(เว็บไซต์ Minghui.org) ฉันพบเห็นปาฏิหาริย์มากมายตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตระหนักว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี รวมถึงผู้ที่เข้าร่วมในการประทุษร้ายด้วย พวกเขาประทับใจในความเมตตาและความประพฤติตามหลักจริยธรรมของผู้ฝึก และอัศจรรย์ในความยอดเยี่ยมของท่านอาจารย์ !

เต๋ออินและเต๋อหยาง

ในสมัยโบราณ ผู้คนพูดว่าเต๋อ (กุศล) มี 2 ประเภท คือ เต๋อหยางและเต๋ออิน เต๋อหยางได้รับเมื่อทำความดีแล้วได้รับการยอมรับและคำขอบคุณ เต๋ออินได้รับเมื่อทำความดีอย่างเงียบ ๆ โดยไม่เปิดเผย และไม่มีใครรู้ว่าคุณทำดีอะไรไว้ มีเพียงเต๋อประเภทนี้เท่านั้นที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเกินจีของชีวิตได้

ฉันขอแบ่งปันตัวอย่างเรื่องจริงที่น่าชื่นชมของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนที่ยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเปิดเผยชื่อจริงของพวกเขาได้ แต่จักรวาลได้บันทึกความดีของพวกเขาไว้แล้ว

พวกเขาออกไปโดยไม่แตะต้องอะไรเลย

ฉันอยู่อาศัยติดกับอาคาร 20 ชั้น วันเสาร์หนึ่ง ผู้ฝึกหลายคนไปแจกเอกสารเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าในอาคารนั้น ฉันอยู่บ้านเพราะรู้สึกไม่สบาย แต่ฉันคอยดูที่หน้าต่าง ทันใดนั้นฉันเห็นรถตำรวจคันหนึ่งและเจ้าหน้าที่ติดอาวุธครบมือหลายคนลงจากรถ ชายคนหนึ่งที่ถือแผ่นพับฝ่าหลุนต้าฝ่ากำลังพูดบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ และเขามองไปที่อาคารสูง ฉันตระหนักว่ามีคนโทรเรียกตำรวจ ฉันจึงรีบสวมรองเท้าแล้ววิ่งออกไป

ฉันเดินขึ้นบันไดในอาคารเพราะผู้ฝึกหลบกล้องวงจรปิดในลิฟต์ ฉันค้นหาผู้ฝึกทีละชั้น ทีละชั้น เมื่อฉันพบพวกเขา ฉันบอกให้พวกเขาวางเอกสารไว้ที่มุมหนึ่งและรีบออกจากอาคารเพราะตำรวจกำลังมา ฉันวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และรอจนกว่าพวกเขาออกไปหมด ฉันหมดแรงและทรุดตัวลงกับพื้น ตำรวจเห็นฉันและถามว่าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือไม่ ฉันตอบไม่ได้เพราะหายใจไม่ทัน

ฉันถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจและถูกล่ามโซ่ไว้กับม้านั่งทรมาน (tiger bench) เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งตะโกนใส่ฉันว่า "คุณไม่มีอะไรทำหรือถึงได้ไปแจกเอกสารพวกนี้ ใครเป็นคนผลิตเอกสาร ใครแจกเอกสารพวกนี้บ้าง พูดมา !" ฉันตอบว่า "คุณเป็นใคร คุณชื่ออะไร" เขาตะโกนเสียงดังว่า "ผมชื่อนั้น ชื่อนั้น แจ้งชื่อผมไปที่ Minghui.org เลย !" จากนั้นฉันก็รู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายใน

