(Minghui.org) ฉันเป็นผู้ฝึกใหม่ที่เพิ่งเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาประมาณปีกว่า ๆ ฉันรู้จักฝ่าหลุนต้าฝ่ามาตั้งแต่ปี 1998 แต่ด้วยความต้องการทางโลกมนุษย์ ฉันจึงพลาดโอกาสอันล้ำค่าที่จะเริ่มต้นฝึก จนกระทั่งผ่านไป 20 กว่าปีต่อมา ฉันแทบจะสิ้นหวังในชีวิต ท่านอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาได้นำทางฉันเข้าสู่ประตูแห่งการบำเพ็ญ และอนุญาตให้ฉันได้สัมผัสกับปาฏิหาริย์อันน่าอัศจรรย์ของต้าฝ่า

ครั้งแรกที่ฉันพบกับต้าฝ่า

ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับสามีคือในช่วงฤดูร้อนปี 1998 เขาเป็นผู้ชายที่สะอาด จิตใจดี และจริงใจ เขาหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับคนอื่นและนึกถึงผู้อื่นอยู่เสมอ เขาแสดงความห่วงใยและเอาใจใส่ฉัน และฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ฉันสามารถพึ่งพาได้ตลอดชีวิต

ต่อมาฉันได้ทราบว่าสมาชิกในครอบครัวของเขาเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ครั้งหนึ่งขณะไปเยี่ยมบ้านของเขา แม่ของเขายื่นหนังสือจ้วนฝ่าหลุนให้ฉันและพูดว่า “หนังสือเล่มนี้ดีจริง ๆ แม่หวังว่าเธอจะลองอ่านดู” แม้ว่าฉันจะใช้เวลาอ่านอยู่นาน แต่ฉันไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับเนื้อหาในหนังสือเลย ต่อมาฉันจึงเข้าใจว่ากรรมที่ติดตัวฉันมากำลังขัดขวางไม่ให้ฉันได้รับฝ่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพ่อแม่ของฉันเองมักทะเลาะกันบ่อย ๆ ฉันจึงเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่มีความสุขและกลมเกลียวในครอบครัวของสามี จากการชักจูงของพวกเขา ฉันจึงได้เข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่าหลายครั้งและฝึกท่ากลางแจ้งกับคนอื่น

ฉันกับสามีแต่งงานกันในฤดูใบไม้ผลิปี 1999 และเราเริ่มต้นครอบครัวเล็ก ๆ ของเราเอง สองเดือนต่อมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เริ่มปราบปรามฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างรุนแรง และเราสูญเสียสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญที่สงบสุข เหมือนว่าวที่ขาดสาย ฉันสูญเสียระบบสนับสนุนในชั่วข้ามคืน ความกลัวและแรงกดดันจากสังคมทำให้ฉันและสามีเลิกบำเพ็ญในที่สุด

หลังจากหยุดฝึกต้าฝ่า เราตั้งใจจะใช้ชีวิตสบาย ๆ และมั่นคง แต่โดยไม่คาดคิด ชีวิตสมรสของเราเริ่มแย่ลง ด้วยบุคลิกและนิสัยการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของเรา ฉันกับสามีจึงขัดแย้งกันตลอดเวลา หลังจากที่ลูกสาวของฉันเกิด ฉันรู้สึกท่วมท้นกับทั้งงานบ้าน การทำงาน และการดูแลลูก หลังจากสามีเลิกบำเพ็ญ เขาก็เริ่มสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการเล่นเกมในร้านอินเทอร์เน็ต ความใจดี ความจริงใจ ความอบอุ่น และความเอาใจใส่ที่เขามีในตอนแรกก็หายไปหมดสิ้น และฉันรู้สึกเหมือนถูกหลอก ฉันเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองเขาอย่างรุนแรง และเราทะเลาะกันทุก 3 ถึง 10 วัน เมื่อเวลาผ่านไป ฉันเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ แน่นหน้าอก กระเพาะอักเสบ โพรงจมูกอักเสบ คออักเสบ และปวดคอและหลัง เป็นความทุกข์ทรมานที่ไม่สามารถบรรยายได้

ทุกครั้งที่ครอบครัวมารวมตัวกัน เป็นโอกาสให้ฉันระบายความโกรธใส่สามี ทุกคนแนะนำให้เรากลับไปบำเพ็ญ แต่ฉันไม่ฟังพวกเขา เพราะฉันดันทุรังเชื่อว่าปัญหาในครอบครัวเราเกิดจากพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบของสามี ฉันไม่เคยทบทวนว่าการกระทำของตัวเองมีส่วนทำให้เกิดปัญหาด้วยหรือไม่

