ฝ่าฮุ่ยประเทศจีน | ประสานงานกับผู้ฝึกอื่นเพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้าย

(Minghui.org) ฉันประสานงานกับเพื่อนผู้ฝึกเพื่ออธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายแก่ผู้คนมานานกว่าสองทศวรรษแล้ว มีหลายครั้งที่เราทำงานเข้ากันได้ดีมาก แต่ก็มีบางครั้งที่ฉันมองออกไปภายนอกและรู้สึกขุ่นเคือง แต่ฉันรู้สึกเบาหลังจากที่ฉันปล่อยวางอัตตาและเรียนรู้ที่จะอดทนต่อความแตกต่าง มีหลายครั้งที่เรากระทําด้วยความคิดถูกต้องในการต่อต้านการประทุษร้าย และรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเราทุกคนมาเพื่อฝ่า ดังนั้นฉันจึงหวงแหนความสัมพันธ์ของฉันกับเพื่อนผู้ฝึกและโอกาสในการทํางานร่วมกันและยกระดับในการบำเพ็ญ

ในโอกาสฝ่าฮุ่ยประเทศจีนบน Minghui.org ครั้งที่ 22 ฉันได้เขียนความเข้าใจของฉันในขณะที่ทํางานร่วมกับผู้ฝึกในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เรียนรู้การผลิตเอกสารอธิบายความจริงโดยใช้คอมพิวเตอร์

การประทุษร้ายเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1999 ผู้ฝึกในเมืองเล็ก ๆ ของเราไม่หวั่นไหว เราสร้างสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญ และใช้วิธีการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้คน

ก่อนปี 2000 เราได้รับเอกสารอธิบายความจริงจากผู้ฝึกในพื้นที่อื่น ผู้ฝึกหญิงสูงอายุคนหนึ่งกลับมาที่เมืองของเราจากภูมิภาคอื่น และบอกเราว่าเว็บไซต์หมิงฮุ่ยสนับสนุนให้ผู้ฝึกเริ่มตั้งจุดผลิตเอกสารขนาดเล็ก แต่พวกเราไม่มีใครรู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์เลย เรากลัวที่จะผลิตเอกสารเพราะเราได้ยินว่าสถานที่ผลิตแห่งหนึ่งถูกบุกค้น และผู้ฝึกถูกจับกุม ผู้ฝึกสูงอายุคนนี้แบ่งปันกับพวกเราเกี่ยวกับฝ่า เธอบอกว่า ถ้าเราเรียนรู้วิธีเข้าถึงเว็บไซต์หมิงฮุ่ย และผลิตเอกสารของเราเอง มันจะช่วยลดแรงกดดันให้สถานที่ผลิตขนาดใหญ่ ผู้ฝึกจะไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปรับเอกสาร และมันก็ปลอดภัยและสะดวกกว่าสําหรับเราด้วย หลังจากได้ยินสิ่งที่เธอพูด เราก็มีความมั่นใจ

พวกเราสองสามคนเรียนรู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์จาก Jun ซึ่งเป็นผู้ฝึกชายในวัย 30 ปีเศษ ตอนแรกเราไม่รู้วิธีใช้เมาส์ด้วยซ้ํา เราลืมสิ่งที่เราเรียนรู้หลังจากที่สอนไม่นาน Jun เริ่มจุดผลิตเอกสารเล็ก ๆ วันหนึ่งเขาแสดงให้ฉันและผู้ฝึกอีกคนหนึ่งดูวิธีเย็บเล่ม นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันไปที่จุดผลิตเอกสาร ทันทีที่ฉันเข้าไปในห้อง ฉันเห็นเอกสารและอุปกรณ์อยู่ทุกแห่ง และความกลัวของฉันก็ผุดขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นานฉันก็คิดว่า "ฉันกําลังทําสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ท่านอาจารย์อยู่ข้าง ๆ ฉัน ไม่ใช่ฉันที่กลัว" หัวใจของฉันรู้สึกสงบลงในทันที และฉันก็ไม่กลัวอีกต่อไปเมื่อไปที่นั่น

วันหนึ่งผู้ฝึกหญิงที่ช่วยเราเริ่มจุดผลิตเอกสารกลับมาที่เมืองของเราเพื่อส่งของ เธอไม่รู้ว่าเธอกําลังถูกสะกดรอย ฉันพาเธอไปที่จุดผลิตของ Jun และกลับบ้านโดยใช้ทางเดินเล็ก ๆ ด้านหลังอาคาร วันถัดมาในตอนบ่ายฉันไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้ออาหารให้ผู้ฝึกก่อนที่ฉันจะไปสถานที่ผลิต สามีของฉันซึ่งเป็นผู้ฝึกเช่นกัน โทรหาฉันหลังจากที่ฉันซื้ออาหารและพูดด้วยน้ําเสียงรีบร้อนว่า "กลับบ้านเร็ว อย่าไปที่สถานที่ผลิต" เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นฉัน ปรากฏว่าเพื่อนบ้านของฉันไปที่ร้านของเราเพื่อบอกสามีของฉันว่าเธอเพิ่งเห็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าถูกจับกุมในอาคารแห่งหนึ่ง รถคันหนึ่งจอดอยู่นอกอาคาร ในรถเต็มไปด้วยสิ่งของและมันก็ยังอยู่ที่เดิม บังเอิญว่าฉันไปซื้อของ ถ้าฉันตรงไปที่สถานที่ผลิต ฉันคงถูกจับกุมด้วย Jun กลับไปที่สถานที่ผลิตหลังจากตํารวจออกไป เขาจึงรอดจากการจับกุม ผู้ฝึกสูงอายุและผู้ฝึกหญิงอีกคนหนึ่งถูกจับกุม

