(Minghui.org) แม่สามีของฉันเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลและรับมือด้วยยาก แต่เพราะฉันเป็นผู้ฝึก เธอจึงเปรียบเสมือนเตาหลอม หากไฟไม่ร้อนพอ ก็ต้องเพิ่มความร้อนให้มากขึ้น และสิ่งที่เหลืออยู่ในท้ายที่สุดก็จะเป็นทองคำแท้ ฉันอยากเป็นลูกสะใภ้ที่ดีและกลายเป็นทองคำแท้ชิ้นนั้น
ฉันขอเล่าบางเหตุการณ์ที่ฉันก้าวข้ามความคับข้องใจและความเข้าใจผิดมาได้ ภายใต้การชี้นำจากคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่า เพื่อยืนยันพลังของต้าฝ่า
ความขัดแย้งจากการทำแป้ง
ต้นฤดูหนาวปี 2023 แม่สามีขอให้ฉันนวดแป้งและนึ่งซาลาเปา ที่บ้านอากาศหนาวมาก พอถึงเวลากลางคืนแล้วแป้งที่เตรียมไว้ตั้งแต่เที่ยงก็ยังไม่ขึ้นฟู ฉันจึงใส่ยีสต์ลงไปเล็กน้อย ต้มน้ำในหม้อ แล้ววางชามที่ใส่แป้งไว้ด้านบน พอเช้าวันรุ่งขึ้นแป้งก็ขึ้นฟูดี แม่สามีบอกว่ามันดูดีทีเดียว ฉันบอกเธอว่า "ฉันกังวลว่าแป้งจะไม่ขึ้น เมื่อคืนฉันเลยใส่ยีสต์ลงไปนิดหน่อย"
เธอไม่พอใจขึ้นมาทันทีและตะโกนว่า “เธอไม่รู้หรือว่าฉันไม่กินซาลาเปาที่ใส่ยีสต์ เธอพยายามจะฆ่าฉันหรือ !”
ทุกวันนี้ซาลาเปาที่ซื้อตามร้านทุกร้านก็ทำมาจากยีสต์ทั้งนั้น ฉันอธิบายว่า "ฉันไม่มีเจตนาเช่นนั้น ฉันแค่กังวลว่าแป้งจะไม่ขึ้นฟูและจะเสีย ฉันใส่ยีสต์ลงไปนิดหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะขึ้นฟู และฉันจะทำซาลาเปาใส่ไส้ให้แม่ใหม่" แม่สามีของฉันฟันไม่ดีและกินผักลำบาก ดังนั้นซาลาเปาใส่ไส้ผักจะช่วยให้เธอกินได้ง่าย
ก่อนที่ฉันจะพูดจบ แม่สามีก็พูดด้วยความโกรธว่า “เธอไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ! มานี่ ! ฉันจะตบเธอให้ตายเลย !” ความจริงแล้ว พวกเราลูก ๆ ทุกคนต่างก็ดูแลเธออย่างดีที่สุด
ฉันพูดว่า "ถ้าการตีฉันทำให้แม่รู้สึกดีขึ้น ก็ตีฉันได้เลย" ฉันรู้สึกน้อยใจที่ถูกกระทำอย่างไม่ถูกต้องและคิดว่า "ฉันคิดถึงแม่เสมอและพยายามปกป้องแม่ ทำไมแม่ทำกับฉันแบบนี้"
ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงสิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าว
“เพราะว่าเวลาเกิดความขัดแย้ง จะเกิดขึ้นมาทันทีทันใด แต่ว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ นั่นคือเพื่อให้ท่านได้ยกระดับจิต(ซินซิ่ง) ท่านเพียงแต่ปฏิบัติตนเป็นผู้ฝึกพลัง(กง) ท่านก็จะสามารถจัดการกับมันได้ดี” (บทที่4 จ้วนฝ่าหลุน)
ทันใดนั้น น้ำตาก็เอ่อขึ้นมาในตาฉัน ฉันถามตัวเองว่า “ท่านอาจารย์ไม่ใช่กำลังใช้คำพูดของแม่สามีเพื่อช่วยฉันยกระดับซินซิ่งหรือ” ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างมากสำหรับการจัดวางของท่านอาจารย์
ถูกกล่าวหาว่าขโมยเงิน
ประมาณสองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์แรก แม่สามีบอกสามีของฉันว่าฉันขโมยเงินของเธอ 30 หยวนในเย็นวันหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นฉันไม่อยู่บ้าน สามีของฉันจึงรีบให้เงิน 30 หยวนแก่เธอทันที และเรื่องก็สงบลง
เช้าวันรุ่งขึ้น แม่สามีเริ่มบ่นอีกครั้ง แล้วก็พูดพล่ามไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าฉันจะพยายามปลอบใจเธออย่างไร ก็ไม่ได้ผลเลย ฉันกังวลว่าความโกรธของเธอจะส่งผลต่อสุขภาพของเธอ ฉันจึงโทรหาลูกสาวคนโตของเธอและอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง ลูกสาวของเธอบอกให้ฉันนับเงินของเธอเพื่อดูว่ามีเงินหายไปจริงหรือไม่ ฉันบอกว่า "เธอไม่ยอมให้ฉันนับหรอก และฉันก็ไม่กล้าด้วย เราไม่เคยถามว่าเธอมีเงินเท่าไหร่ เวลาเธอต้องการเงิน เราก็แค่ให้เงินเธอเพื่อทำให้เธอมีความสุข"
ลูกสาวของเธอจึงแวะมาหา หลังจากนับเงินเสร็จ เธอบอกว่าเงินของแม่อยู่ครบ ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่ แม่สามีก็ดึงเงิน 30 หยวนออกมาจากใต้หมอนของเธอแล้วพูดว่า "ดูสิว่าพี่สะใภ้ของลูกเจ้าเล่ห์แค่ไหน เธอเอาเงินของแม่ไปแล้วก็เอากลับมาวางคืนไว้ตรงนี้"
ลูกสาวของเธอโกรธมาก และพูดว่า “ต่อให้เธอจะเจ้าเล่ห์แค่ไหน ก็สู้แม่ไม่ได้หรอก ! แม่กำลังหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผล !”
