ลอนดอน สหราชอาณาจักร : ผู้ฝึกเรียนรู้จากกันและกันระหว่างการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์

(Minghui.org) ผู้ฝึกรวมตัวกันที่ลอนดอนเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2025 เพื่อเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าที่สหราชอาณาจักร ผู้ฝึก 19 คน ขึ้นเวทีพูดเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนเพื่อเป็นพลเมืองที่ดีขึ้น

การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าที่สหราชอาณาจักรจัดขึ้นที่ลอนดอนเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2025

ผู้ฝึกพูดคุยเกี่ยวกับเส้นทางการบำเพ็ญของพวกเขาในระหว่างการประชุม

ขยันหมั่นเพียรไม่ลดละ

Jack เป็นคนขับรถบัส เขาประสานงานให้บูทฝ่าหลุนต้าฝ่าในไชนาทาวน์ของลอนดอน แม้เขาจะมีตารางงานที่ยุ่งมาก แต่เขาก็สามารถอ่านคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าและช่วยในการอธิบายความจริงที่บูททุกวัน

เมื่อเลือกงานนี้ Jack บอกว่าเขาต้องการตารางเวลาที่ยืดหยุ่นเพื่อให้เขาสามารถสร้างสมดุลระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ เขาเป็นพนักงานประจําที่ทำงานเต็มเวลา เขาต้องหาเวลาศึกษาฝ่า (คําสอน) และฝึกท่า แม้ว่าเขาจะมีเวลานอนเพียงวันละ 3 หรือ 4 ชั่วโมง แต่เขาก็ยังมีพลังงานเต็มเปี่ยมและช่วยที่บูทไชนาทาวน์หลังเลิกงาน

Jack บอกว่าที่สําคัญคือต้องจําไว้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในที่ทํางาน เขาคำนึงถึงผู้โดยสารและค้นหาจากภายในอยู่เสมอ เขาเลิกขับรถเร็วเพื่อพยายามประหยัดเวลาด้วย เมื่อเขาช่วยเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งในช่วงพัก Jack ได้เรียนรู้ว่าการบำเพ็ญตัวเองเป็นขั้นตอนของการอดทนต่อความยากลําบากและยกระดับซินซิ่งของตนเอง ในที่สุดเขาก็ผ่านการประเมินของบริษัท

หลังจากที่เขาได้รับมอบหมายให้ขับเส้นทางอื่นที่ซับซ้อนขึ้นและต้องขับรถเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก Jack แทบไม่มีเวลาอ่านฝ่าเลย เขาเริ่มท่องคําสอนเมื่อการจราจรไม่ติดขัดหรือขณะรอเวลารถติด เขาเรียนรู้ว่าการทําเช่นนี้ช่วยให้เขาหลอมรวมกับต้าฝ่าได้อย่างเต็มที่ ร่างกายของเขารู้สึกสดชื่นและความเหนื่อยล้าของเขาก็หายไป เขายังมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านอาจารย์ (ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า) พูดเกี่ยวกับจิตใจและสสารเป็นสิ่งเดียวกัน

"เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเปลี่ยนจากนักเรียนเป็นพนักงานกะกลางคืน จากพนักงานพาร์ตไทม์เป็นพนักงานเต็มเวลา ทุกขั้นตอนเป็นการทดสอบว่าผมสามารถทําสามสิ่งได้ดีหรือไม่ ใส่ใจกับการศึกษาคําสอนของต้าฝ่า และค้นหาจากภายใน" Jack เล่า เขาบอกว่า ถ้าผู้ฝึกไม่มุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้คน เขาหรือเธออาจยึดติดกับชื่อเสียงและผลประโยชน์ทางวัตถุ ทำให้สูญเสียโอกาสที่มีค่า

การช่วยงานสายด่วนเสินยวิ่น

ผู้ฝึกชาวตะวันตก Colleen พูดถึงประสบการณ์ของเธอขณะช่วยงานสายด่วนเสินยวิ่นในช่วงฤดูกาลทัวร์ปี 2024 ตอนแรกเธอรู้สึกว่าเธอทําไม่ได้ ต่อมาเธอตระหนักว่าการเข้าร่วมในโครงการนี้คือการช่วยอาจารย์ช่วยเหลือผู้คน เธอจึงเข้าร่วม หลังจากเรียนรู้จากผู้ฝึกอื่น เธอก็คุ้นเคยกับกระบวนการนี้อย่างรวดเร็ว