มีจุดผลิตเอกสารภายในครอบครัวขนาดเล็กอีกสองแห่งในเมืองของเราที่ไม่ได้รับผลกระทบและยังคงดําเนินการต่อไปได้ ฉันและผู้ฝึกคนหนึ่งผลิตเอกสารในบ้านของเธอและส่ง Minghui Weekly และเอกสารอธิบายความจริงอื่น ๆ ให้กับผู้ฝึก ในขณะนั้นเราใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดํารุ่น 1020 ผู้ฝึกจำนวนมากถูกประทุษร้ายในตอนนั้น และงานของเราก็ได้รับผลกระทบ การเงินฝืดเคือง และเพื่อช่วยเหลือผู้คน ทุกคนบริจาคเงิน บางคนบริจาคหลายสิบหยวน 50 หยวน 100 หยวน หรือ 200 หยวน ผู้ฝึกสูงอายุบริจาคเงินหลายหยวนจากเงินออมของพวกเขา ผู้ฝึกเพียงต้องการช่วยเหลือผู้คน

สามีของฉันและฉันไปปักกิ่งหลายครั้งในช่วงปีแรก ๆ ของการประทุษร้ายเพื่อยื่นอุทธรณ์ให้ต้าฝ่า สามีของฉันถูกตัดสินให้เข้าค่ายบังคับใช้แรงงาน และฉันตกงาน ก่อนที่การประทุษร้ายจะเริ่มขึ้น สามีของฉันเป็นผู้ช่วยอาสาสมัคร และบ้านของเราเป็นสถานที่ศึกษาฝ่าหลัก เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นปฏิบัติต่อสามีของฉันเป็นเป้าหมายหลักของการประทุษร้าย และคุกคามและเฝ้าติดตามเราอยู่ตลอดเวลา ในปี 2003 สามีของฉันถูกจับกุม 4 ครั้ง และถูกกักตัว 2 ครั้ง

เราไม่มีแหล่งรายได้เนื่องจากการประทุษร้าย เราไม่เคยขายของมาก่อน แต่เราปล่อยวางอัตตาของเรา และขายขนมตามท้องถนนเพื่อหาเลี้ยงชีพ ผู้ฝึกคนหนึ่งเห็นว่าชีวิตของเรายากลําบากเพียงใด จึงช่วยเราเปิดร้านเล็ก ๆ เพื่อให้มีรายได้พอเลี้ยงชีพ และสถานการณ์ทางการเงินของเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

สถานีตํารวจท้องถิ่นดำเนินการจับกุมผู้ฝึกจํานวนมากในปี 2005 ผู้ฝึกจำนวนมากถูกจับกุม และรายชื่อของผู้ที่ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ตกอยู่ในมือของตํารวจ ผู้ฝึกคนหนึ่งที่ถูกตํารวจสอบปากคําบอกพวกเขาว่า สามีของฉันและฉันมีรายชื่อของคนที่ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตํารวจความมั่นคงภายในของเมืองมาที่เมืองของเราเพื่อค้นหาร้านของเรา ฉันบังเอิญเห็นพวกเขามาเมื่อฉันเปิดประตู ฉันรีบล็อกประตูและหนีไปกับสามี 2 สัปดาห์ต่อมาเรากลับบ้าน สามีของฉันถูกจับกุมและถูกนําตัวไปยังสถานที่ล้างสมองที่ขึ้นชื่อ เขาตระหนักว่าโทรศัพท์ของเราถูกดักฟังเมื่อเขาถูกสอบปากคํา ตํารวจรู้ว่าฉันติดต่อกับผู้ฝึกในพื้นที่ของเราที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ผลิตเอกสาร พ่อสามีของฉันใกล้เสียชีวิตเพราะป่วยหนัก สามีของฉันได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกล้างสมองเป็นเวลา 8 วัน หลังจากที่เขากลับไปทํางานเดิม เราก็ขายร้านของเรา

ในช่วงหลายปีนั้น บ้านของเราถูกบุกค้นหลายครั้ง ทำให้ฉันไม่กล้าเก็บเครื่องพิมพ์ไว้ที่บ้าน Chen ซึ่งเป็นผู้ฝึกได้ย้ายคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ไปที่บ้านของเธอ แต่สามีของเธอซึ่งไม่ใช่ผู้ฝึกไม่รู้เรื่องนี้ เราผลิตเอกสารด้วยกันเมื่อสามีของเธอไปทํางาน วันหนึ่งขณะที่เรากําลังพิมพ์เอกสาร สามีของเธอกลับบ้านมาอย่างกะทันหันเพื่อหยิบอุปกรณ์ เราไม่มีเวลาเก็บของและฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อย Zhen พูดด้วยเจิ้งเนี่ยนว่า "เขาเห็นก็ไม่เป็นไร" สามีของเธอมองของของเราและออกไปโดยไม่พูดอะไร ต่อมาผู้ฝึกคนหนึ่งซื้อเครื่องพิมพ์อีกเครื่องหนึ่ง และเราผลิตหนังสือเก้าบทวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์หลายเล่ม เมื่อจํานวนหนังสือเก้าบทวิจารณ์ที่เราทําไม่พอ เราก็ไปหาเพิ่มจากสถานที่ผลิตในเมือง เราได้พิมพ์ Disintegrate the Party Culture และแจกในหมู่บ้านใกล้เคียงด้วย

วันหนึ่ง Jun มาหาฉันและพูดว่า "ตอนนี้สถานที่ผลิตในพื้นที่อื่น ๆ กําลังทำเอกสารสีโดยใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสี แผ่นพับที่ผลิตขึ้นดูดีและสวยเหมือนต้นฉบับ ทําไมคุณไม่ซื้อเครื่องพิมพ์แบบนั้นล่ะ" ฉันพูดว่า "ช่วยฉันซื้อเครื่องหนึ่งนะ" ไม่กี่วันต่อมา Jun ได้นําเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสี 4600 สีมาให้ แต่เครื่องพิมพ์เครื่องเดียวไม่พอ ดังนั้นเขาจึงเอามาเพิ่มอีกเครื่องหนึ่ง ที่จริงแผ่นพับที่ผลิตดูดีและผู้ฝึกก็ชอบแจก

ช่วงปลายปีนั้น ผู้ฝึกสอนให้ฉันทําปฏิทินที่มีข้อความเกี่ยวกับต้าฝ่า นี่เป็นปีแรกที่เราทําปฏิทินดังกล่าว ผู้ฝึกและฉันช่วยกันติดห่วงเหล็กที่ปฏิทินด้วยมือ นิ้วของเราบวมหลังจากทําปฏิทินหลายร้อยอัน บางครั้ง เครื่องพิมพ์อุดตัน และฉันใช้น้ําประปาทําความสะอาด ครั้งหนึ่ง Jun จับได้ว่าฉันทําแบบนี้และตะโกนใส่ฉันว่า "ใครบอกให้คุณทําแบบนี้ มีสิ่งสกปรกในน้ําประปาคุณต้องใช้น้ํากลั่น คุณรู้ไหมว่าเครื่องพิมพ์ราคาเท่าไร" ฉันพูดว่า "คุณไม่ได้บอกฉัน !"

