ลัทธิคอมมิวนิสต์แพร่หลายในสหรัฐอเมริกาแค่ไหน

(Minghui.org) เมื่อสหรัฐอเมริกาถูกสถาปนาขึ้นเป็นประเทศ ระบบสาธารณรัฐต่อต้านระบบราชาธิปไตยอย่างชัดเจน และเน้นการปกครองด้วยกฎหมายและการแบ่งแยกอํานาจของรัฐบาล ต่อมาระบบประชาธิปไตยเกิดขึ้นและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในการตัดสินใจ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่อํานาจอธิปไตยของประชาชนและการปกครองโดยเสียงข้างมาก ทําให้มีการนําเข้าคนต่างด้าวผิดกฎหมายจํานวนมาก และให้พวกเขาลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ

ระบบประชาธิปไตยดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับระบบสาธารณรัฐ ในขณะที่สาธารณรัฐเน้นที่การไม่มีกษัตริย์ – อํานาจอยู่ในมือของประชาชนหรือตัวแทนของพวกเขา และความเป็นผู้นําไม่ได้สืบทอดทางสายเลือด – ระบบนี้มุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบและถ่วงดุลภายในโครงสร้างของรัฐบาล

หลายคนในสหรัฐอเมริกาคิดว่าลัทธิคอมมิวนิสต์อยู่ไกลตัวหรือไม่มีอยู่จริง แต่อาจไม่ใช่เช่นนั้น ผู้คนจําเป็นต้องตื่นขึ้นมารับรู้ความจริงที่ว่าปีศาจคอมมิวนิสต์ได้ควบคุมมนุษยชาติโดยมีเป้าหมายเพื่อทําลายมนุษย์ และสหรัฐอเมริกาเป็นอุปสรรคที่ขวางทางมันอยู่ เพื่อบรรลุเป้าหมายของมัน ปีศาจคอมมิวนิสต์ได้ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในทุกแง่มุมของสหรัฐฯ และค่อย ๆ เปลี่ยนประเทศนี้ให้กลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์

เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ใกล้จะบรรลุเป้าหมายในสหรัฐอเมริกาเพียงใด เราควรดูว่าลัทธิคอมมิวนิสต์แสดงออกอย่างไรในโลกเสรีจากแง่มุมต่อไปนี้ :

การตัดขาดระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกาห้ามการอธิษฐานหรือสวดมนต์อย่างเปิดเผย และสอนเรื่องวิวัฒนาการและอเทวนิยม มนุษย์ถูกจัดประเภทเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสัตว์ และได้รับการสนับสนุนให้แสดงธรรมชาติแบบสัตว์ร้ายแทนที่จะปฏิบัติตามศีลธรรมดั้งเดิม

ในชุมชนของผู้ที่มีความเชื่อทางจิตวิญญาณ ผู้นําทางศาสนาและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้เข้ามาแทนที่บทบาทของพระเจ้าและจ้าวผู้สร้าง ค่านิยมของครอบครัวไม่ได้รับการส่งเสริมแล้ว แต่กลับส่งเสริมการละทิ้งความรับผิดชอบในครอบครัว การสำส่อนทางเพศ การทําแท้ง และการหย่าร้าง พ่อแม่ถูกลิดรอนสิทธิในการให้การศึกษาแก่ลูกของตนเอง

การกำจัดกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล

การสร้างรัฐบาลขนาดใหญ่และสหภาพแรงงาน ทำให้รัฐบาลควบคุมชีวิตของประชาชน การศึกษา การรักษาพยาบาล ที่อยู่อาศัย และการค้า ประชาชนจึงพึ่งพารัฐบาลมาก อิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ยังคงขยายตัวต่อจนกว่าจะควบคุมได้ทุกแง่มุม

กวาดล้างระบบสังคมและการเมืองแบบดั้งเดิม

ในสหรัฐอเมริกา ระบบสาธารณรัฐกําลังถูกแทนที่ด้วยระบบประชาธิปไตย ในขณะเดียวกัน ระบบสังคมนิยมหรือลัทธิคอมมิวนิสต์กําลังถูกปลูกฝังในสังคมผ่านความรุนแรง คนกลุ่มหนึ่งกําลังใช้ความรุนแรงเพื่อล้มล้างระบบสังคมปัจจุบันเพื่อให้พวกเขาสามารถขโมย ทําลาย สังหาร และยึดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีได้อย่างอิสระ ความเกลียดชัง ความรุนแรง และความกลัวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประชาชน

หนังสือThe Naked Communist (1958) ซึ่งเขียนโดย W. Cleon Skousen เปิดเผยเป้าหมาย 45 ประการของคอมมิวนิสต์ที่มุ่งเป้าไปที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เป้าหมายดังกล่าวมีดังนี้

1. การยอมรับการอยู่ร่วมกันของสหรัฐฯ เป็นทางเลือกเดียวสําหรับสงครามนิวเคลียร์

2. ความเต็มใจของสหรัฐฯ ที่จะยอมจํานนมากกว่าการมีส่วนร่วมในสงครามนิวเคลียร์

3. พัฒนาภาพลวงตาว่าการปลดอาวุธโดยสิ้นเชิงของสหรัฐอเมริกาเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางศีลธรรม

4. อนุญาตให้มีการค้าเสรีระหว่างทุกประเทศโดยไม่คํานึงว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์หรือไม่ และไม่คำนึงว่าสินค้านั้นจะสามารถใช้ในสงครามได้หรือไม่

5. การขยายการให้เงินกู้ระยะยาวแก่รัสเซียและประเทศบริวารของโซเวียต

6. ให้ความช่วยเหลือจากอเมริกาแก่ทุกประเทศโดยไม่คํานึงถึงการครอบงําโดยคอมมิวนิสต์

7. ให้การยอมรับจีนแดง (Red China) การรับจีนแดงเข้าสหประชาชาติ

8. สถาปนาเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตกให้เป็นรัฐที่แยกออกจากกัน แม้ว่าครุสชอฟจะให้คํามั่นสัญญาในปี 1955 ว่าจะจัดการปัญหาเยอรมนีด้วยการเลือกตั้งเสรีภายใต้การกำกับดูแลของสหประชาชาติ

9 ยืดเวลาการประชุมเพื่อห้ามการทดลองนิวเคลียร์ เนื่องจากสหรัฐฯ ตกลงที่จะระงับการทดลองตราบใดที่การเจรจายังดําเนินอยู่

10. อนุญาตให้ประเทศบริวารของโซเวียตทั้งหมดเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศในสหประชาชาติ

11 ส่งเสริมสหประชาชาติว่าเป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติ หากมีการเขียนกฎบัตรขึ้นมาใหม่ ก็เรียกร้องให้จัดตั้งเป็นรัฐบาลโลกหนึ่งเดียว ที่มีกองกําลังติดอาวุธอิสระของตนเอง (ผู้นําคอมมิวนิสต์บางคนเชื่อว่าสหประชาชาติสามารถยึดครองโลกได้ง่ายพอ ๆ กับมอสโก บางครั้งศูนย์ทั้งสองนี้แข่งขันกันดังที่เป็นอยู่ตอนนี้)

12 ต่อต้านทุกความพยายามที่จะห้ามพรรคคอมมิวนิสต์

13. ยกเลิกคําปฏิญาณตนเพื่อแสดงความจงรักภักดีทั้งหมด

14. ให้รัสเซียเข้าถึงสํานักงานสิทธิบัตรของสหรัฐฯ ต่อไป

15. ยึดครองพรรคการเมืองหนึ่งพรรคหรือทั้งสองพรรคในสหรัฐอเมริกา

16. ใช้คําตัดสินทางเทคนิคของศาลเพื่อทําให้สถาบันพื้นฐานของอเมริกาอ่อนแอลงโดยอ้างว่ากิจกรรมของสถาบันเหล่านี้ละเมิดสิทธิพลเมือง

17. ควบคุมโรงเรียน ใช้โรงเรียนเป็นช่องทางถ่ายทอดแนวคิดสังคมนิยมและการโฆษณาชวนเชื่อของคอมมิวนิสต์ในปัจจุบัน ทําให้หลักสูตรอ่อนลง ควบคุมสมาคมครู ใส่แนวของพรรคในตําราเรียน

18. ควบคุมหนังสือพิมพ์นักเรียนทั้งหมด

19. ใช้การจลาจลของนักเรียนพื่อปลุกระดมให้เกิดการประท้วงของสาธารณชนต่อต้านโครงการหรือองค์กรที่ถูกคอมมิวนิสต์โจมตี

20. แทรกซึมสื่อมวลชน ควบคุมการมอบหมายงานวิจารณ์หนังสือ การเขียนบทบรรณาธิการ และตําแหน่งที่กำหนดนโยบาย

21. ควบคุมตําแหน่งสําคัญในวิทยุ โทรทัศน์ และภาพยนตร์

22. ทําลายชื่อเสียงของวัฒนธรรมอเมริกันอย่างต่อเนื่องโดยลดคุณค่าการแสดงออกทางศิลปะทุกรูปแบบ เซลล์คอมมิวนิสต์อเมริกันได้รับคําสั่งให้ "กําจัดประติมากรรมที่ดีทั้งหมดออกจากสวนสาธารณะและอาคาร แล้วแทนที่ด้วยรูปแบบที่ไม่มีรูปร่าง น่าเกลียด และไร้ความหมาย"

23. ควบคุมนักวิจารณ์ศิลปะและทิศทางของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ "แผนของเราคือการส่งเสริมความน่าเกลียด ศิลปะที่น่ารังเกียจและไร้ความหมาย"

24. กําจัดกฎหมายทั้งหมดที่ควบคุมความลามกอนาจาร โดยเรียกกฎหมายเหล่านี้ว่า "การเซนเซอร์" และการละเมิดเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อ

25. ทําลายมาตรฐานของศีลธรรมทางวัฒนธรรมโดยการส่งเสริมสื่อลามกและความลามกอนาจารในหนังสือ นิตยสาร ภาพยนตร์ วิทยุ และโทรทัศน์

26. นําเสนอพฤติกรรมรักร่วมเพศ ความเสื่อมทราม และความสําส่อน ว่าเป็นสิ่งที่ "ปกติ เป็นธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ"

