(Minghui.org) ฉันอายุ 78 ปี ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1997 ในโอกาสฝ่าฮุ่ยประเทศจีนบน Minghui.org ครั้งที่ 22 ฉันขอเล่าประสบการณ์ไม่นานนี้ของฉันในขณะพยายามทวงความเป็นธรรมให้กับสามีของฉัน และใช้กฎหมายเพื่ออธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้าย ฉันขอให้ผู้ฝึกอื่นช่วยเขียนประสบการณ์ของฉันจากการบอกเล่าของฉัน
ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงของสามี
ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า 2 คนในที่ทํางานของฉันแนะนําให้ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเขาบอกฉันว่าการฝึกนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นพิเศษ และพวกเขาให้หนังสือหลายเล่มแก่ฉัน รวมถึงฝ่าหลุนกงและจ้วนฝ่าหลุน ฉันรู้สึกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดีหลังจากที่ฉันอ่านหนังสือและดูการบรรยายที่บันทึกไว้ของท่านอาจารย์ 3 บท ฉันดูการบรรยายไม่จบเพราะฉันต้องเดินทางไปทําธุรกิจ หลังจากที่ฉันกลับบ้าน ฉันก็ไม่ได้ฝึกต่อ ฉันยุ่งกับงานและได้รับอิทธิพลจากลัทธิอเทวนิยม ฉันไม่มีแนวคิดเรื่องการบําเพ็ญ พระพุทธ หรือเทพ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้บำเพ็ญต้าฝ่าอย่างแท้จริง
ฉันขอให้สามีฝึก แต่เขาไม่ฝึก เขายุ่งอยู่กับการเล่นไพ่นกกระจอก เต้นรํา และออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ เราย้ายบ้านในปี 1997 และไม่รู้จักใครในละแวกบ้านใหม่ สามีของฉันไม่มีเพื่อนออกไปเที่ยวด้วยและต้องอยู่บ้าน ด้วยความเบื่อหน่าย เขาสังเกตเห็นจ้วนฝ่าหลุนและเริ่มอ่าน เขาพบว่าหนังสือเล่มนี้พิเศษมาก และบอกว่าเขาไม่เคยอ่านหนังสือแบบนี้มาก่อน เขาอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างตั้งใจตั้งแต่ต้นจนจบ
3 วันต่อมา เขารู้สึกถึงฝ่าหลุนหมุนตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาในช่องท้องของเขา เหมือนที่อธิบายไว้ในจ้วนฝ่าหลุน เขารู้ว่าท่านอาจารย์ให้ฝ่าหลุนแก่เขาเพราะเขารู้สึกได้จริง ๆ
สามีของฉันไม่ได้ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 4 วัน และอ่านหนังสือทั้งเล่มอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่นั้นมา เขาก็เชื่อมั่นในหลักการที่สอนในหนังสือเล่มนี้ และตระหนักว่านี่คือคําสอนที่มีคุณธรรมที่นําคนไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
ครอบครัวสามีของฉันเชื่อในพระพุทธเจ้า บางทีเขาอาจได้รับอิทธิพลจากครอบครัวด้วย ดังนั้นเขาจึงขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเขาอ่านจ้วนฝ่าหลุนได้ 3 วัน เขาก็เลิกสูบบุหรี่และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ก็ทำให้เพื่อน ๆ และครอบครัวของเราประทับใจแล้ว เพราะทุกคนรู้ว่าเขายอมแลกชีวิตกับบุหรี่ และเวลาเขาโมโห มันน่ากลัว
ในปี 1986 เขาปวดท้องบ่อย ๆ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นแผลที่ลําไส้เล็กส่วนต้น เขาเข้ารับการผ่าตัดเพื่อตัดกระเพาะอาหารออก 4 ใน 5 ส่วน หมอบอกให้เขาเลิกสูบบุหรี่อยู่ตลอด ไม่เช่นนั้นร่างกายของเขาจะทรุดโทรม เขาตกลง แต่ไม่ได้เลิกสูบบุหรี่ แต่หลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาก็เลิกสูบบุหรี่ได้ใน 3 วัน เมื่อฉันวิพากษ์วิจารณ์เขา เขาไม่โกรธอีกแล้ว สุขภาพของเขาดีขึ้นทุกวัน