ฉันพูดว่า “ถ้าคุณทำความดี ชื่อของคุณจะไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ ฉันอยากพบคุณมานานแล้วและอยากอธิบายว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าคืออะไร” เขาดูประหลาดใจเล็กน้อย ทันใดนั้น มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอก และเขาก็ออกจากห้องไป ชายอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่เข้ามา ฉันบอกเขาว่า “พวกเราถูกประทุษร้าย !” เขาบอกว่า “คุณจะได้รับการปล่อยตัวเร็ว ๆ นี้” ฉันถามว่า “สิ่งที่คุณพูดเชื่อได้ไหม” เขาตอบว่า “ได้สิ เดี๋ยวผมจะสั่งพวกเขา” เขาดูเป็นมิตรมาก ฉันดูรูปถ่ายของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในสถานีตำรวจบนผนัง และเห็นว่าเขาคือรองหัวหน้า

ฉันเห็นรองหัวหน้าอีกครั้งเมื่อเกือบค่ำ จึงถามเขาว่า “ทำไมฉันยังอยู่ที่นี่” เขาตอบว่า “คืนนี้ผมเข้าเวร ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อไปถึงพรุ่งนี้ซึ่งมีคนอื่นมาเข้าเวร ก็จะไม่ง่ายแล้ว”

รองหัวหน้าตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองคนขับรถพาฉันกลับบ้าน ทันทีที่ฉันเปิดประตู ลูกของฉันก็จ้องมองชายแปลกหน้าด้วยความหวาดกลัว ทั้งหนังสือต้าฝ่า เอกสาร และสิ่งอื่น ๆ ของฉันกระจัดกระจายทั่วห้อง เจ้าหน้าที่หยุดและมองดูภาพถ่ายของท่านอาจารย์ จากนั้นจึงเข้าไปในห้องเพื่อตรวจสอบ โทรศัพท์ของรองหัวหน้าตำรวจดังขึ้น และดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าของเขาที่ปลายสาย เขาพูดว่า “เรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว” แล้วพวกเขาก็ออกไปโดยไม่แตะต้องอะไรเลย

ผู้ฝึกกลับบ้าน

เสี่ยวฮัวซึ่งเป็นผู้ฝึกอีกคนหนึ่งเป็นคนจิตใจดีมากและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำเพ็ญมากมายแก่ฉัน แต่หลังจากเธอถูกจำคุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็เริ่มมีอาการทางจิต วันหนึ่ง ฉันรู้ว่าเธอถูกจับอีกครั้ง ฉันกลัวว่าเธออาจจะทนไม่ได้ถ้าเธอถูกทรมานอย่างโหดร้าย ฉันไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองและติดต่อลูกสาวและน้องสาวของเธอ แต่พวกเขากลัวเกินกว่าจะช่วยเธอ ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร

ฉันนึกถึงหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายใน ฉันขอความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ ฉันเห็นเบอร์โทรศัพท์ของหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในบน Minghui.org ฉันจึงโทรไปที่เบอร์นั้นโดยโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนด้วยชื่อจริงของฉันเพื่อช่วยเสี่ยวฮัว

คนที่รับสายพูดเสียงห้าวว่า “นั่นใคร”

ฉันแนะนำตัวอย่างสุภาพและพูดว่า “ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เสี่ยวฮัวถูกจับและอาจมีภาวะล้มเหลวทางจิตใจ โปรดช่วยเธอด้วย !”

ชายคนนั้นตอบว่า “อย่าโทรไปที่เบอร์นี้อีก เราจะจับคุณถ้าคุณโทรมาอีก !” จากนั้นเขาก็วางสาย

ฉันหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาแล้วเริ่มเขียนจดหมายถึงหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในโดยไม่ได้คิดอะไรเลย ฉันเขียนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ทำไมการประทุษร้ายจึงผิดกฎหมาย และอื่น ๆ แล้วส่งจดหมายแบบด่วนพิเศษ ฉันโทรไปที่ฝ่ายความมั่นคงภายในประเทศอีกและบอกพวกเขาว่า “โปรดแจ้งหัวหน้าว่าฉันเขียนจดหมายส่งด่วนพิเศษถึงเขา กรุณาขอให้เขาเซ็นรับด้วย”