27. แทรกซึมเข้าไปในคริสตจักรและแทนที่ศาสนาที่ได้รับการเปิดเผยจากเบื้องบน ด้วยศาสนาทาง "สังคม" ทําลายความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์ และเน้นย้ําถึงความจําเป็นของการมีวุฒิภาวะทางปัญญาซึ่งไม่ต้องการ "เครื่องค้ำจุนทางศาสนา"

28. กําจัดการสวดมนต์หรือการแสดงออกทางศาสนาในโรงเรียน โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดหลักการ "การแยกศาสนจักรออกจากรัฐ"

29. ทําลายความน่าเชื่อถือของรัฐธรรมนูญอเมริกัน โดยบอกว่า มันไม่เพียงพอ ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับความต้องการสมัยใหม่ เป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับโลก

30. ทำลายความน่าเชื่อถือของบิดาผู้ก่อตั้งประเทศอเมริกา โดยนําเสนอว่าพวกเขาเป็นชนชั้นสูงที่เห็นแก่ตัวซึ่งไม่สนใจ "สามัญชน"

31. ดูถูกวัฒนธรรมอเมริกันทุกรูปแบบ และกีดกันการสอนประวัติศาสตร์อเมริกันโดยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงส่วนเล็กของ "ภาพรวมขนาดใหญ่" ให้เน้นประวัติศาสตร์รัสเซียมากขึ้นนับตั้งแต่คอมมิวนิสต์เข้ายึดอำนาจ

32. สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางสังคม เพื่อให้การควบคุมแบบรวมศูนย์เหนือทุกส่วนของวัฒนธรรม ทั้ง การศึกษา องค์กรทางสังคม โครงการสวัสดิการ คลินิกสุขภาพจิต ฯลฯ

33. กําจัดกฎหมายหรือขั้นตอนที่ขัดขวางการทํางานของกลไกคอมมิวนิสต์

34. กําจัดคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยกิจกรรมที่ไม่ใช่อเมริกัน

35. ทำลายความน่าเชื่อถือของ FBI และยุบ FBI ในที่สุด

36. แทรกซึมและควบคุมสหภาพแรงงานให้มากขึ้น

37. แทรกซึมและเข้าควบคุมธุรกิจขนาดใหญ่

38. โอนอํานาจการจับกุมบางส่วนจากตํารวจไปยังหน่วยงานทางสังคม ปฏิบัติต่อปัญหาพฤติกรรมทั้งหมดเป็นความผิดปกติทางจิตเวชที่ไม่มีใครนอกจากจิตแพทย์ที่สามารถเข้าใจหรือรักษาได้

39. ครอบงําวิชาชีพจิตเวชและใช้กฎหมายสุขภาพจิตเป็นเครื่องมือในการบีบบังคับผู้ที่ต่อต้านเป้าหมายของคอมมิวนิสต์

40. ทําลายความน่าเชื่อถือของสถาบันครอบครัว ส่งเสริมความสําส่อนและการหย่าร้างที่ง่ายดาย

41. เน้นย้ําถึงความจําเป็นในการเลี้ยงดูบุตรธิดาให้ห่างจากอิทธิพลในทางลบของพ่อแม่ โดยโยนความผิดในเรื่องอคติ การปิดกั้นทางจิตใจ และพัฒนาการที่ล่าช้าของเด็ก ให้เป็นผลจากอิทธิพลที่กดขี่ของพ่อแม่

42. สร้างภาพว่าความรุนแรงและการจลาจลเป็นแง่มุมที่ถูกต้องตามกฎหมายของธรรมเนียมปฏิบัติอเมริกัน โดยที่นักเรียนและกลุ่มผลประโยชน์พิเศษควรลุกขึ้นมา และใช้ "กองกำลังร่วม" เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม

43. โค่นล้มรัฐบาลอาณานิคมทั้งหมด ก่อนที่ประชากรพื้นเมืองจะพร้อมสําหรับการปกครองตนเอง

44. ทําให้คลองปานามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนานาชาติ

45. ยกเลิกข้อสงวน Connally เพื่อให้ศาลโลกสามารถแทรกแซงและมีอำนาจตัดสินปัญหาในสหรัฐฯ ได้โดยตรง รวมถึงให้อำนาจศาลโลกมีสิทธิ์ตัดสินเหนือรัฐบาลและประชาชนของแต่ละประเทศ

รายการข้างต้นช่วยให้เราเห็นว่า เป้าหมายส่วนใหญ่ของคอมมิวนิสต์บรรลุผลแล้วในสหรัฐอเมริกา ความจริงนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของสหรัฐฯ และความจริงที่โหดร้ายที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

สําหรับผู้ที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์และการแสดงออกของมัน ขอแนะนําหนังสือสองเล่มที่ตีพิมพ์โดย The Epoch Times คือ เป้าหมายสูงสุดของลัทธิคอมมิวนิสต์ (The Ultimate Goal of Communism) และ ปีศาจคอมมิวนิสต์กําลังปกครองโลกของเราอย่างไร (The Specter of Communism Is Ruling Our World)