ชาวจีนเรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าที่หน้าพิพิธภัณฑ์บริติชในลอนดอน

(Minghui.org) พิพิธภัณฑ์บริติชเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า (ฝ่าหลุนกง) ไปที่นั่นตลอดทั้งปีและบอกผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกได้พูดคุยกับชาวจีนและตอบคําถามของพวกเขาที่หน้าพิพิธภัณฑ์ และช่วยให้พวกเขามองเห็นคําโกหกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นักเรียนจีนมองโพสเตอร์หน้าพิพิธภัณฑ์บริติช

นักท่องเที่ยวจีนอ่านและถ่ายรูปโพสเตอร์

สิ่งที่คุณพูดเปลี่ยนมุมมองของผมโดยสิ้นเชิง

เมื่อชายหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการเก็บอวัยวะจากผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ไม่สมัครใจโดยได้รับการอนุมัติจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาก็ลงนามในคำร้องเพื่อยุติการเก็บอวัยวะทันที ผู้ฝึกคนหนึ่งชมเชยการกระทําที่ถูกต้องของเขาโดยบอกว่ามันน่าทึ่งมาก ชายหนุ่มคนนี้อธิบายว่า เขารู้จักผู้ฝึกฝ่าหลุนกงหลายคนในประเทศจีนที่ถูกประทุษร้ายและถูกจับกุมเพราะพวกเขาไม่ยอมละทิ้งความเชื่อของตน เขารู้ว่าผู้ฝึกทั้งหมดเป็นคนดี และพวกเขาถูกประทุษร้ายเพราะพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่สนับสนุนสิทธิมนุษยชน

ผู้ฝึกอธิบายเพิ่มเติมเรื่องความสําคัญของการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือเพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง เพราะระบอบคอมมิวนิสต์หลอกลวงประชาชนให้สาบานว่าจะอุทิศชีวิตของตนให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเท่ากับทำลายสายสัมพันธ์ของตัวเองกับเทพ ชายหนุ่มคนนี้พูดว่าเขาเป็นคริสเตียน "ตอนนี้ผมเชื่อในพระเจ้า ผมไม่สามารถเป็นสมาชิกขององค์กรอเทวนิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้อีกต่อไป" เขาจึงลาออกจากสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์และนักบุกเบิกรุ่นเยาว์โดยใช้นามแฝง เขาพูดว่า "การได้ฟังสิ่งที่คุณพูดในวันนี้ได้พลิกความเข้าใจของผมโดยสิ้นเชิง"

ฝ่าหลุนกงดีเหลือเกิน

คนหนุ่มสาวชาวจีน 3 คน ที่กําลังศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักรเดินผ่านแผงแจกเอกสารข้อมูล พวกเขารับหนังสือพิมพ์แล้วเดินออกไป พวกเขากลับมาในอีก 20 นาทีต่อมา หนึ่งในนั้นบอกผู้ฝึกว่าเขาเรียนที่ปักกิ่งมา 7 ปี และมีคําถามบางอย่าง

เขาถามว่า "รัฐบาลบอกว่าฝ่าหลุนกงเป็นลัทธิ แล้วจะมีผู้ฝึก 100 ล้านคนทั่วประเทศได้อย่างไร"

ผู้ฝึกอธิบายว่าไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายของสภาประชาชนแห่งชาติที่กําหนดว่าฝ่าหลุนกงเป็นลัทธิ การประทุษร้ายเริ่มขึ้นเพราะเจียง เจ๋อหมิน อดีตหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้วยความอิจฉาริษยา จึงกล่าวหาฝ่าหลุนกงว่าเป็นลัทธิ ซึ่งไม่ใช่กฎหมาย สื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เช่น People's Daily ทำตามคำกล่าวนี้และเผยแพร่การใส่ร้าย พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วย

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงยังบอกด้วยว่า เธอและแม่สามีของเธอมีสุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้น และพวกเธอสามารถขจัดความขุ่นเคืองในใจหลังจากฝึกฝ่าหลุนกงได้ หญิงสาวคนหนึ่งพูดว่า "ขอบคุณมากที่เล่าเรื่องเหล่านี้ให้พวกเราฟัง ! เราไม่รู้เลยว่าฝ่าหลุนกงดีขนาดนี้" พวกเขาทุกคนตกลงที่จะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนชั่วร้าย

ศัลยแพทย์จากประเทศจีนเข้ามาที่แผงเอกสารข้อมูลและพูดว่า "ผมสนับสนุนพวกคุณ พรรคคอมมิวนิสต์จีนชั่วร้าย ผมเข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในปี 1989" เขาพูดเสริมว่าเขาไม่สามารถหาข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในจีนได้อีกแล้ว

เมื่อเห็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงยืนหยัดในการเผยแพร่ความจริงต่อสาธารณชน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เขารู้สึกซาบซึ้งใจมาก "ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ในบรรดากลุ่มที่แสวงหาประชาธิปไตยและเสรีภาพ ฝ่าหลุนกงทําได้ดีที่สุดเพราะพวกคุณเชื่อในความจริง-ความเมตตา-ความอดทน การมีความเชื่อหมายถึงการมีหลักการ ในประเทศจีนไม่มีความเชื่อ ดังนั้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงต้องการกําจัดผู้ที่มีความเชื่อ"

แพทย์คนนี้ยกนิ้วโป้งให้ผู้ฝึกและพูดว่า "พวกคุณคือความภาคภูมิใจของชาวจีน !"

พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ประเทศ ประชาชน และพรรคปะปนกัน

ชายชาวฮ่องกงวัย 60 ปีเศษ เดินเข้ามาที่แผงแจกเอกสาข้อมูล และบอกว่าเขาอ่านหนังสือพิมพ์ของฝ่าหลุนกงในฮ่องกงบ่อย ๆ แต่ไม่สามารถหาได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ เขาพูดว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนสัญญาว่า "หนึ่งประเทศ สองระบบ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเวลา 50 ปี" แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่รักษาคําพูด และสถานการณ์ในฮ่องกงก็เลวร้าย “ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงแจกแผ่นพับที่นั่น และผมเห็นคนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าจ้างมาสร้างปัญหา พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ประเทศ ประชาชน และพรรคปะปนกันไปหมด และทําให้ประชาชนกลายเป็นทาส"

เมื่อเห็นผู้ฝึกในต่างประเทศกล้าเผชิญกับสภาพอากาศและอุทิศตนในการเผยแพร่ความจริง เขาพูดว่า "มันไม่ง่ายสําหรับพวกคุณ พวกคุณทํางานกันหนักมาก ขอให้ดูแลตัวเองด้วย"

คนจีนต้องการทราบความจริง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์บริติชในลอนดอนมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจํานวนมากได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประทุษร้าย บางคนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือทันที ในขณะที่บางคนนําเอกสารข้อมูลกลับบ้านเพื่ออ่าน บางคนเสียใจที่พวกเขาไม่เคยเห็นข้อมูลนี้ในประเทศจีนเลย และเพิ่งได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรกขณะเดินทางไปต่างประเทศ

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงคนหนึ่งบอกพวกเขาว่า "ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเผยแพร่ความจริงไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อช่วยให้ผู้คนจํานวนมากขึ้นแยกแยะความดีและความชั่วได้ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี่คือหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกคนมีโอกาสเลือก"

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน และเผยแพร่ความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายที่หน้าพิพิธภัณฑ์ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน พวกเขายังได้เรียนรู้ว่าคนจีน รวมถึงผู้สูงอายุ นักเรียน และแพทย์ ต้องการทราบความจริงและต้องการเสรีภาพในการเชื่อ