(Minghui.org) การเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญของฉันเริ่มต้นขึ้นตอนสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2012 ฉันกับสามีนำต้นข้าวโพดกลับบ้านและกองมันไว้ในคอกแกะเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ในช่วงฤดูหนาว ฉันขึ้นไปบนหลังคาโรงนา คอยรับมัดต้นข้าวโพดที่สามีส่งขึ้นมาจากด้านล่าง หลังจากรับมัดต้นข้าวโพดได้ไม่กี่มัด จู่ ๆ เท้าของฉันก็ลื่นและฉันตกลงไปในคอกแกะด้านล่าง

หัวของฉันกระแทกกับรางคอนกรีตสำหรับใส่อาหารเลี้ยงแกะและหมดสติ สามีพาฉันไปโรงพยาบาล ฉันถูกเย็บแผลหลายเข็ม หลังจากพักฟื้นอยู่ระยะหนึ่ง แผลที่ศีรษะของฉันก็หายดี แต่การมองเห็นของฉันเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ฉันไปพบหมอหลายคนที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่ก็ไม่ดีขึ้น สายตาของฉันยังคงแย่ลงเรื่อย ๆ และฉันก็ไม่สามารถทำงานบ้านได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของฉันอย่างมาก

ฉันกับสามีเครียดมาก เพราะหมอย้ำเตือนฉันซ้ำ ๆ ว่าไม่ให้ทำงานที่ต้องใช้แรงกายอีก แต่เราจะทำอย่างไร เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร ลูก ๆ ของเราไม่ได้อยู่ที่บ้านกันแล้ว และสามีของฉันเป็นคนเดียวที่ต้องดูแลทุกอย่างที่บ้าน

ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านหรืองานในไร่ ฉันจะอยู่ด้วยเสมอเพื่อช่วยเหลือทุกอย่างที่จำเป็น สามีของฉันแทบไม่เคยทำงานที่ไร่เองเลย พูดได้เต็มปากว่าฉันคือเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว แต่ตอนนี้สามีของฉันต้องทำทั้งงานในบ้านและนอกบ้านทั้งหมด พอเห็นอาการของฉันแย่ลงทุกวัน เราก็รู้สึกสิ้นหวังและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

ระหว่างนั้น ลูกชายและลูกสาวของฉันกลับมาบ้านเป็นครั้งคราวเพื่อมาดูอาการของฉัน พวกเขากังวลมากและแนะนำให้ฉันไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ปักกิ่ง พอดีฉันมีหลานสาวคนหนึ่งที่ทำงานในปักกิ่งมาหลายปี เราจึงรีบติดต่อเธออย่างรวดเร็ว และเธอยืนยันหนักแน่นให้ฉันไปรับการรักษาที่ปักกิ่ง หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลูกสาวของฉันก็ลางานเพื่อพาฉันเดินทางไปปักกิ่ง

หลังจากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลแล้ว ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าการสูญเสียการมองเห็นเกิดจากเลือดออกในสมองไปกดทับเส้นประสาทตา หลังจากรักษาไประยะหนึ่ง การมองเห็นของฉันดีก็ขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ฉันได้รับแจ้งว่าฉันต้องเข้ารับการผ่าตัดเปิดกระโหลกศีรษะ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นหยวน ฉันตกใจมาก เพราะจากสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวของเรา เรามีเงินไม่พอจ่าย

ฉันอายุ 60 ปีเศษแล้ว ถ้าผ่าตัดแล้วฉันเสียชีวิตล่ะ ฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ผ่าตัด ฉันรู้สึกวิตกกังวลตลอดเวลาและแค่อยากกลับบ้านเท่านั้น แต่ลูกสาวผู้กตัญญูของฉันยืนกรานให้ฉันผ่าตัด เธอจึงโทรศัพท์หาพี่ชายกับพ่อเพื่อปรึกษา ในที่สุดเราก็ตัดสินใจว่า ฉันกับลูกสาวจะกลับบ้านก่อน เก็บเงินและของใช้จำเป็นอื่น ๆ แล้วค่อยกลับไปผ่าตัดที่ปักกิ่งในภายหลัง

หลังจากกลับถึงบ้าน ฉันยิ่งลังเลที่จะกลับไปปักกิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ครอบครัวของฉันไม่มีเงิน และลูก ๆ ก็มีฐานะทางการเงินไม่ดีนัก ยิ่งไปกว่านั้น หากฉันไปรักษาตัวที่ปักกิ่ง ลูกสาวของฉันก็ต้องหยุดงานเพื่อมาอยู่ดูแลฉัน จิตใจฉันล่องลอยทั้งวันทั้งคืน กังวลมากจนนอนไม่หลับ ฉันรู้สึกหวั่นไหวและสับสนมาก

วันหนึ่งจู่ ๆ ฉันก็นึกได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อจิงในหมู่บ้านของเรา เธอฝึกฝ่าหลุนกง (หรือที่รู้จักกันในชื่อฝ่าหลุนต้าฝ่า) เมื่อไม่กี่ปีก่อน เธอได้อธิบายความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงให้ฉันฟัง และบอกว่าการท่องอย่างจริงใจว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” จะช่วยปกป้องฉันจากภัยพิบัติ โรคภัยไข้เจ็บ และนำพาโชคดีมาให้

ตอนนั้นฉันรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากชีวิตของฉันมาก ฉันจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีหน้าต่างบานหนึ่งเปิดอยู่ในใจของฉัน และฉันรู้สึกถึงแสงแห่งความหวังอยู่รำไร ฉันคิดในใจว่า “ฉันควรไปถามผู้ฝึกคนนี้เพื่อขอคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า บางทีนี่อาจเป็นหนทางสู่อนาคตของฉัน”