ในตอนนั้นผู้คนชอบดีวีดีของต้าฝ่าและศิลปะการแสดงเสินยวิ่น เราจึงซื้อเครื่องเขียนดีวีดี ผู้ฝึกได้ยกระดับความเข้าใจเกี่ยวกับฝ่าเมื่อการเจิ้งฝ่าดําเนินไป ยกเว้นผู้ฝึกสูงอายุ ทุกคนซื้อคอมพิวเตอร์และสามารถเข้าถึงเว็บไซต์หมิงฮุ่ยได้ ซึ่งช่วยเราประหยัดกระดาษพิมพ์

เผยแพร่ความจริงไปทุกแห่ง

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ผู้ฝึกในเมืองของเราได้อธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายให้กับผู้คนแบบตัวต่อตัว และส่งเอกสารครั้งแล้วครั้งเล่า เกือบทุกคนเคยได้ยินหรือได้อ่านข้อมูลเหล่านี้ สํานักงานส่วนใหญ่มีปฏิทินที่มีข้อความเกี่ยวกับต้าฝ่า ในขณะที่ผู้ฝึกอธิบายความจริง ผู้บังคับบัญชาและพนักงานจำนวนมากได้เรียนรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี

กุญแจสําคัญในการช่วยเหลือผู้คนให้ดีคือความร่วมมือระหว่างผู้ฝึก ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกออกไปแจกเอกสาร เราเริ่มจากการประสานงานกันและมอบหมายพื้นที่หรือกลุ่มอาคารให้กับทุกคนเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ําซ้อน ผู้ฝึก 2 คนเป็นคนขับรถแท็กซี่ และพวกเขาคุ้นเคยกับหมู่บ้านรอบเมือง พวกเขารู้คร่าว ๆ ว่าแต่ละหมู่บ้านมีกี่ครัวเรือน ทําให้สะดวกสําหรับเราในการส่งมอบเอกสาร พวกเขาพาเราไปยังพื้นที่ห่างไกลหลายแห่งในสถานที่ที่ไม่มีผู้ฝึกเคยกระจายแผ่นพับมาก่อน

ผู้ฝึกที่ขับรถแท็กซี่คนหนึ่งเคยพูดว่า "คืนนี้ผมจะพาคุณไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครแจกเอกสารมาก่อน ระยะทางไกลมากและบางพื้นที่มีเพียงสิบกว่าครัวเรือน จึงใช้เวลานาน คุณอยากไปไหม" ผู้ฝึกหลายคนตกลงที่จะไป ถนนที่เราเดินทางนั้นคดเคี้ยว เรารีบนำเอกสารไปวางที่บ้านทุกหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อคนในบ้านออกมา เราก็ออกไปแล้ว คืนนั้นเราส่งเอกสารไปยังหมู่บ้านห่างไกลหลายแห่งและช่วยให้ชาวบ้านรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี

ตอนนั้นเราขับรถไปยังหมู่บ้านที่อยู่ไกลมากหลายครั้งต่อเดือน วันหนึ่งผู้ฝึกคนหนึ่งในเมืองแห่งหนึ่งติดต่อผู้ฝึกที่เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ของเราโดยบอกว่า "เรามีผู้ฝึกเพียงไม่กี่คนที่นี่ และมีหลายหมู่บ้านที่ไม่มีใครไปแจกเอกสารเลย" เขาขอให้เราช่วยขับรถไปยังสถานที่เหล่านั้นเพื่อแจกเอกสาร เราจัดรถส่งเอกสาร บางครั้งมีรถ 2 คัน และบางครั้งก็มีรถ 3 คัน โดยมีผู้ฝึกในท้องถิ่นนำทาง เรานำเอกสารไปส่งทั้งในหมู่บ้านเล็กและใหญ่ในเมืองหลายรอบ

การแจกเอกสารจะราบรื่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเรา ครั้งหนึ่งเราไปที่หมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อส่งเอกสารโดยไปกันเป็นคู่ ขณะที่ฉันและผู้ฝึกอีกคนหนึ่งกําลังแขวนเอกสารไว้ตามประตูบ้าน เราเจอคนกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งเล่นไพ่นกกระจอกเสร็จ ชายคนหนึ่งเดินตามเราไป ผู้ฝึกพูดกับฉันว่า "ชายคนนี้ดูเหมือนจะโทรหาตํารวจ รีบวิ่งไปที่ทุ่งข้าวโพดกันเถอะ" ฉันตอบว่า "เราไม่ควรวิ่งหนี เพราะถ้าเขาโทรแจ้งตํารวจ เราก็หนีไม่พ้น เราไปหาเขาและอธิบายความจริงกันเถอะ" ชายคนนั้นพูดว่า "พวกคุณสองคนกําลังทําอะไรกันอยู่" ฉันพูดว่า "เราไม่ได้ขโมยอะไรเลย เรามาที่นี่เพื่อนำข่าวดีมาให้ การระบาดใหญ่ของโควิดรุนแรงมาก เรามาที่นี่เพื่อบอกวิธีหลีกเลี่ยงโรคระบาด" ผู้ฝึกอีกคนพูดว่า "คุณดูเหมือนคนจิตใจดี คุณคงจะไม่โทรหาตํารวจ มันดึกมากแล้วแต่เรากําลังแจกเอกสาร เราไม่ต้องการอะไรตอบแทน เราเป็นผู้ฝึกต้าฝ่า เราแค่อยากให้คุณปลอดภัย เราเป็นคนดี" ชายคนนั้นวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วพูดว่า "คุณไปได้ แต่อย่ามาที่นี่อีก"