ฉันกลั้นหายใจและตั้งใจฟังราวกับว่าเห็นสีหน้าของหัวหน้าขณะที่เขาเปิดจดหมายของฉัน มันเงียบมากจนได้ยินเสียงเข็มตก แต่ในใจฉันสงบเพราะฉันรู้ว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง

วันต่อมา ฉันได้รับโทรศัพท์เรียกตัวไปที่สถานีตำรวจ เนื่องจากตอนนี้ฉันเข้าไปพัวพันกับคดีของเสี่ยวฮัวแล้ว ทนายความบอกกับฉันว่า “เสี่ยวฮัวบอกว่าเธอได้รับเอกสารจากคุณ”

ผู้ฝึกอื่นแนะนำให้ฉันหลบซ่อนตัว ฉันบอกว่า “เสี่ยวฮัวอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก ไม่ใช่ความผิดของเธอ เราต้องปฏิเสธการประทุษร้ายนี้”

ท่านอาจารย์ปกป้องฉันเมื่อฉันปล่อยวางความเห็นแก่ตัว ตำรวจโทรมาบอกว่าฉันไม่ต้องไปสถานีตำรวจแล้ว คดีนี้ปิดแล้ว

ฉันไม่ได้รับการตอบกลับจากจดหมายนั้น จนกระทั่งหลายปีต่อมา ฉันจึงทราบว่าจดหมายของฉันทำให้หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในสะเทือนใจ หลังจากที่เขาได้ติดต่อกับผู้ฝึกอื่น ๆ ในเวลาต่อมา เขาก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติ

พ่อและลูกสาวที่ฝึกต้าฝ่าถูกจับกุม ลูกสาวคนโตโทรหาผู้ฝึกทุกคนที่เธอรู้จักเพื่อขอความช่วยเหลือ ฉันไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของฉันถูกดักฟังหรือเปล่า แต่ฉันต้องค้นหาว่าพ่อและลูกสาวสองคนนั้นเป็นใคร สมาชิกในครอบครัวของพวกเขาพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับตำรวจมากมาย ฉันหยุดพวกเขา “อย่าพูดแบบนั้น พวกเขาถูกโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลอกลวงอยู่”

บางทีโทรศัพท์ที่ฉันพูดกับญาติของผู้ฝึกอาจถูกดักฟัง วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่ทำงานของฉัน ฉันปล่อยวางความหวาดกลัวและบอกพวกเขาว่า ฉันหวังว่าพวกเขาจะปล่อยตัวพ่อและลูกสาวคู่นั้นด้วย หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในพูดถึงเสี่ยวฮัวว่า “เราถามเกี่ยวกับคดีของเธอแล้ว เรื่องนี้ถูกส่งขึ้นไปแล้ว เราจึงทำอะไรไม่ได้แล้ว คุณควรหยุดถามเรื่องนี้” ฉันได้ยินความจริงใจในน้ำเสียงของพวกเขา และรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะตอบแบบนั้นกับฉัน ฉันจึงรีบขอบคุณพวกเขา

ฉันมองพวกเขาจากไป ทันใดนั้น หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในก็หันกลับมาและมองมาที่ฉัน ราวกับว่าชีวิตหนึ่งที่หลงทางอยู่ในโลกมนุษย์ได้ตื่นขึ้นมา ทุกคนมาที่โลกนี้เพื่อต้าฝ่า ดังนั้นฉันจึงรู้ว่ายังมีความหวังในการปล่อยตัวพ่อและลูกสาวคู่นั้น