การช่วยเหลืองานสายด่วนโดยผิวเผินคือการให้บริการ ที่จริงก็เป็นโอกาสในการบำเพ็ญด้วย สายที่โทรเข้ามาส่วนใหญ่เป็นมิตร แต่ก็มีสายที่โทรเข้ามาร้องเรียนบ้าง Colleen เข้าใจว่าผู้ฝึกควรสงบและไม่ถูกรบกวน ขณะช่วยเหลือคนพิการคนหนึ่ง เธอตระหนักเพิ่มเติมว่า มีเพียงการทําตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนเท่านั้นที่เธอจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

Colleen สังเกตว่าเธอมีจิตยินดีและจิตโอ้อวด จากการค้นหาจากภายในและศึกษาคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอตระหนักว่าเราต้องปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนตลอดเวลา มิฉะนั้น แม้ว่าเจตนาของบุคคลหนึ่งจะดี แต่ผลลัพธ์ก็อาจตรงกันข้ามถ้าขาดเหตุผล

เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำการแทรกแซงอย่างต่อเนื่อง ทีมสายด่วนจึงต้องขยันหมั่นเพียร และสมาชิกในทีมต้องคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน Colleen เรียนรู้ว่าเธอต้องรักษาความคิดถูกต้องที่เข้มแข็งและมีวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัดเพื่อทําสิ่งต่าง ๆ ให้ดี

Colleen รู้สึกขอบคุณสําหรับสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญแบบกลุ่ม การศึกษาฝ่ากับกลุ่มทุกสัปดาห์ช่วยให้เธอมองเห็นปัญหาของเธอ ยกระดับซินซิ่ง และช่วยให้เธอปล่อยวางจิตยึดติด บางครั้งเธอพบว่าการบำเพ็ญเป็นเรื่องยากเพราะหมายถึงการกําจัดและพัฒนาด้านที่มีปัญหา และกําจัดความคิดของมนุษย์ แต่นี่คือกระบวนการที่ทำให้เธอแข็งแกร่งและสงบขึ้น

ประสบการณ์ที่ค่ายฤดูร้อน

Ms. Zhu เล่าประสบการณ์ของเธอในการช่วยค่ายฤดูร้อนของโรงเรียน Deyin ในปี 2025 เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ ค่ายนี้ไม่ได้มีแค่เด็ก ๆ ที่เป็นบุตรหลานของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเท่านั้น แต่ยังรวมเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ฝึกด้วย ในปีนี้ผู้ปกครองที่ไม่ใช่ผู้ฝึกก็เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครด้วย ซึ่งนํามาซึ่งความท้าทายใหม่ ๆ และเป็นโอกาสในการบำเพ็ญอันมีค่า

การรับสมัครนักเรียนทุกวันเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของผู้ฝึก ที่สําคัญกว่านั้นคือช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นรู้จักต้าฝ่า จากการสัมผัสด้วยตัวเองกับสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์และสงบสุขที่เกิดจากผู้ฝึก ทำให้พวกเขาเข้าใจต้าฝ่าดียิ่งขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้ผู้ฝึกยกระดับตนเองในการบำเพ็ญด้วย

แม้ว่าอาสาสมัครที่ไม่ใช่ผู้ฝึกหลายคนจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่ามาก่อน แต่พวกเขาก็อ่านคําสอนของต้าฝ่าและฝึกท่าทุกวัน คุณแม่คนหนึ่งพบว่าปัญหาผิดปกติที่ต่อมไร้ท่อและอาการนอนไม่หลับของเธอดีขึ้นอย่างมีนัยสําคัญหลังจากฝึกเพียง 3 วัน นี่แสดงให้เห็นถึงพลังพิเศษของฝ่าหลุนต้าฝ่า จากการติดต่อสื่อสารกับผู้ฝึก พวกเขาค่อย ๆ เข้าใจความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่า ในช่วงท้ายของค่ายฤดูร้อน อาสาสมัครสองคนและนักเรียนคนหนึ่งได้นําหนังสือจ้วนฝ่าหลุนกลับบ้าน