มีผู้ฝึกชายสองคนในพื้นที่ของเราที่เชี่ยวชาญการแขวนป้ายที่มีคําว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" พวกเขาติดตะขอเหล็กเข้ากับป้ายผ้า แล้วใช้คันเบ็ดแขวนป้ายผ้าไว้บนต้นไม้หรือชั้นวาง คันเบ็ดที่ใช้ดึงออกให้ยาวหลายเมตรได้ พวกเขาเชี่ยวชาญมาก พวกเขาแขวนป้ายผ้าจํานวนมากทุกปี และผู้คนในหมู่บ้านต่าง ๆ ได้เห็นข้อความ "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" ตามถนน ป้ายผ้าเหล่านี้ให้พลังงานที่เที่ยงธรรม ผู้คนและรถยนต์ที่ผ่านไปเห็นป้ายเหล่านี้ เนื่องจากเป็นป้ายที่สะดุดตาเป็นพิเศษ

ครั้งหนึ่ง เราเคยทําเอกสารจำนวนมาก รวมถึงสติกเกอร์ข้อความและบอร์ดแสดงข้อมูลในพื้นที่ เราได้ยินว่ารัฐบาลท้องถิ่นวางแผนที่จะทําอะไรบางอย่าง ผู้ฝึกหารือกันเกี่ยวกับการส่งเอกสารอธิบายความจริงให้กับผู้นำของเมืองและสำนักงานอื่น ๆ แต่มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ แล้วใครจะยินดีไปล่ะ ฉันและผู้ฝึกคนหนึ่งได้เตรียมการที่จะไปนำส่งเอกสารในขณะที่ผู้ฝึกอื่นอยู่บ้านและฟาเจิ้งเนี่ยน เราเตรียมเอกสารและสื่อต่าง ๆ หลายอย่างและใส่ถุงที่ออกแบบอย่างสวยงาม เราสวมชุดลําลอง สวมหมวกและหน้ากากอนามัย เราฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อให้กล้องวงจรปิดไม่ทํางาน ตอนบ่ายเราไปที่ที่ทําการของรัฐบาล เราแขวนถุงที่ใส่เอกสารและสื่ออธิบายความจริงไว้ที่ประตูสํานักงานบนชั้น 2 และชั้น 3 อย่างสงบ แล้วกลับมาอย่างปลอดภัย

หลังจากนั้นเราได้ยินว่าสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่รัฐบอกว่า อาคารรัฐบาลกำลังวุ่นวาย ผู้นำของเมืองต้องการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อค้นหาว่าใครเป็นคนส่งเอกสารและสื่อเหล่านี้ เราไม่หวั่นไหว เรากําลังช่วยท่านอาจารย์ช่วยเหลือพวกเขา เรามีท่านอาจารย์ปกป้องเรา และจะไม่มีใครกล้าแตะต้องเรา

ในช่วง 3 ปีที่สามีของฉันและฉันเปิดร้านเล็ก ๆ เราไม่พลาดโอกาสที่จะบอกลูกค้าว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ลูกค้าจากแดนไกลมาซื้อของที่ร้านของเรา ที่จริงท่านอาจารย์ได้จัดวางให้พวกเขาได้เรียนรู้ความจริง สามีของฉันช่วยพวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

โทรศัพท์อธิบายความจริง

ครั้งหนึ่งผู้ฝึกจากภูมิภาคอื่นมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเรา เขาพูดว่าตอนนี้ผู้ฝึกหลายคนใช้โทรศัพท์มือถือในการโทรออกด้วยข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าเพื่ออธิบายความจริง ซึ่งมีผลอย่างกว้างขวางในการช่วยเหลือผู้คน และทุกคนสามารถใช้วิธีนี้ได้ เขาอธิบายรายละเอียดของวิธีการโทรออกอย่างปลอดภัย เราคิดว่ามันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมและสะดวกมาก เราได้เรียนรู้วิธีติดตั้งข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าและหมายเลขโทรศัพท์ ดังนั้นเราจึงซื้อโทรศัพท์และบัตรโทรศัพท์ ผู้ฝึกทุกคนซื้อโทรศัพท์มือถือหนึ่งหรือสองเครื่อง

ช่วงแรก เราส่งข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าไปยังหมายเลขโทรศัพท์กลุ่มหนึ่ง ข้อความจากวิทยุหมิงฮุ่ยมีเนื้อหาครอบคลุมมากและหลายคนฟังจนจบ บางคนถึงกับกดตัวเลือกที่จะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้ฝึกได้รับรายชื่อผู้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนจำนวนน่าประทับใจผ่านทางโทรศัพท์ทุกวัน บางครั้งในขณะที่เสียงข้อความที่บันทึกไว้กำลังเล่นอยู่ คนที่รับสายโทรศัพท์ก็พูด บางคนขอบคุณ บางคนด่าว่า บางคนขอเงิน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ขู่ว่าจะจับคนที่โทรมา เราอยากพูดกับผู้รับสาย แต่เนื่องจากข้อความกําลังเล่นอยู่ เราจึงไม่สามารถโต้ตอบกับพวกเขาได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเราบางคนได้โทรหาบุคคลนั้นโดยตรง โดยปกติเมื่อผู้รับตะโกนหรือข่มขู่ในขณะที่ข้อความกำลังเล่นอยู่ ฉันไม่กลัวเพราะผู้ฟังอยู่ห่างจากฉันมาก แต่มื่อฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่ออธิบายความจริงโดยตรง หัวใจของฉันก็เริ่มเต้นเร็ว ฉันประหม่ามากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่หลังจากโทรออกสองสามครั้ง ใจของฉันก็สงบลง

ครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่งรับสายและพูดว่า "คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเป็นเครื่องจักร" ดูเหมือนว่าเขาเคยได้ยินข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้ามาก่อน ฉันพูดอย่างสงบว่า "ฉันเป็นคนจริง ๆ สวัสดีค่ะ" ฉันพูดต่อว่า "ทุกคนอยากปลอดภัย แต่จะปลอดภัยได้อย่างไร ฉันขอบอกความลับให้คุณนะ ให้ท่องอย่างจริงใจว่า 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี' คนจำนวนมากที่ท่องวลีนี้ขณะตกอยู่ในอันตรายก็รอดพ้นจากภัยพิบัติ คุณรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าไหม คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนไหม" เขาตอบว่า "มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม คุณโทรเข้าโทรศัพท์ของผมตลอดเวลาและรบกวนชีวิตของผม" ฉันพูดว่า "มันไม่ง่ายเลยที่ประชาชนทั่วไปจะทํามาหากิน และทุกคนต้องการเก็บเงินไว้ แต่พวกเรายอมใช้เงินไปกับการโทรศัพท์เพื่อบอกคุณว่าจะอยู่อย่างปลอดภัยได้อย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติ ท่านอาจารย์ของเราเป็นผู้ขอให้เราช่วยชาวจีนที่ล้ําค่า"

ฉันบอกเขาเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าอีกครั้ง ฉันพูดว่า "ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ขอให้ฉันบอกคุณว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงกําลังลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพราะไม่มีใครอยากเป็นแพะรับบาปให้กับอาชญากรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน" ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉันพูดว่า "เราคุยกันครึ่งชั่วโมงแล้ว มันเป็นทางเลือกของคุณว่าคุณจะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือไม่ ถ้าคุณพลาดโอกาสนี้ มันจะสายเกินไปที่จะเสียใจในภายหลัง ฉันจะวางสายตอนนี้แล้ว" เขาพูดว่า "ช่วยผมลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคด้วย ผมเป็นสมาชิกพรรค ขอบคุณที่บอกผมมากมายขนาดนี้"

รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการประทุษร้ายและการสื่อสารกับหมิงฮุ่ย

ก่อนปี 2006 เราต้องนําข้อมูลที่เราต้องการเผยแพร่บนเว็บไซต์หมิงฮุ่ยไปยังผู้ฝึกในอำเภอ ต่อมาผู้ฝึกคนหนึ่งช่วยฉันตั้งค่าอินบ็อกซ์ และฉันได้เรียนรู้วิธีส่งข้อมูล เช่น "คำประกาศที่ศักดิ์สิทธิ์" บทความการประชุมฝ่า และข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ทํางานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายผู้ฝึกไปยังหมิงฮุ่ยโดยตรง เจ้าหน้าที่ตํารวจและพนักงานในที่ทํางานที่ประทุษร้ายผู้ฝึกบอกว่าพวกเขาได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศจํานวนมาก ขอขอบคุณผู้ฝึกในต่างประเทศสําหรับความพยายามของพวกคุณในการช่วยเหลือผู้ฝึกในประเทศจีน

ฉันได้รับบทความจํานวนมากทุกครั้งที่ใกล้ถึงวันสุดท้ายที่กำหนดให้ส่งบทความสําหรับฝ่าฮุ่ยประเทศจีน ผู้ฝึกและฉันทํางานทั้งคืนเพื่อพิมพ์บทความเหล่านี้ ฉันพิมพ์ไม่เร็วและไม่รู้วิธีแก้ไขบทความ มันเป็นงานที่เหนื่อยล้าจริง ๆ การแก้ไขบทความก็เป็นกระบวนการบำเพ็ญด้วย เป็นการทดสอบความอดทน ผู้ฝึกบางคนแบ่งปันเรื่องราวการบำเพ็ญที่ดูยอดเยี่ยม แต่รายละเอียดไม่สมบูรณ์ ขาดข้อมูลเกี่ยวกับเวลาหรือสถานที่ บางคนเขียนหลายสิบหน้าแต่มีคำผิดมากและประโยคไม่สมบูรณ์ บางคนใช้พินอินแทนตัวอักษร และเราไม่สามารถเดาได้ว่าผู้เขียนพยายามจะพูดอะไร

นอกจากนี้ยังมีบทความที่มีปัญหาที่บางทีผู้เขียนอาจไม่ตระหนัก เนื่องจากทุกคนไว้วางใจฉัน ฉันจึงควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ ฉันก็เป็นผู้ฝึกเช่นกัน และแน่นอนว่ามีบางครั้งที่ฉันตัดสินผิดพลาด หรือลบสิ่งที่ฉันไม่ควรลบ เมื่อฉันส่งคืนบทความให้กับผู้ฝึกหลังจากทําการเปลี่ยนแปลง บางครั้งผู้ฝึกอาจพูดว่า "นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะพูด ทําไมคุณถึงเปลี่ยนมัน" เมื่อเกิดเช่นนี้หลายครั้ง ฉันค้นหาจากภายในและพบปัญหามากมาย รวมถึงอัตตา การคิดว่าฉันดีกว่าคนอื่น หรือการยัดเยียดความคิดเห็นของฉันให้กับคนอื่น

ฉันใส่ใจกับการบำเพ็ญตัวเอง และเมื่อฉันขัดเกลาบทความของผู้ฝึก วิธีคิดของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันตั้งใจขัดเกลาบทความและฉันเห็นคุณค่าบทความของผู้ฝึก บทความเหล่านี้คือถ้อยคําจากใจของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ มันเป็นรายงานของพวกเขาถึงท่านอาจารย์ บางครั้งฉันซาบซึ้งกับเรื่องราวของพวกเขาจนน้ําตาไหล ฉันชื่นชมศรัทธาที่แน่วแน่ของผู้ฝึกที่มีต่อท่านอาจารย์ ความคิดถูกต้องและการกระทําถูกต้อง และระดับจิตใจที่เสียสละ ฉันเห็นช่องว่างของฉันกับผู้ฝึกและเห็นข้อบกพร่องของฉัน

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หมิงฮุ่ยแนะนําให้ผู้ฝึกในประเทศจีนรวบรวมข้อมูลพร้อมรูปถ่ายเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในสํานักความมั่นคงสาธารณะ อัยการ ศาล และสํานักงานยุติธรรม ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายผู้ฝึก ฉันคิดที่จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ในพื้นที่ของเรา หลังจากหารือกับผู้ฝึกหลายคน เราก็ชัดเจนว่าทําไมเราทําเช่นนี้ ในฐานะผู้ฝึก เราไม่ควรเกลียดชังผู้กระทําผิด การเปิดโปงการกระทําที่ชั่วร้ายของพวกเขาคือการหยุดการประทุษร้าย เมื่อพวกเขาตระหนักว่าพวกเขากําลังทําตามคําสั่งที่ไม่ถูกต้อง และผลกรรมชั่วที่พวกเขานํามาสู่ตัวเอง บางทีพวกเขาอาจจะตื่นขึ้นมา