ฉันได้รับแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้งจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสามีของฉันภายในระยะเวลาอันสั้น และฉันก็เริ่มเดินบนเส้นทางการบําเพ็ญอย่างแท้จริงตามข้อกําหนดของท่านอาจารย์ ตอนนี้สามีของฉันและฉันได้บำเพ็ญมานานกว่า 20 ปีแล้ว และเราทั้งสองคนไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียวกับยา เรามีสุขภาพที่ดีตลอดมา
ชายหนุ่มตระหนักว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี
ฉันออกไปแจกเอกสารอธิบายความจริงอยู่บ่อยครั้งหลังจากการประทุษร้ายเริ่มขึ้นในปี 1999
ครั้งหนึ่งฉันกับผู้ฝึกสาวคนหนึ่งไปแจกใบปลิวตามถนนโดยแยกกันไปคนละทาง ผู้ฝึกสาวคนนี้มาหาฉันและบอกว่ามีคนติดตามฉันอยู่ และเขาโทรศัพท์หาใครบางคนด้วย ฉันบอกให้เธอรีบขึ้นรถประจำทาง บังเอิญมีรถประจำทางคันหนึ่งมาพอดี เธอจึงได้ไกระโดดขึ้นรถไป
ฉันเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม ชายหนุ่มที่โทรศัพท์ตามฉันไป ฉันพูดกับเขาว่า "หนุ่ม อย่าทําเรื่องไม่ดีเลย" เขาไม่พูดอะไรและเดินตามฉันต่อไป หลังจากเดินไปไกลแล้ว ฉันยังเห็นเขายังอยู่ด้านหลังฉัน ฉันพูดว่า "ขอให้จําไว้ว่า คนดีจะได้รับพรตลอดชีวิต คนที่ปกป้องผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะได้รับพร และคุณจะมีอาชีพการงานที่ดีในอนาคต" เขาไม่ได้พูดอะไรเลย
ฉันเห็นรถประจำทางวิ่งเข้ามาและต้องการขึ้นรถประจำทาง เขาตะโกนขึ้นมาทันทีว่า "เธอเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า !" ฉันหันกลับไป ถอดหมวก และพูดว่า "แล้วไง ถ้าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าล่ะ ฉันอายุ 70 กว่าปีแล้ว สุขภาพของฉันดีขึ้นจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า มีอะไรผิดหรือ" รถประจำทางหยุดและฉันก็ขึ้นรถ
ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นและตะโกนว่า "คนดีจะมีชีวิตที่สงบสุข !" ฉันยิ้มและโบกมือตอบกลับ "ใช่แล้ว คนดีจะปลอดภัยไปตลอดชีวิต !"
ปรากฏว่าชายคนนี้เกลียดฝ่าหลุนต้าฝ่าเนื่องจากคำโกหกที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่ วันนั้นด้านที่รู้ของเขาฟังผู้ฝึก มันเยี่ยมมาก
สามีของฉันถูกประทุษร้าย
สามีของฉันและฉันไม่ละทิ้งความเชื่อของเราหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่า เรายังคงทําสามสิ่งให้ดีต่อไป สามีของฉันถูกขังอยู่ในศูนย์กักกัน ถูกตัดสินให้ถูกขังในค่ายแรงงาน และถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการประทุษร้าย เขาถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และผ่านความยากลําบากมากมาย ฉันก็ถูกกักขังเช่นกัน
สามีของฉันถูกจับกุมอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ทรัพย์สินส่วนตัวของเรา รวมถึงหนังสือต้าฝ่า และอุปกรณ์ทําเอกสารอธิบายความจริงและใบปลิว ถูกยึด ต่อมาเขาถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดี ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ฝึกคนอื่น ๆ ฉันจึงยื่นคำขอแก้ต่างให้สามีในฐานะสมาชิกในครอบครัวก่อนการพิจารณาคดี แต่เนื่องจากฉันไม่รู้ว่าจะทําอย่างไรและไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ฉันจึงบอกเพียงว่าสามีของฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ในการพิจารณาคดี ฉันไม่รู้จะพูดอะไรอีกเพื่อแก้ต่างให้เขา
ในการพิจารณาคดี ทนายความขอให้ผู้พิพากษาแสดงหลักฐาน ผู้พิพากษาหยิบของที่ระลึกที่มีคําว่า "ความจริง ความเมตตา ความอดทน" ออกมา ทนายถามว่าสินค้าที่ทํามาอย่างดีเช่นนี้ซึ่งส่งเสริมคุณธรรมตามประเพณีจะถือเป็นหลักฐานของการก่ออาชญากรรมได้อย่างไร ถึงกระนั้น อัยการและผู้พิพากษาก็ยืนยันว่าสามีของฉันบ่อนทําลายการบังคับใช้กฎหมายในการทําของที่ระลึกเหล่านี้ในปริมาณมาก หลังการพิจารณาคดี ฉันได้ยื่นเอกสารที่พิสูจน์ตามกฎหมายว่าฝ่าหลุนต้าฝ่า (ฝ่าหลุนกง) เป็นการฝึกที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศจีนมาโดยตลอด
สามีของฉันถูกตัดสินจําคุกมากกว่า 8 ปีอย่างไม่เป็นธรรม และถูกปรับหลังจากการพิจารณาคดีรอบแรก เขาฝากคนมาบอกฉันว่า เขาตัดสินใจที่จะไม่อุทธรณ์คําตัดสินเพราะเขาคิดว่าการอุทธรณ์ไม่มีประโยชน์
ผู้ฝึกปรึกษาฟอรัมยุติธรรม (justice forum) อย่างรวดเร็ว และหลังจากการหารือ ฉันก็ตัดสินใจอุทธรณ์ ผู้ฝึกเตรียมเอกสารอุทธรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้น สามีของฉันทราบถึงความตั้งใจของฉันและทําเอกสารได้เสร็จภายในกําหนดเวลา
หลังจากที่สามีของฉันยื่นอุทธรณ์สําเร็จ เขาก็ยื่นคำร้องขอให้ฉันเป็นผู้แก้ต่างให้เขาในฐานะสมาชิกในครอบครัวในการพิจารณาคดีอุทธรณ์ จากนั้นฉันก็ส่งเอกสารทางกฎหมายต่าง ๆ พร้อมกับจดหมายขอให้ผู้คนที่ไม่มีส่วนร่วมในการประทุษร้ายผู้ฝึกไปยังศาล
ฉันได้พบกับผู้พิพากษาที่รับผิดชอบการอุทธรณ์ 2 ครั้ง และเราคุยกันทางโทรศัพท์หลายครั้ง หลังจากที่ฉันยื่นเรื่องร้องเรียน ผู้พิพากษาก็มีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้น และหยุดขัดจังหวะฉันเมื่อฉันอธิบายความจริง
ด้วยการสนับสนุนของผู้ฝึกในฟอรัมยุติธรรมรวมถึงผู้ฝึกในท้องถิ่น ฉันจึงเริ่มเส้นทางการใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นเพื่อต่อต้านการประทุษร้ายและช่วยสามีของฉัน
การส่งเอกสารทางกฎหมายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ
ฉันได้รับคำแนะนำให้ส่งเอกสารไปยังสถานที่ทํางานมากถึง 40 หรือ 50 แห่ง ฉันลังเลและเลือกที่จะส่งเอกสารไปยังสถานที่ที่ฉันรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับการพลิกคดีเท่านั้น ต่อมาผู้ฝึกถามฉันเรื่อย ๆ ว่าฉันส่งจดหมายไปกี่แห่ง และฉันยอมรับว่าฉันส่งจดหมายไปเพียงไม่กี่แห่ง ฉันเริ่มกลัวหลังจากเห็นคดีที่รายงานทางโทรทัศน์ที่ทนายความถูกตัดสินโทษหนักหลังจากที่ครอบครัวของเขาฟ้องเขา
หลังจากพูดคุยกับผู้ฝึกหลายครั้ง ฉันก็เปลี่ยนความคิดและกล้าหาญขึ้น ต่อมาฉันสามารถส่งจดหมายไปยังสถานที่ทํางานทั้งหมดที่ระบุไว้ในข้อร้องเรียนได้
ฉันจําได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยเตรียมเอกสาร 10 กว่าฉบับ รวมแล้วเกือบ 200 หน้า เพื่ออธิบายความจริงต่อระบบตุลาการ เราส่งเอกสารชุดนี้ออกไป 40 หรือ 50 ชุดทางไปรษณีย์ ในที่สุดหัวหน้าสํานักยุติธรรมท้องถิ่นก็ถูกย้ายไปยังสถานที่ทํางานที่รู้กันดีว่าเป็นการเนรเทศ สํานักงานนี้ได้อันดับท้ายสุดจากผลสํารวจความพึงพอใจของรัฐบาลท้องถิ่น ฉันกลายเป็นที่รู้จักในระบบนี้
ฉันส่งเอกสารทางกฎหมายไปทางไปรษณีย์อย่างเปิดเผย แต่วันหนึ่ง เมื่อฉันไปส่งจดหมายอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ในที่ทําการไปรษณีย์บอกฉันว่า ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งจดหมายเหล่านั้น ฉันพูดว่า "คุณช่วยแสดงเอกสารที่ระบุสิ่งที่ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งไปรษณีย์ได้ไหม" เขาพูดว่า "ถ้าจดหมายเหล่านี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง คุณก็ไม่สามารถส่งไปรษณีย์ได้"
ฉันพูดว่า "กรุณาแสดงบทบัญญัติทางกฎหมายให้ฉันดู เราถูกทารุณกรรมเพราะเราฝึกฝ่าหลุนกง ถ้าฉันไม่เขียนเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง แล้วฉันจะเขียนอะไรได้ คุณได้พรากสิทธิ์ในการสื่อสารของฉันไป ซึ่งผิดกฎหมาย หัวหน้าของคุณอยู่ที่ไหน กรุณาเรียกเขาออกมา" ฉันได้รับอนุญาตให้ส่งเอกสารทางไปรษณีย์หลังจากที่พวกเขาโทรหาหัวหน้า ต่อจากนั้น ทุกครั้งที่ฉันไปที่ทําการไปรษณีย์ พนักงานจะโทรหาผู้บังคับบัญชา และฉันก็ได้รับอนุญาตให้ส่งเอกสารทุกครั้ง