ค่ายฤดูร้อนประสบความสําเร็จ ในพิธีปิด เด็ก ๆ แสดงการเต้นรํา ท่องบทกวีโบราณ และแสดงการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีน ผู้ปกครองหลายคนรู้สึกประทับใจจนน้ําตาไหลและบอกว่าพวกเขาจะกลับมาอีกในปีหน้า Ms. Zhu บอกว่าค่ายประสบความสําเร็จเนื่องจากความทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่ตัวของอาสาสมัคร รวมถึงผู้ช่วยในครัวที่ทํางานหนัก ตลอดจนอาสาสมัครหนุ่มสาวที่กระตือรือร้นและให้ความร่วมมืออย่างดี "ทุกคนในค่ายฤดูร้อนกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขาดไม่ได้ของทั้งระบบ นี่คือเหตุผลที่เราประสบความสําเร็จ" Ms. Zhu พูด "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีคนจิตใจดีมากมายมาสนับสนุนโครงการของโรงเรียน"

ประสบการณ์นี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าค่ายฤดูร้อนไม่ใช่แค่สถานที่เรียนรู้สําหรับเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่พิเศษสําหรับการบำเพ็ญด้วย ค่ายนี้ช่วยให้ทุกคนยกระดับซินซิ่งและแนะนําต้าฝ่าให้ผู้คนมากขึ้น

การเป็นสักขีพยานในพลังของต้าฝ่า

Mr. Tan จากลิเวอร์พูลพูดถึงประสบการณ์การบำเพ็ญของเขาขณะเป็นเจ้าภาพฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ เขาบอกว่าทุกย่างก้าวตั้งแต่เริ่มการวางแผนไปจนถึงการสำเร็จของงานอย่างสมบูรณ์เป็นประจักษ์พยานอย่างลึกซึ้งถึงการจัดวางที่เปี่ยมด้วยเมตตาของท่านอาจารย์และพลังของต้าฝ่า

Mr. Tan รู้สึกประทับใจภาพยนตร์เรื่องนี้มาก จึงมีความคิดที่จะนําภาพยนตร์เรื่องนี้มาฉายที่ลิเวอร์พูลเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในท้องที่ทราบความจริง อย่างไรก็ตาม กระบวนการเตรียมงานเต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากกำหนดเวลาที่กระชั้นมาก รวมถึงกําลังคนและทรัพยากรที่มีจํากัด

ยอดขายบัตรในช่วงแรกต่ํามาก ทําให้ Mr. Tan เครียดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาคําสอน เขาตระหนักว่าเขาควรปล่อยวางจิตยึดติดกับผลลัพธ์ และมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้คน เมื่อความคิดของเขาบริสุทธิ์และเขาเชื่อมโยงกับเพื่อนผู้ฝึกได้ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น พ่อค้าใจดีคนหนึ่งช่วยขายบัตรเกือบ 30 ใบ บัตรทั้งหมดขายหมดก่อนรอบปฐมทัศน์ 2 สัปดาห์ Mr. Tan บอกว่าเขาได้ประจักษ์ถึงการจัดวางด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์และพลังของต้าฝ่า

ในวันที่จัดฉายรอบปฐมทัศน์ จู่ ๆ เจ้าหน้าที่โรงภาพยนตร์ก็ปฏิเสธที่จะติดตั้งบอร์ดโฆษณาภาพยนตร์ ผู้ฝึกไม่ได้ต่อว่าหรือโต้แย้ง พวกเขาฟาเจิ้งเนี่ยนและอธิบายความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่าด้วยความเมตตา ในที่สุดความจริงใจของผู้ฝึกก็ทําให้พนักงานประทับใจและช่วยเหลือ

รอบปฐมทัศน์ได้รับการตอบรับอย่างกระตือรือร้น เมื่อนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้คลี่คลายความเกลียดชังด้วยความเมตตา ผู้ชมก็ปรบมือดังกึกก้อง ผู้ชมบอกว่าพวกเขารู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งกับค่านิยมสากลของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ผู้ชมคนหนึ่งพูดว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยให้ฉันค้นพบความหมายของชีวิต" คนอื่น ๆ แสดงความขอบคุณด้วยน้ําตาคลอ นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล สมาชิกรัฐสภา และบุคคลสําคัญอื่น ๆ เข้าร่วมงานเพื่อแสดงการสนับสนุนด้วย นายกเทศมนตรีซื้อหนังสือจ้วนฝ่าหลุนสองเล่ม

Mr. Tan พูดว่า "ประสบการณ์นี้ไม่ใช่แค่การฉายภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็นเหมือนบทสรุปของการบำเพ็ญของผม ทุกความท้าทายเป็นการปัดเป่าจิตยึดติดของผม น้ําตาของผู้ชมทุกคนเป็นการยืนยันเส้นทางการบำเพ็ญของผม ทุกความร่วมมือของเพื่อนผู้ฝึกช่วยยกระดับซินซิ่งของผม"