วันนั้นฉันรวบรวมความกล้าและไปพบจิง ฉันเล่าความทุกข์ของฉันให้เธอฟังสั้น ๆ เธอพูดอย่างสงบว่า "ไม่ต้องกังวล จากนี้ไปให้ท่องอย่างจริงใจว่า 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี' นี่คือฝ่าที่ยิ่งใหญ่ที่ช่วยชีวิตผู้คนได้ ตราบใดที่คุณจริงใจ อาจารย์หลี่จะดูแลคุณ" ฉันตอบตกลงทันทีและพูดว่า "โอเค ! ฉันจะจำไว้"

มันน่าอัศจรรย์จริง ๆ คืนนั้นฉันนอนหลับสนิทเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และใช้เวลาเกือบทั้งหมดของวันถัดมาท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี”

หลังจากนั้นไม่นาน สายตาของฉันก็ดีขึ้น และฉันก็มองเห็นได้อีกครั้ง ฉันดีใจจนแทบจะเก็บไว้ไม่อยู่ และรีบวิ่งไปบอกจิง เธอดีใจกับฉันและวางมือจากงานของเธอเพื่อเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังเพิ่มเติม “ฝ่าหลุนกง หรือที่รู้จักกันในชื่อฝ่าหลุนต้าฝ่า คือการฝึกบำเพ็ญตนเองขั้นสูง ซึ่งสอนให้ผู้ฝึกมีวินัยอย่างเคร่งครัดตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนของจักรวาล เพื่อเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมและบรรลุการรู้แจ้งในที่สุด”

ฉันตั้งใจฟังและค่อย ๆ เข้าใจเกี่ยวกับการบำเพ็ญที่วิเศษนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งฉันฟังมากขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งชอบฟังเรื่องเกี่ยวกับต้าฝ่ามากขึ้นเท่านั้น ฉันรู้สึกชื่นชมท่านอาจารย์หลี่ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและอาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่า รวมถึงผู้ฝึกทุกคน ความปรารถนาที่จะฝึกจึงผุดขึ้นในใจของฉัน

จิงอธิบายความจริงเกี่ยวกับ เหตุการณ์เผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่จัดฉากโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และอธิบายว่าทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จึงประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ในช่วงเย็นของสองสามวันถัดมา เราได้ชมดีวีดีต่าง ๆ ของฝ่าหลุนกง เช่น “We Tell the Future” และ “Wind and Rain Journey”

ต่อมาฉันได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดและบอกเธอว่า “ฉันอยากฝึกฝ่าหลุนกงด้วย” เธอบอกว่า “เยี่ยมมาก ฉันจะสอนคุณเอง การที่คุณฟังความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่าอย่างตั้งใจแสดงให้เห็นว่าคุณมีบุญวาสนาที่กำหนดไว้กับต้าฝ่า บางทีท่านอาจารย์อาจดูแลคุณอยู่ก็ได้” ฉันพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณพูดถูก ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าฉันมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันกลับมาจากปักกิ่ง ฉันรู้สึกว่าท่านอาจารย์กำลังดูแลฉันอยู่”

หลังจากนั้นสายตาของฉันดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน และก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ฉันก็สามารถทำงานบ้านได้หมดทุกอย่าง ฉันดูการบรรยายของท่านอาจารย์กับจิง และเธอสอนท่าฝึก 5 ชุดของต้าฝ่าให้ฉัน ท่านอาจารย์อธิบายจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ ความเจ็บป่วยและความทุกข์ทรมานเป็นการชดใช้กรรมจากการทำความชั่ว และความหมายที่แท้จริงของการบำเพ็ญคือการกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมแท้จริงของตน เมื่อฉันเข้าใจความหมายของชีวิต ฉันก็รู้สึกถึงความสงบและความสุขที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต และฉันรู้สึกปีติยินดีในใจที่ฉันก็มีท่านอาจารย์ด้วยเช่นกัน !

ดังนั้นฉันจึงได้เข้ามาเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงด้วย ฉันอ่านหนังสือไม่ออก จึงไม่สามารถศึกษาคำสอนโดยการอ่านหนังสือต้าฝ่าได้ ฉันจึงฟังบันทึกเสียงการบรรยายของท่านอาจารย์ในช่วงเวลาว่างแทน ฉันปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์ และพยายามยึดถือมาตรฐานของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนในทุกสิ่งที่ทำ เมื่อฉันทำสิ่งต่าง ๆ ได้ถูกต้อง ฉันก็รู้สึกได้ถึงความสงบและความสุขเป็นพิเศษ ทำให้ฉันรู้สึกว่าการบำเพ็ญช่างวิเศษเหลือเกิน !

ฉันดีใจมากที่ได้มีโอกาสฝึกฝ่าหลุนกง ท่านอาจารย์ได้ปรับและชำระล้างร่างกายของฉันให้บริสุทธิ์ ตอนนี้ฉันไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ฉันรู้สึกเบาสบายและมีพลัง สายตาของฉันกลับมาเป็นปกติแล้ว และฉันสามารถทำงานบ้านได้เกือบทั้งหมดด้วยตัวเอง

ฝ่าหลุนกงไม่เพียงรักษาดวงตาของฉันให้หายดีเท่านั้น ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ฝ่าหลุนกงยกระดับชั้นของชีวิตของฉันไปสู่เขตแดนที่สูงขึ้น ฉันหวังว่าทุกคนที่มีบุญวาสนาที่กำหนดไว้กับต้าฝ่าจะเข้าใจความจริงและได้รับการช่วยเหลือ

ฉันขอขอบพระคุณท่านอาจารย์หลี่อย่างสูงสำหรับกรุณาธิคุณที่ท่านช่วยฉัน !