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้กลับบ้านจริง ๆ

หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายในย้ายออกไป

การประทุษร้ายในพื้นที่ของเรารุนแรงน้อยลงมาก หากผู้ฝึกถูกแจ้งความเพราะอธิบายความจริงหรือแจกเอกสาร ตำรวจก็ไม่ได้ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผู้ฝึกในพื้นที่ชนบทให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้พิมพ์หนังสือต้าฝ่ามีผ้าคลุมไว้แต่ไม่แตะต้องมัน พวกเขาไม่แตะต้องภาพถ่ายของท่านอาจารย์หรือไม่เอาข้อความเกี่ยวกับต้าฝ่าที่อยู่นอกบ้านออก พวกเขาไม่ดุร้ายและดูมีความสุข พวกเขายังพูดเล่นกับผู้ฝึกอีกด้วย

เย็นวันหนึ่ง ทันทีที่ผู้ฝึกปิงและจุนกลับถึงบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายก็กระโดดข้ามกำแพงในสวนหลังบ้านของพวกเขาและเข้าจับกุมตัว

ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบก้าวออกมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องค้น ให้ผมจัดการเอง” เขาโน้มตัวลงแตะใต้เตียง แล้วแผ่นดีวีดีก็หล่นออกมา เขาหยิบขึ้นมาแล้ววางกลับที่เดิม พึมพำว่า “เรียบร้อยดี” มีเอกสารเกี่ยวกับต้าฝ่าอยู่ในกล่องใต้เตียง และแล็ปท็อปยังเปิดอยู่ เขาปิดมัน และวางโทรศัพท์มือถือของผู้ฝึกไว้บนโต๊ะ พร้อมพูดว่า “เราไม่ได้แตะสิ่งเหล่านี้ !” แล้วเขาก็พูดล้อเล่นว่า “ผมอ่านจดหมายของคนนั้น (หมายถึงฉัน) คุณไปหาที่อยู่เพื่อแขวนเอกสารที่บ้านของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานอัยการมาจากไหน คุณจะแขวนเอกสารที่บ้านของผมด้วยไหม ถ้าคุณรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน” ผู้ฝึกตอบว่า “ไม่ ฉันจะส่งให้คุณถึงมือเลย” เขาดูพอใจกับคำตอบนี้มาก

ผู้ฝึกถูกนำตัวกลับไปที่สถานีตำรวจและผ่านขั้นตอนปกติ พวกเขาช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ เจ้าหน้าที่พูดว่า “ผู้ที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามีมาตรฐานทางศีลธรรมสูง และพวกเราในฝ่ายความมั่นคงภายในก็เคารพคุณ !”

ผู้ฝึกหนุ่มสองคนหายตัวไป ฉันคิดจะถามตำรวจว่า พวกเขารู้หรือไม่ว่าทั้งสองคนนี้อยู่ที่ไหน

ฉันเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกระโจนใส่เรา พวกเขาไม่ตอบคำถามที่ฉันถาม แต่พวกเขากลับถามซ้ำ ๆ ว่า “คุณยังฝึกอยู่ไหม มีอะไรอยู่ในบ้านคุณไหม” เมื่อมองไปที่ประตูเหล็ก ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกขังอยู่ข้างใน ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออก หลังจากวางสาย เขาพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “คุณไปได้แล้ว”

ฉันเดินออกไปและโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นเมื่อฉันเดินถึงทางเข้าหลัก เป็นสายของหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายใน เขาพูดว่า “รีบกลับบ้านนะ โชคดีที่คืนนี้ผมเข้าเวรพอดี ผมจะโทรหาคุณเมื่อคุณถึงบ้าน” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโทรหาฉัน

เมื่อฉันกลับถึงบ้าน ฉันถือโทรศัพท์ไว้ในมือและรอรับสายจากเขา ฉันรีบพูดว่า “ขอบคุณที่ช่วยฉัน ! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องลาออกจากสมาชิกพรรคโดยเร็วที่สุด ถ้าคุณไม่ทำ ฉันจะทำให้คุณผิดหวังจริง ๆ ! พรรคคอมมิวนิสต์จีนชั่วร้าย !” คำตอบของเขาสั้นและทรงพลัง “ผมลาออกแล้ว ! ผมพบผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามากมายตอนที่ผมไปต่างประเทศ การมีส่วนร่วมกับการประทุษร้ายนั้นไม่เป็นแก่นสาร คนที่จะพูดปกป้องคุณจะมาแทนที่ผม”