เวิร์กช็อป 9 วันเพื่อแนะนําต้าฝ่า

Jane อธิบายว่าเธอค้นพบและบำเพ็ญความขุ่นเคืองที่ฝังรากลึก ซึ่งทําให้เกิดความคิดด้านลบและความไม่สมดุลในชีวิตของเธอมานาน เธอรู้สึกหมดหนทางจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ และคําว่า "อดทน" ก็ผุดขึ้นในใจของเธอ จากนั้นท่านอาจารย์ก็ให้คําแนะนําหลายชุดเพื่อช่วยให้เธอกำจัดิตยึดติดและแก้ไขวิธีคิดของเธอ

จุดเปลี่ยนที่สําคัญเกิดขึ้นหลังจากที่เธอย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เมื่อต้องจากสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและคุ้นเคย เธอรู้สึกหลงทางในอะพาร์ตเมนต์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของเพื่อนคนหนึ่งที่ว่า "มันเหมือนกับการพักในโรงแรม" ทําให้เธอนึกถึงคําสอนของท่านอาจารย์ และเธอตระหนักว่า ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง และความรัก ล้วนไม่จีรัง และเธอไม่ควรยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เธอยังตระหนักว่าการมาและไปของผู้คนในสภาพแวดล้อมใหม่ของเธอเป็นโอกาสที่มีค่าในการบอกพวกเขาเกี่ยวกับต้าฝ่า

ไม่นานนัก ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น ขณะที่เธอกําลังจะติดต่อสมาชิกสภาท้องถิ่นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า สมาชิกสภาคนนี้ก็มาแวะที่บ้านของเธอโดยไม่คาดคิด และแนะนําให้เธอจัดกิจกรรมชุมชน จากการชี้แนะของท่านอาจารย์ในความฝันของเธอ ไม่นานเธอก็พบสถานที่ฟรีใกล้บ้าน และจัดเวิร์กช็อป 9 วันเพื่อแนะนําต้าฝ่า

ในระหว่างเวิร์กช็อป 9 วัน เธอเอาชนะความยึดติดต่อความกลัวเสียหน้าและความขัดแย้ง และเรียนรู้ที่จะนึกถึงผู้อื่นอย่างแท้จริง เมื่อผู้ฝึกใหม่คนหนึ่งแสดงความปรารถนาที่จะช่วยเหลือในวันที่ 2 เธอรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้ง และได้ทบทวนว่าตัวเธอเองยังไม่เห็นค่าของต้าฝ่า

ประสบการณ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ที่มีวาสนาได้รู้จักต้าฝ่า แต่ยังเปิดโอกาสให้ค้นหาจากในด้วย Jane ค้นพบจิตยึดติดพื้นฐานของเธอในการใช้ต้าฝ่าเพื่อการปลอบโยนและความปลอดภัย เธอตระหนักด้วยว่าความยากลําบากในชีวิตเป็นขั้นตอนสู่การยกระดับตนเอง เธอมุ่งมั่นที่จะทะนุถนอมโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ให้มากยิ่งขึ้น และช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่าด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

ยกระดับด้วยกัน

หลังการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมบอกว่าพวกเขารู้สึกประทับใจและได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาก Becky James บอกว่าประสบการณ์ของผู้ฝึกคนหนึ่งโดนใจเธอเพราะเธอมีความยากลําบากที่คล้ายกัน "วิธีที่ฉันก้าวผ่านไปได้คือการศึกษาคําสอนอย่างต่อเนื่อง"

Jane เล่าประสบการณ์ของเธอในระหว่างการประชุม และบอกว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาของการบำเพ็ญ "น้ําตาของการพร่ำบ่นของเธอแปรเปลี่ยนเป็นน้ําตาของความขอบคุณ" นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สําคัญของเธอ เธอยังรู้สึกประทับใจประสบการณ์ของผู้ฝึกอื่นอย่างมาก "เมื่อผู้ฝึกที่ฉายภาพยนตร์ในลิเวอร์พูลพูดถึงคําขอซื้อจ้วนฝ่าหลุนของนายกเทศมนตรี ฉันรู้สึกประทับใจจนน้ําตาไหล" เธออธิบาย ประสบการณ์ของผู้ฝึกที่ขับรถบัสที่ใช้ทุกเวลาในการศึกษาต้าฝ่าอย่างขยันหมั่นเพียรและฝึกท่าเตือนให้เธอทําให้ดีขึ้นและศึกษาคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์