ต่อมาฉันไปที่ทําการไปรษณีย์อีกแห่งหนึ่ง พนักงานในที่ทําการไปรษณีย์แห่งนี้เป็นมิตร ผู้จัดการบอกว่าเอกสารทางกฎหมายเขียนโดยทนายความ และฉันสามารถส่งเอกสารเหล่านี้ออกไปได้ตราบเท่าที่ไม่มีสโลแกนปฏิวัติ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งช่วยเหลือฉันดีมาก และเธอมักจะช่วยฉันบันทึกเอกสารที่ฉันส่งเข้าระบบ ฉันแค่จ่ายค่าไปรษณีย์เท่านั้น ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์กําลังช่วยฉันอยู่
ในขณะที่ฉันใช้วิธีการทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อช่วยสามีและอธิบายความจริง ผมของฉันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวหมดและน้ําหนักก็ลดลงมาก หลายครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยและบอกผู้ฝึกว่าฉันอยากยอมแพ้ แต่หลังจากที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฉัน ฉันมักจะคิดถึงสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของฝ่า และไตร่ตรองเรื่องให้รอบคอบในวันนั้น ดังนั้นฉันจึงไม่เคยหยุดก้าวเดินและไปหลายที่เพื่อส่งเอกสารทางกฎหมาย การอุทธรณ์ การร้องเรียน ฯลฯ ฉันมักส่งจดหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนอย่ามีส่วนร่วมในการประทุษร้ายผู้ฝึก
ครั้งหนึ่งฉันพบแผ่นพับในตะกร้าจักรยานของฉัน ซึ่งเป็นจดหมายถึงคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย ฉันคิดว่ามันเขียนได้ดีและฉันรู้สึกตื่นเต้น ฉันนึกถึงคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายในมณฑลของฉันทันที ถ้าพวกเขารู้ความจริงเหล่านี้เกี่ยวกับฝ่าหลุนกง มันจะวิเศษแค่ไหน พวกเขาไม่เพียงแต่จะหยุดทําความชั่ว แต่ยังจะปกป้องผู้ฝึกในมณฑลอีกด้วย ดังนั้นด้วยความคิดนี้ ฉันจึงเขียนจดหมายถึงคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายในมณฑลของฉันในนามของฉัน ไม่กี่วันต่อมาตํารวจก็มาหาฉัน
ข้อร้องเรียนของคุณเขียนได้ดี
วันหนึ่งฉันถูกเรียกตัวไปที่สถานีตํารวจ ฉันถูกถามว่าฉันได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายหรือไม่ ฉันถามว่าการเขียนจดหมายมีอะไรผิดหรือ เจ้าหน้าที่ตํารวจถามว่า "ทําไมคุณถึงส่งจดหมายจํานวนมากไปยังหน่วยงานต่าง ๆ" ฉันพูดว่า "สามีของฉันถูกตัดสินจําคุกอย่างไม่เป็นธรรม ฉันต้องการให้ทุกคนรู้เรื่องนี้และดูว่าใครถูกใครผิด ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถช่วยเราได้"
ขณะนั้นลูกสาวของฉันโทรมาขอให้ฉันกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน รองหัวหน้าพูดว่า "ทําไมคุณไม่กลับบ้านก่อน แล้วผมจะพิมพ์อะไรบางอย่างออกมาทีหลัง กรุณากลับมารับมันด้วย" เช้าวันรุ่งขึ้นฉันกลับไป พวกเขาปิดผ้าม่านในห้องและมันก็มืด ฉันถูกขอให้ลงนามในเอกสาร เนื่องจากพวกเขาสุภาพ แม้ว่าสายตาของฉันจะไม่ดี แต่ฉันก็เซ็นชื่อโดยไม่อ่านเอกสาร และนําสําเนากลับบ้าน
ที่บ้าน ฉันตระหนักว่ามันเป็นคำตัดสินลงโทษทางปกครอง เหตุผลของการลงโทษคือฉันได้เผยแพร่เอกสารฝ่าหลุนกงไปยังหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ เอกสารนี้ระบุว่าเนื้อหาที่ส่งส่งเสริมฝ่าหลุนกง ทำให้ระบบกฎหมายเสื่อมเสียชื่อเสียง และแทรกแซงงานบริหารและตุลาการ คำสั่งระบุว่าจะไม่บังคับใช้การกักขังทางปกครอง 7 วัน แต่ฉันถูกปรับ 300 หยวน และต้องจ่ายค่าปรับภายในจำนวนวันที่กำหนด มิฉะนั้นค่าปรับจะเพิ่มขึ้น