เขาจบการสนทนาด้วยประโยคสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค ฉันหวังว่าจะฝากข้อมูลติดต่อไว้ให้เขา แต่เขาปฏิเสธ เขาได้จบสิ่งที่ทำอย่างเงียบๆ และหายตัวไป

หัวใจของฉันหนักอึ้ง

เจ้าหน้าที่ธรรมดาคนหนึ่งจากฝ่ายความมั่นคงภายในมักจะแช่งด่าฉันเสมอเมื่อเขามาพบฉัน ฉันมองเขาแล้วคิดในใจว่า “คุณยังดูอายุน้อยและมีการศึกษา น่าเสียดายที่คุณแช่งด่าอยู่ตลอด ! เพราะคุณได้รับอิทธิพลจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน คุณจึงไม่รู้ว่า นี่เป็นเรื่องน่าละอาย”

ฉันพูดว่า “หยุดแช่งด่าคนอื่นเถอะ มันทำให้คุณดูไม่มีอารยธรรมเลย คุณยังหนุ่มแน่น แต่คุณถูกพรรคทำให้แปดเปื้อน แม้ว่าจะมีคนฝ่าฝืนกฎหมาย เราก็ไม่ควรด่าพวกเขา !” เขาเป็นคนฉลาดและเข้าใจเจตนาดีของฉัน ฉันไม่เคยได้ยินเขาด่าอีกเลยหลังจากนั้น

ต่อมาเขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงภายใน วันหนึ่งเขาโทรหาฉันและพูดว่า “ตอนนี้ผมเป็นคนดูแลพวกคุณแล้ว จะดีกว่าสำหรับพวกคุณถ้ามีผมอยู่ใกล้ ๆ !” ฉันไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร เขากำลังทำสิ่งที่ดีหรือเปล่า ทุกครั้งที่ฉันเห็นรายงานบนเว็บไซต์ Minghui.org ที่ผู้ฝึกในพื้นที่ของเราถูกคุกคาม ถูกจับกุม หรือถูกตัดสินจำคุก ฉันรู้สึกหนักใจมาก ฉันรู้ว่าเขาคือคนที่จัดการเรื่องทั้งหมดนี้ แม้ว่าเขาอาจเลือกที่จะผ่อนปรน แต่เขาก็ไม่ได้หยุดการประทุษร้ายนี้ ด้วยการล่อลวงจากผลประโยชน์ทางวัตถุ เขาอาจยิ่งทำการประทุษร้ายรุนแรงขึ้น เขากำลังทำลายชีวิตของตัวเอง ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกเศร้าใจ

เช้าวันหนึ่ง เขาโทรหาฉันทันทีที่ฉันมาถึงที่ทำงาน เขาบอกฉันอย่างตื่นเต้นว่า “หงอิ๋น 5 ออกแล้ว คุณเห็นหรือยัง” ฉันพูดว่า “ฉันไม่รู้เลยว่ามันออกมาแล้ว !” เขาพูดต่อ “คุณหาให้ผมเล่มหนึ่งได้ไหมเมื่อหนังสือออกแล้ว” ฉันบอกว่า “ได้แน่นอน”

ฉันถามผู้ฝึกหนุ่มคนหนึ่งว่า เขาจะคัดลอกหนังสือนี้ด้วยมือให้ฉันได้หรือไม่ เพราะฉันไม่ทราบว่าจะได้รับหนังสือนี้เมื่อใด

ผู้ฝึกหนุ่มคนนี้ทำงานทั้งวันทั้งคืนและทำหนังสือเสร็จภายในเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ฉันส่งหนังสือไปที่สถานีตำรวจโดยจัดส่งแบบด่วนพิเศษ ในบ่ายวันนั้น หัวหน้าตำรวจโทรหาฉันและพูดว่า “ผมได้รับหนังสือแล้ว สุดยอด ! ผมจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ในฝ่ายอื่นอ่านด้วย ขอบคุณนะ !”