สิ่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นเป็นพิเศษในขณะที่รวบรวมข้อมูลนี้ ผู้ฝึกรวบรวมรายชื่อบุคคลในสถานที่ทํางาน หน่วยงานของรัฐ และสถานีตํารวจต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการประทุษร้ายผู้ฝึกในพื้นที่ของเราอย่างรวดเร็ว บางคนมีภาพถ่ายด้วย มีผู้ฝึกที่เห็นภาพถ่ายของผู้กระทําผิดที่ห้องประชุมระหว่างการประชุมและถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถืออย่างชาญฉลาด ผู้ฝึกคนอื่น ๆ เห็นหัวหน้าสถานีตํารวจที่ประทุษร้ายผู้ฝึกหลายครั้งในงานแต่งงาน และถ่ายรูปไว้ ฉันและผู้ฝึกเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน และบ่ายวันนั้นเราถ่ายรูปผ่านทางหน้าต่างของหัวหน้าหมู่บ้านที่เคยประทุษร้ายผู้ฝึกในอดีต เรายังเห็นข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายที่สถานีตํารวจด้วย

ผู้ฝึกหลายคนที่เป็นผู้ประสานงานในหลายเขตเคยมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ผู้ฝึกในเมืองแนะนําให้เราเขียนบทสรุปของผู้ฝึกในพื้นที่ของเราที่ถูกประทุษร้ายในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาและเผยแพร่บนเว็บไซต์หมิงฮุ่ย ฉันเคยอ่านภาพรวมที่คล้ายกันในเมืองและอำเภอที่เผยแพร่บนหมิงฮุ่ยในอดีต และมีความคิดที่จะจัดทําสถิติเกี่ยวกับกรณีของผู้ฝึกที่ถูกประทุษร้ายในพื้นที่ของเราเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำจริง ๆ ฉันรู้สึกว่ามันยากเกินไปและยอมแพ้

บางทีอาจเป็นเพราะฉันมีความปรารถนานี้ ผู้ประสานงานในพื้นที่ของเราจึงจัดให้เราสามคนทํางานในโครงการนี้ ผู้ฝึกให้ข้อมูลที่รวบรวมก่อนหน้านี้และจัดเรียงเป็นกลุ่ม ฉันค้นพบว่าภาระงานในโครงการนี้มหาศาล ผู้ฝึกหลายร้อยคนถูกประทุษร้าย และทุกกรณีจําเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยัน ซึ่งใช้เวลามาก และเราไม่เคยทํามาก่อน เราจะทํางานได้ดีไหม ผู้ฝึกในเมืองให้กําลังใจเราและเราตัดสินใจที่จะรับภารกิจนี้ ผู้ฝึกในเมืองที่ทํารายงานดังกล่าวช่วยและแนะนําเราตลอดทาง พวกเขาเข้มงวดและมีรายละเอียดในข้อกําหนดของพวกเขา

ผู้ฝึกสองคนที่ทํางานในโครงการนี้ลาออกเพราะพวกเขายุ่งกับงานอื่นมากเกินไป จึงเหลือฉันเพียงคนเดียวที่ต้องทํางานให้เสร็จ การเขียนรายงานสรุปต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก แต่ฉันก็ทําไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ฉันต้องยืนหยัด ทุกวันฉันเข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่า ฝึกท่า และไม่เคยพลาดการฟาเจิ้งเนี่ยน ผู้ฝึกในเมืองให้กําลังใจฉันอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปหนึ่งปี เราก็ได้บทสรุปที่ครอบคลุมของการประทุษร้ายตลอด 20 ปีในทุกตำบลและทุกหมู่บ้านในอำเภอ หลังจากที่ผู้ฝึกตรวจสอบ เพิ่มเติม และแก้ไขแล้ว รายงานนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์บนหมิงฮุ่ย ความยากลําบากที่พบในกระบวนการนี้หล่อหลอมฉัน และฉันเรียนรู้ที่จะอดทนเมื่อฉันหงุดหงิด ฉันกําจัดหลายสิ่งหลายอย่างที่มาจากวัฒนธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงนิสัยการทำงานลวก ๆ ที่ฝังรากลึก เมื่อมองย้อนกลับไป ท่านอาจารย์เป็นผู้ดึงฉันให้ก้าวไปข้างหน้า จากการรวบรวมคดีการประทุษร้าย ฉันได้รับประสบการณ์มากขึ้นในการเขียนบทความในภายหลัง ฉันตระหนักว่าทุกสิ่งที่ฉันทําคือความสําเร็จ

ผู้ฝึกในเมืองที่คอยช่วยเหลือพื้นที่ของเราในการจัดทํารายงานเห็นว่าฉันมีประสบการณ์ในด้านนี้ จึงขอให้ฉันช่วยเขียนกรณีการประทุษร้ายผู้ฝึกในเมือง จากที่คิดว่าฉันโล่งอกแล้ว ฉันกลับได้รับมอบหมายงานอีกครั้ง ฉันกลัวเล็กน้อยแต่ฉันปรับวิธีคิดของฉัน เนื่องจากผู้ฝึกขอให้ฉันทำ บางทีนี่จะเป็นการจัดวางของท่านอาจารย์ ฉันมีความรับผิดชอบนี้ ฉันจึงรับทำ ฉันรู้วิธีทําแล้ว ครั้งนี้จึงง่ายขึ้นเล็กน้อย