ฉันรู้ว่าฉันถูกหลอก ต่อมาสถานีตํารวจบอกว่าพวกเขากําลังดําเนินการตามคําสั่งจากเบื้องบน จากนั้นฉันก็เขียนถึงรัฐบาลเขตเพื่อขอให้พวกเขายกเลิกคำตัดสินใจลงโทษทางปกครอง และฉันได้ยื่นขอให้มีการพิจารณาทางปกครองใหม่ ฉันยังประกาศให้ลายเซ็นของฉันเป็นโมฆะด้วย สถานีตํารวจไม่ได้ขอให้ฉันจ่ายค่าปรับ 300 หยวน และฉันก็ไม่ได้จ่าย
ในการยื่นคําร้องขอให้พิจารณาทางปกครองใหม่ ฉันเขียนว่า "ฉันส่งคําอธิบายที่ตั้งใจจะใช้ในศาลเพื่อแก้ต่างให้สามีของฉันต่อองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้อง มันไม่ไร้สาระหรือ ที่คุณอ้างว่าเรื่องนี้แทรกแซงงานบริหารและตุลาการ"
รัฐบาลเขตซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบที่กําหนดตามกฎหมาย ล้มเหลวในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย และไม่ตอบกลับภายในระยะเวลาการพิจารณาทางปกครองใหม่ 60 วัน ภายใน 15 วันหลังจากครบกำหนดระยะเวลาการพิจารณาทางปกครองใหม่ ฉันได้ยื่นฟ้องคดีปกครองโดยตรงต่อศาลประชาชนระดับกลางของเมือง
พนักงานหญิงสาวคนหนึ่งที่ศูนย์บริการลูกค้าของศาลประชาชนระดับกลางของเมือง ดูข้อร้องเรียนของฉันเป็นเวลานานก่อนที่จะไปหาผู้บังคับบัญชาของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้บังคับบัญชาของเธอก็ออกมาถามว่าใครเป็นคนเขียนข้อร้องเรียนของฉัน เขาบอกว่ามันเขียนได้ดี แต่ฉันควรไปที่สํานักงานความมั่นคงสาธารณะเพื่อแก้ปัญหา
เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการประทุษร้ายสามีของฉันต่อสาธารณชน
หลังจากสามีของฉันถูกจับกุม ผู้ฝึกได้เขียนบทความเปิดโปงการประทุษร้าย รวบรวมบทความเหล่านี้และส่งไปยังเว็บไซต์ Minghui.org ฉันออกไปส่งเอกสารเหล่านี้ เนื่องจากบทความเหล่านี้พูดถึงเหตุการณ์จริงและผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ผู้คนจึงอยากอ่านชุดบทความที่รวบรวมเมื่อเห็นชื่อเรื่อง
ฉันถือแผ่นพับ 2 ถุงไปแจก เมื่อฉันเจอคนหนุ่มสาว ฉันพูดกับพวกเขาว่า "ฉันขอให้ใบปลิวนี้แก่คุณ ทําไมคุณไม่ลองมองตัวเองเป็นผู้พิพากษาและดูว่าคุณจะตัดสินคดีนี้อย่างไร" พวกเขารับมันอย่างมีความสุข
วันหนึ่งฉันเห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ริมถนนโดยมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน ฉันพูดว่า "ฉันขอให้ใบปลิวเอาไว้อ่าน" เขาพูดว่า "ผมมาจากสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ" ฉันพูดว่า "มีอะไรผิดหรือ" พวกคุณก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ ฉันไม่มีเจตนาร้าย ฉันแค่อยากให้คุณเห็นว่าใครถูกใครผิด" เขารับมัน
หลังจากสามีของฉันตัดสินใจอุทธรณ์ เราก็เตรียมคำแถลงแก้ต่าง จากนั้นฉันก็แจกคำแถลงนี้ ซึ่งเขียนขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในฟอรัมยุติธรรมและผู้ฝึกในท้องถิ่น เนื้อหาอธิบายอย่างชัดเจนว่าการฝึกฝ่าหลุนกงถูกกฎหมาย และการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงคืออาชญากรรม ผู้ที่อ่านจะเข้าใจความจริง ดังนั้นในขณะที่โพสต์เอกสารนี้จํานวนมาก ฉันยังได้แจกเอกสารนี้ให้กับผู้คนบนท้องถนนด้วย
อธิบายความจริงกับหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ
ในอดีต ฉันอธิบายความจริงแบบต่อหน้า และรู้สึกดีมากเมื่อถึงบ้านหลังจากที่ฉันได้ช่วยผู้คนให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากสามีของฉันถูกจับกุม ฉันรู้สึกว่าฉันควรอธิบายความจริงกับคนในสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ สำนักงานอัยการ และศาล แม้ว่าจะมีความรู้สึกถึงความสําเร็จอย่างแรงกล้า แต่หากคนในสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ สำนักงานอัยการ และศาลได้เรียนรู้ความจริงและหยุดมีส่วนร่วมในการประทุษร้าย ก็จะมีความหมายมากเช่นกัน