ปาฏิหาริย์ที่สมาชิกในครอบครัวที่ยังคงฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าได้รับ

แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นผู้ฝึกแล้ว แต่ญาติสามคนในครอบครัวของแม่สามียังคงฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงชื่อ Eming ซึ่งถูกไล่ออกจากงานเพราะไม่ยอมหยุดฝึก เมื่อเธอเดินทางไปจัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อยืนหยัดเพื่อฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอถูกตำรวจทุบตี ต่อมาครอบครัวที่มีความสุขของเธอต้องพังทลายลงจากการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เราเป็นห่วงเธอ และฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอบ้าหรือเปล่าที่ยอมสละสิ่งต่าง ๆ มากมายขนาดนี้เพื่อการฝึก

แต่ Eming ก็เอาชนะความยากลำบากต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง ภายใน 20 ปี เธอประสบความสำเร็จในอาชีพการงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอได้รับเงินเดือนดี มีบ้านและรถยนต์เป็นของตัวเอง เธอยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ ขณะที่ลูกของเธอซึ่งเติบโตในสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญ ก็โตเป็นผู้ใหญ่ที่ซื่อสัตย์สุจริต สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทก่อนเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เรื่องราวชีวิตที่น่าทึ่งของเธอทำให้ฉันตระหนักถึงพลังพิเศษของต้าฝ่า

สองปีก่อน ความขัดแย้งระหว่างฉันกับสามีทวีความรุนแรงขึ้น และชีวิตสมรสของเราก็ใกล้จะล่มสลายอย่างเห็นได้ชัด Eming มาเยี่ยมเราหลายครั้งและพยายามชักชวนสามีของฉันให้กลับมาบำเพ็ญอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคม 2023 สามีของฉันถอนการติดตั้งเกมออกจากโทรศัพท์ซึ่งเขาหมกมุ่นอยู่กับมันมาเป็นเวลา 20 ปีแล้วในทันที ฉันตะลึงที่เห็นเขาเลิกติดเกม

หลังจากที่เขากลับมาบำเพ็ญต้าฝ่าอีกครั้ง สามีของฉันก็เริ่มช่วยฉันทำงานบ้าน เขาเริ่มยิ้มบ่อยขึ้นและมีความสุขตลอดวัน แม้แต่ตอนที่ฉันดุเขา เขาก็อดทนแทนที่จะโกรธ ความขัดแย้งที่ไม่สามารถปรองดองได้ที่เคยมีในความสัมพันธ์ของเราหายไป และฉันรู้สึกประทับใจในพลังของต้าฝ่า ! ฉันเริ่มตระหนักว่ามีเพียงต้าฝ่าเท่านั้นที่มีพลังในการเปลี่ยนแปลงบุคคลหนึ่งได้จากมูลฐาน

เข้าสู่ประตูแห่งการบำเพ็ญ—เปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจ

เมื่อคนรอบข้างฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันจึงได้เห็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับผู้ฝึกด้วยตนเอง และในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะเริ่มบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง Eming มาเยี่ยมเราที่บ้านสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อให้ฉันและสามีได้ศึกษาฝ่าร่วมกันกับเธอ หลังการอ่านแต่ละครั้ง เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเข้าใจกัน และ Eming ก็ได้พูดถึงประสบการณ์การบำเพ็ญของเธอเองและของผู้ฝึกคนอื่น ๆ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของคำสอนของท่านอาจารย์ :

“เปรียบเทียบซึ่งกันและกัน ทุก ๆ เรื่องราวเปรียบเทียบกัน ทำได้คือบำเพ็ญ” (“บำเพ็ญจริงจัง” หงอิ๋น)

ฉันเริ่มฟังหมิงฮุ่ยเรดิโอและรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งกับเรื่องราวการบำเพ็ญที่เพื่อนผู้ฝึกแบ่งปัน เมื่อเวลาผ่านไป ฉันได้เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบความคิดมนุษย์และนิสัยของตัวเองให้สอดคล้องกับหลักการของฝ่าที่ท่านอาจารย์สอน ร่างกายของฉันก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