นี่เป็นกระบวนการบําเพ็ญเช่นกัน บางครั้งฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาข้อมูลของบางคน แต่ไม่พบอะไรเลย ข้อมูลที่หาได้ทางออนไลน์ไม่สมบูรณ์ ฉันถึงกับตําหนิผู้ฝึกในขณะที่ฉันค้นหาข้อมูล "ทําไมพวกเขาไม่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเมื่อพวกเขาทํารายงาน ผู้ฝึกถูกจับกุมที่ไหน เขาถูกตัดสินที่ไหน และวันที่เท่าไร บางครั้งก็มีแค่ประโยคเดียว ฉันจะทํางานนี้ได้อย่างไร" จากนั้นฉันก็คิดว่า "ภายใต้สถานการณ์ของการประทุษร้ายในเวลานั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผู้ฝึกและฝ่าไฟร์วอลล์อินเทอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่บนหมิงฮุ่ย ผู้ฝึกทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว ฉันจะจู้จี้ได้อย่างไร นี่เป็นอีกครั้งที่เผยให้เห็นความขุ่นเคืองของฉัน หลังจากทํางานอยู่หลายเดือน ในที่สุดฉันก็จัดหมวดหมู่และเรียบเรียงรายงานคดีการประทุษร้ายที่ครอบคลุมผู้ฝึกหลายร้อยคน

เมื่อฉันได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจํา ผู้ฝึกในเมืองแนะนําให้ฉันเขียนประสบการณ์การถูกประทุษร้ายและเปิดเผยมัน ฉันจึงเขียนรายงานที่ระบุการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมที่ฉันประสบมา และเผยแพร่บนหมิงฮุ่ย วันหนึ่ง ผู้ฝึกคนหนึ่งนําหมิงฮุ่ยรายสัปดาห์ (Minghui Weekly) ฉบับท้องถิ่นมาที่บ้านของฉัน เขาพูดว่า "นี่อธิบายถึงสิ่งที่คุณเผชิญมา พวกเราหลายคนเพิ่งหารือกันและเราคิดว่าจะแจกเอกสารนี้ เราขอถามคุณก่อนว่าคุณมีอะไรกังวลไหม เพราะคนในพื้นที่ของเรารู้จักคุณ" ฉันพูดว่า "เนื่องจากฉันไม่กลัวที่จะเปิดโปงการประทุษร้าย จึงไม่ใช่ปัญหาที่จะแจกเอกสารนี้จํานวนมาก ความชั่วร้ายกลัวการถูกเปิดโปงมากที่สุด"

ในเวลานั้นหมิงฮุ่ยรายสัปดาห์ฉบับท้องถิ่นซึ่งเป็นฉบับที่ 3 ตีพิมพ์เรื่องราวของฉันที่ถูกประทุษร้าย เมื่อเราถูกจับกุม หมิงฮุ่ยยังคงรายงานเกี่ยวกับการกระทําที่ชั่วร้ายของตํารวจความมั่นคงของรัฐ ผู้ฝึกโทรศัพท์หาหัวหน้าตํารวจความมั่นคงของรัฐและผู้พิพากษา และส่งจดหมายทางไปรษณีย์เพื่ออธิบายความจริง ฉันได้ยินหัวหน้าตํารวจความมั่นคงของรัฐบอกว่าเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก หลังจากที่ฉันได้รับการปล่อยตัว ฉันก็ไปที่สถานีตํารวจเพื่อขอทรัพย์สินของฉันที่ถูกยึดอย่างผิดกฎหมาย หัวหน้าตำรวจโกหก โดยอ้างว่าเขาไม่อยู่ในสํานักงานและปฏิเสธที่จะพบฉัน

ความสัมพันธ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกลิขิตไว้

ฉันรู้สึกว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้ฝึกรอบตัวฉัน บางทีในระหว่างการกลับชาติมาเกิดในประวัติศาสตร์ เราอาจเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท หรือญาติกัน เราศึกษาฝ่าด้วยกัน ฝึกท่า ออกไปอธิบายความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่า และจัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เมื่อการประทุษร้ายรุนแรง ใครสะดุดล้มก็มีคนช่วยดึงขึ้นมา ใครหลงทาง ผู้ฝึกก็ไม่ทอดทิ้งเขา ผู้ฝึกใช้ฝ่าของท่านอาจารย์เพื่อปลุกพวกเขาให้ตื่นครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกประทุษร้าย ทุกคนรวมตัวกันเป็นร่างเดียว ฟาเจิ้งเนี่ยน และใช้ฝ่าเพื่อต่อต้านการประทุษร้าย

ตลอดหลายปีของการเจิ้งฝ่า ฉันมักทํางานร่วมกับผู้ฝึกอื่นอีกหลายคน Yu มีเจิ้งเนี่ยนเต็มเปี่ยมและมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักการของฝ่า เธอต่อต้านการประทุษร้ายด้วยความคิดที่ถูกต้องและไม่เคยยอมจำนนเมื่อเธออยู่ในคุก เธอดูเหมือนประสบกับกรรมที่ทำให้เจ็บป่วยและตํารวจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยตัวเธอ เราทั้งคู่ศึกษาฝ่าเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยกันมานานกว่า 10 ปี เราทํางานเข้ากันได้ดีและออกไปอธิบายความจริงและแจกแผ่นพับด้วยกัน Yu และฉันเป็นคู่หูที่ดี เราผลิตเอกสารได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น เมื่อเราเห็นปัญหาของอีกผ่าย เราก็พูดกันอย่างตรงไปตรงมา และไม่มีใครไม่พอใจ ตอนนี้เธอย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่เรายืนยันความถูกต้องของฝ่าด้วยกัน และฉันก็รู้ว่ามันล้ำค่ามาก

Hong แก่กว่าฉัน 3 ปี เราทํางานด้วยกันมากที่สุด เราประสานงานและเรียนรู้ทักษะด้วยกัน เราซื้อวัสดุและอุปกรณ์ และช่วยผู้ฝึกจัดตั้งสถานที่ผลิตเอกสาร เราออกไปแจกเอกสารด้วยกัน ร่วมมือกัน และทําทุกทางเพื่อยืนยันความถูกต้องของฝ่า Hong อยู่ในสภาวะการบำเพ็ญที่ดี มีความรับผิดชอบ และเก่งในการประสานงาน