วันหนึ่งผู้ฝึกคนหนึ่งบอกฉันว่าเขาถูกรายงานขณะแจกใบปลิวใกล้สถานีตํารวจ คืนนั้นขณะที่ผู้ฝึกคนนี้พูดกับหัวหน้าสถานีตํารวจ ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าหัวหน้าตํารวจรู้ความจริงแล้ว เขาถามว่าหัวหน้าเคยพูดคุยกับผู้ฝึกในอดีตหรือไม่ เขาตอบว่าเคย เมื่อผู้ฝึกถามว่าเขาได้ยินความจริงจากใคร หัวหน้าก็บอกว่าโจว (นามแฝง) โจวคือสามีของฉัน ที่จริงฉันได้บอกความจริงกับพวกเขาก่อนหน้านี้ และได้ส่งเอกสารรวมถึงคําแถลงแก้ต่างสามีของฉันในศาลด้วย หลังจากนั้น หัวหน้าบอกผู้ฝึกว่า "คุณไปได้แล้ว แต่อย่าไปที่สถานที่นั้นเพื่อแจกใบปลิวอีก เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่ที่นั่น"
ฉันมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากได้ยินข้อเสนอแนะจากผู้ฝึกคนนี้ มันแสดงให้เห็นว่าความพยายามของฉันไม่ได้สูญเปล่า หัวหน้าสถานีตํารวจรู้ความจริงและไม่ประทุษร้ายผู้ฝึก
เท่าที่ฉันทราบ พนักงานส่วนใหญ่ในสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ สำนักงานอัยการ และศาล ได้ยินแต่คําโกหกและดําเนินการตามคําสั่งที่ไม่ถูกต้องจากเบื้องบน คนที่ได้ยินความจริงโดยตรงจากผู้ฝึกมีน้อยมาก โดยเฉพาะสํานักงานบริหารเรือนจําในระดับมณฑล สํานักงานยุติธรรม เจ้าหน้าที่รัฐบาลมณฑล ซึ่งจําเป็นต้องได้ฟังการอธิบายความจริงเป็นพิเศษ ถ้าเราสามารถอธิบายความจริงให้พวกเขาได้ บางทีพวกเขาอาจไม่ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่พวกเขาสามารถแยกแยะความถูกผิดในใจของพวกเขาได้ และจะมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้โดยปกติจะรับสิ่งที่เรียกว่า "งาน" จากเบื้องบน พวกเขาพูดคุยกับผู้คนในแวดวงเดียวกันเท่านั้น และไม่ค่อยได้ติดต่อกับประชาชนทั่วไป โดยปกติแล้วเราไม่มีข้ออ้างที่จะไปหาพวกเขา แต่ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะเข้าหาพวกเขาเพื่ออธิบายความจริง
นี่ทําให้ฉันกล้าที่จะเดินทางไปยังเมืองในระดับมณฑลที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์เพื่อพบเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ และบอกความจริงกับพวกเขาเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงผ่านสถานการณ์ของสามีของฉัน ฉันขึ้นรถไฟไปพบหัวหน้าเรือนจําที่บริเวณเรือนจําที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์เพื่อขอให้ปล่อยตัวสามีของฉัน และฉันขี่จักรยานและขึ้นรถประจำทางไปยังหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ ในเมืองของฉันเพื่อบอกเจ้าหน้าที่ว่า สามีของฉันถูกตัดสินจําคุกอย่างไม่เป็นธรรม
บางคนไม่พูดออกมาดัง ๆ แต่ในใจพวกเขาชื่นชมเราผู้ฝึก บางครั้งฉันเตรียมบันทึกมากมายที่มีเนื้อหาจากเว็บไซต์หมิงฮุ่ยและแจกให้พวกเขา พวกเขายิ้ม พยักหน้า และรับบันทึกเหล่านั้น
ฉันไปที่สํานักงานบริหารเรือนจํา พนักงานทําให้สิ่งต่าง ๆ ยากสําหรับฉันในตอนแรก และหยาบช้ากับฉันมาก ฉันอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้พวกเขาฟังอย่างอดทนและพวกเขาก็ไม่ได้ใจร้ายนัก เมื่อฉันไปพบหัวหน้าสํานักงานตุลาการ ฉันพูดถึงการประทุษร้ายที่สามีของฉันต้องเผชิญในเรือนจำ ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดว่า "เขาเป็นอาชญากร นั่นคือวิธีที่เขาควรได้รับการปฏิบัติ" ฉันพูดว่า "ใครเป็นคนก่ออาชญากรรม จริง ๆ แล้วไม่มีกฎหมายที่พิสูจน์ว่าฝ่าหลุนกงผิดกฎหมาย คุณช่วยแสดงหลักฐานทางกฎหมายให้ฉันดูได้ไหม พวกเราผู้ฝึกถูกตัดสินว่าผิด" ชายคนนั้นหยุดพูด