ฉันไม่สามารถพูดกับเขาด้วยความสบายใจได้ เพราะรู้ว่าเขาได้ก่อบาปใหญ่โดยการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกง เขาจะต้องลงนรกรับความทุกข์ทรมานไม่สิ้นสุด ฉันจะเจอหน้าเขาได้อย่างไร

แต่ในอดีตเขาเคยช่วยชีวิตผู้ฝึกและช่วยเหลือพวกเขา ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดต่อหน้าผู้ฝึกอื่น ๆ ว่า “ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามีคุณธรรมสูง !” หลังจากรื้อค้นบ้านแล้ว เขาก็คืนวิทยุให้กับผู้ฝึกชราคนหนึ่งอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “การฝึกนี้ดี ทำไมคุณไม่อยู่บ้านฝึกล่ะ !” เขายังพูดอีกว่า “เมื่อผมรื้อค้นบ้านของคุณ ผมจะเอาแต่หนังสือเล่มเล็กเท่านั้น ผมไม่แตะต้องหนังสือเล่มใหญ่” เขาไม่เคยแตะต้องภาพถ่ายของท่านอาจารย์และสิ่งของเกี่ยวกับต้าฝ่าในบ้านของฉันเลย เขารับรองกับฉันเสมอว่า “อย่ากลัว เราจะไม่ก่อปัญหาเมื่อเราอยู่ที่นี่”

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าผู้ฝึกเป็นคนดี แต่เขาก็ยังคงมีส่วนร่วมในการประทุษร้าย ผู้ที่กระทำความชั่วทั่วไปยังรู้ว่าพวกเขาต้องได้รับผลกรรม ในขณะที่การประทุษร้ายผู้ฝึกต้าฝ่าก่อบาปมหันต์ ! Minghui.org เผยแพร่ชื่อของผู้กระทำผิดที่ได้รับผลกรรมจากการมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายต้าฝ่า คนเหล่านี้ถูกจับเข้าคุกหรือเสียชีวิตกะทันหัน เพราะมันคือหลักการสากลที่การทำความชั่วจะถูกลงโทษ นับเป็นความเมตตาของสวรรค์ที่สิ่งเลวร้ายเช่นนี้ถูกลงโทษ

หัวหน้าผู้คุมปกป้องฉันจากการถูกทุบตี

เหล่าผู้คุมในค่ายบังคับใช้แรงงานต่างตระหนักว่า ผู้ฝึกมีมาตรฐานทางศีลธรรมสูง พวกเขาบอกว่า พวกเขาทุบตีและด่าทอผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเพราะพวกเขาไม่รู้จักฝ่าหลุนต้าฝ่าดีพอในช่วงปีแรก ๆ ของการประทุษร้าย ในปัจจุบัน แม้แต่ผู้คุมก็เลิกปฏิบัติไม่ดีกับนักโทษ พวกเขารู้ว่าการทำเช่นนั้นไร้อารยธรรมและจะนำกรรมมาให้พวกเขาซึ่งพวกเขาต้องชดใช้ พวกเขาต้องการสะสมเต๋อและทำความดีเพื่อเห็นแก่ลูกๆ และพ่อแม่ผู้สูงอายุของพวกเขา ผู้คุมเป็นมิตรและมีอารยธรรมในทุกที่ที่มีผู้ฝึก