หลังจากทํางานด้วยกันมานาน เราก็มักมีความขัดแย้งกันบ่อย ๆ แม้ว่าฉันจะบอกว่าให้ค้นหาจากภายใน แต่ฉันก็ยังจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นและบางครั้งก็มองออกไปข้างนอก ผู้ฝึกสังเกตว่าเรายุ่งอยู่เสมอ ออกไปข้างนอกบ่อย ๆ และชี้ให้เห็นปัญหาต่าง ๆ เช่น เรามีจิตยึดติดกับการทําสิ่งต่าง ๆ ชอบเข้าไปทำทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฝ่า และชอบฟังคําชมของผู้ฝึก ฉันไม่ใส่ใจกับการบำเพ็ญของฉันแม้จะได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้

Hong กับฉันถูกจับขณะแจกแผ่นพับ หลังจากไตร่ตรองอย่างเจ็บปวด ฉันก็ตระหนักว่าฉันหมกมุ่นอยู่กับการทําสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป และฉันไม่ได้บำเพ็ญอย่างมั่นคง ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อร่างรวมของผู้ฝึกทั้งหมด หลังจากที่เรากลับบ้าน Hong กับฉันได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบเปิดใจหลายครั้งและแก้ไขสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับฝ่า เรากลับมารับผิดชอบและทํางานร่วมกัน

Muchun ท่องฝ่าได้ขึ้นใจและมีความรับผิดชอบสูง เนื่องจากการประทุษร้าย เขาจึงได้รับเงินบํานาญต่ํา ภรรยาของเขาหางานง่าย ๆ ให้เขาทำในเมืองอื่นซึ่งได้ค่าตอบแทนดี แต่เขาปฏิเสธที่จะย้ายไป เขาเลือกที่จะอยู่และให้ความสําคัญกับการบำเพ็ญเป็นอันดับแรก และหางานทำในพื้นที่ของเรา ตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วก็ใช้รถสามล้อ จนตอนนี้ใช้รถยนต์ เขาเดินทางไปยังเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ และทําสิ่งต่าง ๆ เพื่อยืนยันความถูกต้องของฝ่าเสมอ เรามักใช้รถของเขา และบางครั้งก็มีความขัดแย้ง Hong และฉันยืนกรานว่าเราถูกเกือบทุกครั้ง ในขณะที่ Muchun มักยอมให้เรา

ครั้งหนึ่งเรานัดหมายกับทนายความคนหนึ่งให้ไปที่ศูนย์กักกันเพื่อเยี่ยมผู้ฝึกที่ถูกคุมขัง ตอนนั้นใกล้ถึงเวลานัดหมายแล้ว และเราไม่คุ้นเคยกับถนน Hong และฉันชี้เส้นทางแบบสุ่ม ๆ ด้วยความร้อนใจ และยืนกรานว่า Muchun ขับไปผิดทาง เขาอารมณ์เสียและเริ่มเร่งความเร็ว เขาไม่ชะลอความเร็วเมื่อเราเข้าใกล้หลุมบ่อบนถนน ฉันกระดอนขึ้นและศีรษะกระแทกกับหลังคารถ Hong และฉันตระหนักว่าเราบอกทางเขาผิดและขอโทษ ขณะทํางานร่วมกันในอดีต มีหลายเหตุการณ์ที่ฉันยืนกรานว่าฉันถูก และฉันมักตําหนิว่า Muchun เป็นฝ่ายผิด ฉันใช้คำพูดรุนแรง และเห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงออกของวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉันไตร่ตรองหลังจากกลับบ้าน ฉันไม่ได้บำเพ็ญตัวเองให้ดี ศีรษะของฉันกระแทกแต่ฉันก็ยังไม่ได้ค้นหาจากภายใน ฉันขอโทษในวันถัดมา เมื่อได้พบกับ Muchun เขาหัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Mei เป็นคนมีเหตุผลและฉลาด เธอเก่งในการจัดการ ในปี 2001 หลังจากกลับมาจากปักกิ่ง ฉันไปหาเธอก่อน ฉันซื้อผ้าเพื่อทําป้ายผ้าเล็ก ๆ ที่มีข้อความว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" เราผูกถุงทรายขนาดเล็กไว้ที่ปลายทั้งสองข้างและออกไปแขวนป้ายผ้านี้บนต้นไม้ในตอนกลางคืน เราออกไปแจกเอกสารอธิบายความจริงและสติกเกอร์ข้อความในที่สาธารณะด้วยกัน เธอเคยทําธุรกิจและยุ่งมาก แต่เมื่อไรที่ฉันไปหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องเกี่ยวกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่า เธอมักจะวางงานในร้านของเธอลงและไปกับเราเสมอ Mei จัดเตรียมให้ผู้ฝึกเข้าร่วมในกลุ่มศึกษาฝ่าขนาดเล็ก ออกไปอธิบายความจริง เขียนจดหมายบอกผู้คนเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝึกต้าฝ่า และทําได้ดีในการช่วยเหลือผู้ฝึกและต่อต้านการประทุษร้าย เรามักมีปัญหาที่เป็นการทดสอบการบำเพ็ญของเราในขณะที่เราทํางานด้วยกัน จากการค้นหาจากภายใน ปัญหาดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขในภายหลัง

ฉันนึกได้บ่อยครั้งว่าผู้ฝึกปฏิบัติต่อฉันดีแค่ไหน รวมถึงความช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้ฉัน และฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขา ในช่วงเวลาที่ยากลําบาก ผู้ฝึกช่วยฉันอย่างไม่เห็นแก่ตัว ตอนที่ฉันอยู่ในคุก พวกเขาช่วยครอบครัวของฉัน ทำให้ครอบครัวของฉันเห็นพฤติกรรมที่สูงส่งของศิษย์ต้าฝ่าและชมอยู่เรื่อยว่าพวกเขาดีแค่ไหน

เราก้าวหน้าไปด้วยกันมานานกว่า 20 ปีในการเดินบนเส้นทางของการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า ความยากลําบากและอุปสรรคไม่ได้หยุดเรา เราจะยังคงให้ความร่วมมือกันอย่างดี ทำด้วยเจิ้งเนี่ยน และเดินไปด้วยกันบนเส้นทางสู่ความเป็นเทพที่ท่านอาจารย์จัดวางไว้ให้เรา

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ! ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก !

(บทความนี้ได้รับการคัดเลือกสำหรับฝ่าฮุ่ยประเทศจีนบน Minghui.org ครั้งที่ 22)