ฉันไปที่ศาลหลังจากที่สํานักงานประกันสังคมขอให้สามีของฉันคืนเงินบํานาญที่เขาได้รับไปแล้ว ฉันบอกผู้พิพากษาว่าเงินบํานาญเป็นเงินของเราเองและควรมอบให้เรา พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่ขอให้เราคืน เช่นเดียวกับธนาคาร เงินที่เราฝากเป็นของเรา ใครจะบอกว่าเงินเป็นของธนาคารล่ะ เงินบํานาญที่สํานักงานประกันสังคมมอบให้เป็นเงินที่สะสมจากงานที่เราทํามาตลอดชีวิต และควรแจกให้เราหลังจากที่เราเกษียณ ตราบใดที่บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ เงินบํานาญก็ควรให้ต่อไป แต่คุณต้องการให้เราคืนเงิน นี่ขัดต่อกฎหมาย
ผู้พิพากษาพูดว่า "เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสํานักงานประกันสังคม คุณไม่ควรมาหาฉัน" ฉันพูดว่า "ฉันควรไปหาใคร คุณเดินทางไปที่เรือนจําและประกาศคำตัดสินใจต่อหน้าสามีของฉัน โดยบอกเขาว่าเงินบํานาญของเขาจะถูกระงับและเขาต้องคืนเงินที่ได้รับไปแล้ว นี่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางจิตใจให้กับสามีของฉัน และทําให้อาการป่วยของเขาแย่ลง คุณกำลังทำอะไรอยู่ ! ฉันมาหาคุณในวันนี้เพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าสิ่งที่คุณทําผิดกฎหมาย"
ฉันเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ข้างผู้พิพากษา และฉันพูดว่า "หนุ่มน้อย คุณยังเด็กอยู่ คุณต้องรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี และคุณต้องการอนาคตที่ดี คุณก็จะจบเห่ ถ้าคุณยังทำตามพวกเขาและทําสิ่งเลวร้ายต่อไป คุณต้องรู้ว่าศาลมีไว้เพื่ออะไร" ชายคนนั้นยิ้มและก้มศีรษะลง ในที่สุดฉันก็ไม่ได้คืนเงินบํานาญของสามีและพวกเขาก็ไม่ขอให้ฉันคืนเช่นกัน
ฉันไปพบหัวหน้าศาลประชาชนระดับกลางเกี่ยวกับการฟ้องร้องผู้พิพากษาในการพิจารณาคดีครั้งแรกของสามี หัวหน้าไม่อยู่แถวนั้น แต่ฉันอยู่รอเขา ฉันอธิบายความจริงให้กับพนักงานหนุ่มสาวหลายคน หนึ่งในนั้นพูดว่า "ป้า หยุดพูดเถอะ เราจะฝึกฝ่าหลุนกงด้วยเร็ว ๆ นี้ ดูสิ เจ้านายของเรากําลังจะมา !" พวกเขาหยุดคุยกับฉันทันที
ฉันถามเจ้านายของพวกเขาว่า "ทําไมคุณไม่รับคดีของฉันล่ะ มีเหตุผลอะไร" เขาพูดว่า "เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเอกสารที่บอกว่าเราไม่สามารถรับคดีฝ่าหลุนกงได้" ฉันคว้าโอกาสนี้และพูดว่า "แสดงเอกสารนี้ให้ฉันดูหน่อย ฉันไม่สามารถเชื่อคําพูดของคุณได้ คุณต้องแสดงเอกสารให้ฉันดู" เขาไม่ตอบและเดินเข้าไปในห้อง เขาไม่ออกมาอีกเลย
ฟ้องร้องสํานักงานความมั่นคงสาธารณะของเมืองและรัฐบาลเมือง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ฉันได้ยื่นคำขอไปยังสํานักงานความมั่นคงสาธารณะของเมืองเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลต่อสาธารณะ ฉันขอให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเวลาที่สามีของฉันถูกขังอยู่ในศูนย์กักกัน ในคำตอบของสํานักงานความมั่นคงสาธารณะเมือง พวกเขาบอกว่านี่ไม่ใช่ข้อมูลของรัฐบาล และปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม จากนั้นฉันก็ยื่นขอให้พิจารณาการปกครองใหม่ต่อรัฐบาลเมือง รัฐบาลยังคงคําตัดสินเดิม จากนั้นฉันก็ยื่นฟ้องคดีปกครอง เนื่องจากจําเลยคือสํานักงานความมั่นคงสาธารณะและรัฐบาล ศาลปฏิเสธที่จะรับคดีโดยอ้างว่าเลยกําหนดเวลาแล้ว ฉันไปที่ที่ทําการไปรษณีย์เพื่อรับสําเนาสถานะการจัดส่งเอกสาร หลังจากพยายามอย่างมาก ในที่สุดฉันก็ได้รับหมายเรียกจากศาลและการพิจารณาคดีก็จัดขึ้นที่ศาลประจำเมืองในปลายปี 2021