เมื่อผู้คุมเหล่านี้เข้าเวรหรือมีเรื่องไม่สบายใจที่บ้าน พวกเขาจะพูดคุยกับผู้ฝึกและปรับทุกข์เกี่ยวกับความขัดแย้งในครอบครัว ความสัมพันธ์ในครอบครัว เรื่องลูก ๆ ในโรงเรียน และอื่น ๆ ผู้ฝึกจะให้คำแนะนำจากมุมมองของคำสอนของต้าฝ่า จากนั้นผู้คุมก็จะเข้าใจชัดเจนและสามารถปล่อยวางความโกรธ และปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา และตระหนักว่าการแสวงหาสิ่งที่ไม่ใช่ของของตนเองจะก่อให้เกิดกรรม สิ่งสำคัญที่สุดคือเต๋อ

พวกเขาขังฉันไว้คนเดียวเพราะกลัวว่าฉันจะชักจูงคนอื่น ดังนั้นผู้คุมจึงมักขอคุยกับฉัน ทุกครั้งที่ฉันอธิบายความจริงและขอให้พวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยความจริงใจ พวกเขาจะตกลง

เมื่อฉันทนไม่ไหว ฉันจะตะโกนว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนยอดเยี่ยม ! สวรรค์จะขจัดพรรคคอมมิวนิสต์จีน ! ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้วคุณจะได้รับพร !” จากนั้นจะมีคนมากมายวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและกดฉันลงไป มีมือนับไม่ถ้วนมาปิดปากของฉัน ครั้งหนึ่งฉันตะโกนว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” ผู้คุมชายหลายคนที่กำลังลาดตระเวนก็รีบวิ่งเข้ามาเพื่อหยุดฉัน โดยไม่คาดคิด หัวหน้าผู้คุมใช้ร่างกายของเธอป้องกันฉันเพื่อไม่ให้ใครแตะต้องฉันได้ เธอปิดหัวของฉันด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้บาดเจ็บ เมื่อทุกคนออกไปแล้ว เธอดึงฉันขึ้นมาและพวกเราก็นั่งลงบนเตียง เธอตกตะลึงและใบหน้าของเธอซีด เธอวางมือของเธอบนขาของฉันแล้วออกไป นักโทษสองคนเห็นปากของฉันเต็มไปด้วยเลือด พวกเขาร้องไห้ด้วยความกลัว “ทำไมต้องทำให้ตัวเองทุกข์ทรมานอย่างนี้” พวกเขาถาม แต่ฉันสงบ

ผู้คุมหญิงสูงอายุร่างท้วมมักมาใช้เวลากับฉัน เธอไม่กลัวว่าจะถูกหัวหน้าลงโทษเพราะอยู่กับผู้ฝึก เช้าวันหนึ่ง เธอหน้าบูดบึ้ง “ฉันเพิ่งเริ่มทำงานและเจ้าหน้าที่คนนั้นพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับคุณ ฉันห้ามเธอแล้วพูดว่า ‘มีอะไรผิดหรือที่เธอตะโกนว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ถ้ามันจะนำไปสู่การล่มสลายของพรรค ฉันปวดหัวทุกครั้งที่มาที่นี่ [ค่ายแรงงาน] และรู้สึกดีขึ้นเฉพาะเมื่อได้คุยกับพวกเขา [ผู้ฝึกต้าฝ่า]’”

โปรดหยุดการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่า

ทุกชีวิตมีค่าไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไร พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้ตำรวจเป็นแนวหน้าเพื่อประทุษร้ายผู้ฝึก โกหกพวกเขาว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นปีศาจและปลุกปั่นให้เกลียดชัง หากคุณวิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ คุณจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก

ฉันหวังว่าคุณจะมองการประทุษร้ายนี้ด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนและไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับมัน มีหลายตำแหน่งในกรมตำรวจที่ยึดมั่นในความยุติธรรม ต้าฝ่าช่วยเหลือผู้คนท่ามกลางความวุ่นวายในโลก การกลับคืนสู่ต้นกำเนิดของผ่านฝ่าเป็นความปรารถนาของทุกคน อย่าหลงทางในโลกนี้เลย