซลล์ใหม่ มันก็จะค่อย ๆ จางลง จางหายไปเรื่อย ๆ มันก็ตาย มันไม่อยากตาย ดังนั้นมันต้องให้คุณไปเสพ เสพให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น

“การเล่นคอมพิวเตอร์กับเครื่องเล่นเกมส์เกิดผลอย่างเดียวกัน เป็นเหตุผลเดียวกัน คุณเลิกแล้ว คุณเลิกแล้วจะให้ฉันตายหรือ ไม่ได้ ฉันต้องให้คุณดู ไม่ดูหรือ ก็ไม่ให้คุณทำงาน ไม่ให้คุณเรียนหนังสือ ก็จะให้ความคิดของคุณคิดจะไปเล่นมัน ไม่ดู ฉันจะให้คุณเล่น แม้ขณะนอนฝัน

“คนหนา ข้าพเจ้าคิดอยู่เสมอว่า คน ง่ายที่จะถูกสิ่งของอย่างอื่นควบคุม ร่างกายคน มันเป็นเพียงเครื่องนุ่มห่มธัญพืชทั้งห้าที่พ่อแม่ให้ กินธัญพืช มันก็เติบโต ช่างอ่อนแอนัก ใครล้วนสามารถควบคุม สิ่งที่ก่อเกิดในมิติอื่นล้วนมีวิญญาณ แม้ว่าจะเป็นวิญญาณระดับต่ำ ก็สามารถจะควบคุมได้ เพราะร่างกายคนมันอ่อนแอ” (การบรรยายฝ่าที่นิวยอร์ก ค.ศ. 2019)