ในวันพิจารณาคดี ฉันแต่งตัวแบบมืออาชีพเพราะนี่เป็นภาพลักษณ์ของผู้ฝึก พี่สะใภ้ของฉันไปกับฉันเพื่อช่วยฉันถือแก้วและเอกสาร และทําหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฉัน เธอนั่งข้างฉัน เนื่องจากเราเป็นฝ่ายโจทก์ ที่นั่งของเราจึงสูงกว่าจําเลย ซึ่งทำให้รู้สึกดีมาก แม้ว่าจะเป็นการพิจารณาคดีสาธารณะ แต่ไม่มีใครอยู่ในที่นั่งสำหรับประชาชนเลย
ต่อมาฉันได้ทราบว่าผู้ฝึก 10 กว่าคนจากอำเภอไปที่ศาลเพื่อฟาเจิ้งเนี่ยน
ผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งจำเลยซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเรามีเจ้าหน้าที่ตํารวจ 2 คนซึ่งเป็นตัวแทนของสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ และทนายความ 2 คน ที่ทําหน้าที่ในนามของรัฐบาลและสํานักงานความมั่นคงสาธารณะ รวมทั้งหมด 5 คน
เหตุการณ์ตลกเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ตํารวจที่เป็นตัวแทนของสํานักงานความมั่นคงสาธารณะลุกขึ้นยืนและเริ่มพูดสิ่งที่อ้างว่าเป็นโจทก์ ผู้พิพากษาหยุดเขาทันที ผู้พิพากษาบอกเขาว่า "คุณเป็นจําเลย" และขอให้เขานั่งและปล่อยให้โจทก์พูดก่อน เจ้าหน้าที่ซึ่งคุ้นเคยกับการเป็นโจทก์ตกตะลึงและนั่งลงด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ความคิดถูกต้องของฉันแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเห็นเช่นนี้
ฉันไม่กลัวแม้จะเผชิญหน้ากับคน 5 คน เพราะผู้ฝึกจากฟอรัมยุติธรรมได้เตรียมเอกสารให้ฉัน อธิบายขั้นตอน และบอกฉันว่าต้องพูดอะไรในขั้นตอนใด และวิธีจัดการกับสถานการณ์พิเศษที่อาจเกิดขึ้น พวกเขาเขียนทุกอย่างให้ฉัน ฉันก็แค่ต้องอ่านตามที่เขียน
การพิจารณาคดีทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ฉันพูดได้อย่างฉะฉาน และจําเลยก็ดูกระดากเมื่อเผชิญกับข้อโต้แย้งที่ทรงพลังของฉัน แม้ว่าเราจะตกเป็นเหยื่อของการประทุษร้ายทางการเมืองนี้ แต่เราก็ไม่เคยยอมรับข้อกล่าวหาที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยัดเยียดให้เรา ดังนั้นเราจึงไม่เคยรู้สึกว่าด้อยกว่าใคร ฉันสามารถยืนหยัดในฐานะโจทก์และได้รับความเคารพ พี่สะใภ้ของฉันพูดกับฉันหลังการพิจารณาคดีว่า "สิ่งที่คุณพูดนั้นยอดเยี่ยมมาก"
ฉันยื่นขอสําเนาวิดีโอและบันทึกเสียงของการพิจารณาคดีในภายหลัง แต่ศาลรู้สึกประหม่าและให้เหตุผลต่าง ๆ นานาในการปฏิเสธคําขอของฉัน พวกเขาไม่เคยให้มันกับฉัน
ฉันไม่ได้จ้างทนายความในการพิจารณาคดีเพราะฉันได้รับการสนับสนุนจากผู้ฝึกและฟอรัมยุติธรรม ฉันไม่คิดว่าจําเป็นต้องใช้เงินในการจ้างทนายความ ฉันใช้เงินเพื่อส่งเอกสารทางกฎหมายเพิ่มเติมแทน
ฉันคิดว่า เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้กฎหมายประทุษร้ายเรา เราจึงควรใช้กฎหมายเพื่อต่อต้านการประทุษร้ายและอธิบายความจริง ไม่เช่นนั้น ใครจะรู้ว่าการกระทําของพวกเขาผิดกฎหมาย ถ้าเราไม่ฟ้องพวกเขาที่ทำผิดกฎหมาย เราจะมีโอกาสยืนหยัดในตําแหน่งโจทก์และอธิบายความจริงหรือ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ในขณะนั้น สํานักงานความมั่นคงสาธารณะและรัฐบาลเมืองคือจําเลย แม้ว่าสุดท้ายแล้วศาลจะไม่ยึดมั่นในความยุติธรรมและคงคําตัดสินเดิมไว้ แต่ฉันก็ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความ ผู้พิพากษา ฯลฯ ฟังคําพูดของฉัน และฉันก็อธิบายความจริงในฐานะโจทก์
(มีต่อ)
(บทความนี้ได้รับการคัดเลือกสำหรับฝ่าฮุ่ยประเทศจีนบน Minghui.org ครั้งที่ 22)
ลิขสิทธิ์ © 2023 Minghui.org. สงวนลิขสิทธิ์