ช่วงเริ่มต้น ฉันรู้สึกง่วงนอนทันทีที่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน และฉันเข้าใจสิ่งที่อ่านได้น้อยมาก นอกจากนี้ ฉันยังฝึกท่าฝึกได้อย่างยากลำบากด้วย ฉันไม่สามารถฝึกท่าที่สองได้แม้เพียงครึ่งชั่วโมง และไม่สามารถขัดขาขณะฝึกท่านั่งสมาธิได้ แม้ว่าสภาพการบำเพ็ญของฉันจะแย่ แต่ท่านอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาก็เริ่มชำระล้างร่างกายของฉันและขจัดกรรมให้ฉันทุก ๆ 3 ถึง 5 วัน

ก่อนบำเพ็ญ ฉันทนทุกข์ทรมานกับโรคภัยไข้เจ็บทางกายหลายอย่าง มีความวิตกกังวลและซึมเศร้า เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดแสนสาหัส ฉันได้จ่ายเงินมากมายไปกับการฝังเข็ม นวด บำบัดด้วยไฟฟ้า และกดจุด แต่การรักษาเหล่านี้ก็ช่วยบรรเทาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หลังจากที่ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า โรคเรื้อรังของฉันก็บรรเทาลงขณะที่ร่างกายก็เปลี่ยนแปลง ฉันเริ่มนอนหลับได้ดีขึ้น ไม่กลัวความหนาวเย็นอีกต่อไป และสามารถขยับข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างอิสระ ร่างกายของฉันเบาสบายและผ่อนคลาย ในที่สุดฉันก็ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

เมื่อไม่นานมานี้ ฉันเจอกับบททดสอบใหญ่เกี่ยวกับความเจ็บป่วย วันหนึ่งในเดือนตุลาคม 2024 ฉันรู้สึกปวดเอวอย่างรุนแรงอย่างกะทันหัน

ท่านอาจารย์กล่าวว่า :

“ต้นตอของโรคถูกถอนออกไปแล้ว คงเหลือลมปราณ(ชี่)สีดำเพียงเล็กน้อย แผ่กระจายออกมา ให้ท่านทนทุกข์ทรมานและรับโทษทัณฑ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านจะไม่รับทุกข์บ้างสักนิดย่อมเป็นไปไม่ได้” (บทที่ 2 จ้วนฝ่าหลุน)

ฉันยังคงสงบนิ่งและรู้ว่าฉันสามารถทนทุกข์และบากบั่นสู้ต่อได้ โดยไม่คาดคิด ความเจ็บปวดกลับเพิ่มขึ้นจนปวดไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้ฉันขยับตัวไม่ได้เลย ฉันตระหนักได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่การทดสอบเพื่อขจัดกรรมธรรมดา แต่เป็นการทดสอบความเชื่อของฉันเพื่อดูว่าฉันจะเลิกบำเพ็ญอีกครั้งหรือไม่ สามีเคยบอกฉันก่อนหน้านี้ว่า “ความทุกข์ทรมานจากโรคภัย จากกรรม และจากมาร สะท้อนถึงความแน่วแน่ในความเชื่อของคุณที่มีต่อท่านอาจารย์และฝ่าได้ดีที่สุด”

ฉันขอพรจากท่านอาจารย์อย่างเงียบ ๆ และฝากชะตากรรมของฉันไว้ในมือของท่าน เนื่องจากสามีของฉันทำงานอยู่อีกเมืองหนึ่ง ฉันจึงโทรหา Eming และขอความช่วยเหลือจากเธอ เธอรีบมาช่วยฉันอย่างรวดเร็ว และพวกเราก็ฟาเจิ้งเนี่ยนด้วยกัน การต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่วนี้ดำเนินไป 2 วัน 2 คืน แม้จะเจ็บปวดอย่างที่สุด แต่หัวใจของฉันนั้นยังคงมั่นคง หลังจากที่ Eming ฟาเจิ้งเนี่ยนอย่างต่อเนื่องนาน 2 ชั่วโมง ความเจ็บปวดของฉันก็ทุเลาลงทันที และฉันก็สามารถลุกขึ้นได้ ฉันเอาชนะความทุกข์ทรมานที่เลวร้ายที่สุดที่ฉันเผชิญได้

หลังจากผ่านพ้นการทดสอบนี้ ร่างกายของฉันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และความเชื่อในต้าฝ่าก็แข็งแกร่งขึ้น จิตใจของฉันปลอดโปร่งกว่าเดิม และฉันรู้สึกปีติสุขท่วมท้นในหัวใจ ฉันรู้สึกขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างที่สุดที่ขจัดบาปของฉันออกไป และอดทนแทนฉันมากมาย