ลูกสาวของเธอกลัวว่าเธอจะสร้างปัญหาให้ฉันมากกว่านี้ จึงพาเธอออกไป สองวันต่อมา น้องชายของสามีพาเธอกลับมา ทันทีที่เธอเข้าบ้าน เธอบอกภรรยาของเขาว่า “แม่กล่าวหาพี่สะใภ้ของเธอผิดว่าขโมยเงินไป 30 หยวน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉันมีความสุขจริง ๆ ฉันรู้อีกครั้งว่าท่านอาจารย์ใช้คำพูดของเธอเพื่อช่วยให้ฉันปล่อยวางจิตยึดติดในผลประโยชน์ส่วนตัว !
แม่สามีของฉันชอบชวนทะเลาะกับครอบครัวของฉัน
แม่สามีของฉันไม่ชอบใจเลยเวลาที่ครอบครัวของฉันมาเยี่ยม พี่สาวของฉันมาเยี่ยมในบ่ายวันหนึ่ง หลังจากที่พี่สาวกลับไป แม่สามีของฉันกล่าวหาว่าพี่สาวของฉันขโมยเสื้อโคตตัวหนึ่งของเธอไป ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังใส่เสื้อโคตตัวนั้นอยู่ ! เธอยืนกรานว่าพี่สาวของฉันเอาไป เธอถึงกับพูดว่า "ฉันรู้นะว่าสามีของเธอเสียชีวิตแล้ว และไม่มีใครซื้อเสื้อผ้าให้เธอ ถ้าเธอชอบเสื้อโคตของฉัน ฉันจะให้เธอ ทำไมเธอต้องขโมยมันด้วย" แม่สามีต้องการให้ฉันพาเธอไปที่บ้านของพี่สาวของฉันเพื่อค้นหามัน และพูดในแง่ลบมากมายเกี่ยวกับพี่สาวของฉัน
ฉันพยายามอธิบายว่า “แม่คะ แม่ใส่เสื้อโคตตัวนั้นอยู่ มันไม่ได้ถูกขโมย” แต่การพยายามอธิบายเหตุผลกับเธอกลับทำให้เธอโกรธมากขึ้น ฉันเลยเลิกพยายาม
เมื่อคิดว่าใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว และฉันไม่อยากให้เธออารมณ์เสีย ฉันจึงโทรหาลูกสาวกับลูกชายคนที่สองของเธอให้แวะมา แม่สามีพูดต่อเนื่องไม่หยุด ขณะที่ฉันไม่พูดอะไรเลย แล้วเธอก็พูดว่า "เธอถือหนังสือเล่มนั้นอ่านอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นการบำเพ็ญแบบไหนกัน ถึงเธอจะบำเพ็ญดีแค่ไหน แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสักวันหนึ่ง"
ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ฉันก็ไม่หวั่นไหว ฉันควบคุมชะตากรรมของคนอื่นไม่ได้ เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ฉันได้แต่ยิ้ม ตอนนั้นลูกชายของเธอบอกฉันว่า "คืนนี้พี่ยกระดับได้หลายระดับชั้นเลย !" จากนั้นลูกสาวของเธอก็เกลี้ยกล่อมให้เธอยอมกลับไป ฉันคิดว่า "นี่ไม่ใช่ท่านอาจารย์ใช้คำพูดของเธอช่วยฉันขจัดจิตยึดติดต่ออารมณ์ความรู้สึกอีกครั้งหรือ"
แม่สามีของฉันเป็นคนชอบเรียกร้องและเอาใจยาก แม้แต่ลูก ๆ ของเธอเองก็แทบจะทนพฤติกรรมของเธอไม่ได้ ฉันมักจะใช้สิ่งที่ฉันเข้าใจจากต้าฝ่ามาปลอบใจและให้กำลังใจพวกเขา โดยพูดว่า "ถ้าไม่มีกรรมสัมพันธ์ต่อกัน เราจะไม่ได้อยู่ในครอบครัวเดียวกัน เราต้องติดหนี้เธอมาตั้งแต่อดีตชาติ ชดใช้กันเถอะ เธอก็แก่มากแล้ว อย่าทำให้เธอไม่สบายใจเลย" ปีนี้แม่สามีของฉันอายุ 89 ปีแล้ว
ลิขสิทธิ์ © 2023 Minghui.org สงวนลิขสิทธิ์
หมวดหมู่: การยกระดับจิตใจ