(Minghui.org) ในภาคการศึกษานี้ ฉันมีโอกาสได้พูด 3 ครั้ง ในชั้นเรียนวิชาการพูดในที่สาธารณะ เรื่องฝ่าหลุนต้าฝ่ากำลังถูกประทุษร้ายจากคอมมิวนิสต์จีนอย่างไร

การสอนท่าฝึกต้าฝ่าในชั้นเรียน

นักศึกษาสามารถเลือกหัวข้อในการนำเสนอครั้งแรกได้อย่างอิสระ เราสามารถเลือกใช้เครื่องมือประกอบใดก็ได้ตามใจชอบโดยมีกำหนดเวลาให้พูดประมาณ 5 นาที ฉันเลือกที่จะสาธิตท่าฝึกชุดที่ 5 ของฝ่าหลุนต้าฝ่าบางส่วน

ฉันให้ทุกคนนั่งล้อมเป็นวงกลมที่พื้น แล้วฉันก็เล่าประวัติและคุณประโยชน์ของการนั่งสมาธิ ฉันพูดย่อ ๆ ว่าสุขภาพของฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างหลังจากที่ฉันเริ่มฝึก

ฉันเปิดดนตรีประกอบและชวนให้ทุกคนนั่งในท่านั่งสมาธิเพชร บางคนแปลกใจที่ฉันสามารถวางเท้าทั้งสองข้างไขว้กันด้านบนได้ ฉันบอกว่าจะนั่งขัดขาทั้งสองข้างหรือขัดขาข้างเดียวก็ได้ หรือวางขาสองข้างตามที่ถนัดก็ได้เหมือนกัน ฉันสังเกตว่าเพื่อนสาวคนหนึ่งสามารถนั่งขัดสมาธิเพชรได้

บรรยากาศในห้องเรียนเงียบสงบ พวกเขาทำตามฉันกันเกือบทุกคน บางคนตั้งใจเรียนรู้อย่างจริงจัง เพื่อนร่วมชั้นชาวจีนสองคนมองดูฉันด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

เมื่อการสาธิตสิ้นสุดลง เพื่อนร่วมชั้นจากกรุงปักกิ่งยิ้มและพยักหน้าให้ฉัน เธอเดินมาตบไหล่ฉันเบา ๆ และพูดว่า "ทำได้ดีมากเลย" เพื่อนชาวตะวันตกที่ไม่เคยคุยกับฉันมาก่อนยังพูดว่า "เยี่ยมมาก !" อาจารย์ก็ดูจะพอใจและยิ้มให้

แม้ว่าขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาเพียง 5 นาที แต่ฉันรู้สึกว่าทุกคนได้สัมผัสถึงพลังงานที่ดีของฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันเชื่อว่าการสาธิตท่าฝึกในครั้งนี้เป็นการวางรากฐานที่ดีสำหรับการอธิบายความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่าในอนาคต

พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนต้าฝ่า

การนำเสนอครั้งที่สองของฉันใช้เวลา 10 นาที ในหัวข้อ “พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนต้าฝ่า” ฉันใช้เครื่องฉายภาพเพื่อแสดงภาพที่ผู้ฝึกถือแผ่นป้าย เจิน-ซั่น-เหยิ่น (ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน) ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และมีตำรวจนายหนึ่งกำลังเดินไปหาเขา

ฉันถามว่ามีใครเคยเห็นภาพนี้มาก่อนหรือไม่ มีนักศึกษาชายชาวจีนคนหนึ่งยกมือขึ้น ฉันให้ข้อมูลย่อ ๆ เกี่ยวกับภาพนี้ และบอกทุกคนว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าคืออะไร จากนั้นฉันก็พูดถึงการประทุษร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศจีน และอธิบายว่าระบอบคอมมิวนิสต์หลอกลวงประชาชนอย่างไรบ้างจากเหตุการณ์การเผาตัวตายที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน การกุเรื่องว่ามีผู้เสียชีวิต 1,400 คน เหตุการณ์ 25 เมษายน และเรื่องราวอื่น ๆ

เพื่อนร่วมชั้นบางคนดูไม่ค่อยสนใจในตอนแรก แต่เมื่อฉันพูดถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในคนกว่า 100 ล้านคน พวกเขาก็ให้ความสนใจมาก

หลังเลิกเรียน มีเพื่อนร่วมชั้นเดินเข้ามาหาฉันและบอกว่าเธอได้ยินเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นครั้งแรกจากบทความใน หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ การนำเสนอในวันนี้ช่วยให้เธอเข้าใจประเด็นนี้มากขึ้น

เพื่อนร่วมชั้นอีกคนบอกว่าเธอเข้าใจแล้วว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าช่วยให้ผู้คนมองเห็นคุณค่าของความศรัทธาและความดีงามของการกลับคืนสู่วัฒนธรรมดั้งเดิม เธอมองเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคนั้นเลวร้ายเพียงใด นักศึกษาชายชาวจีนคนที่ยกมือเมื่อครู่ดูเห็นอกเห็นใจฝ่าหลุนต้าฝ่า ข้อคิดเห็นต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ฉันเชื่อว่าความจริงได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว

การสนับสนุนผู้ฝึกในประเทศจีน

การนำเสนอครั้งที่สามใช้เวลาประมาณ 7 นาที หัวข้อหลักคือ "การลงมือปฏิบัติ" เมื่อฉันพูดเกี่ยวกับการประทุษร้ายจบ ฉันมุ่งเน้นว่าทุกคนสามารถช่วยหยุดการประทุษร้ายนี้ได้อย่างไร พวกเขาอาจลงนามในหนังสือร้องเรียน พูดคุยกับคนที่พวกเขาพบเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อแสดงความห่วงใย หรือทำอย่างอื่น ฉันเล่าย่อ ๆ ให้ทุกคนฟังว่าฉันได้ทำอะไรไปแล้วบ้างเพื่อช่วยหยุดการประทุษร้ายนี้

เมื่อฉันพูดจบ ทุกคนยิ้มและปรบมือให้ หลังเลิกเรียนนักศึกษาชาวจีนคนหนึ่งเข้ามาแสดงความชื่นชมต่อการนำเสนอครั้งนี้ เธอบอกว่าเธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวชาวคริสต์ พ่อแม่ของเธอเป็นพระผู้สอนศาสนา เธอตระหนักถึงความสำคัญของการมีความศรัทธา

เพื่อนร่วมชั้นอีกคนถามว่าท่านั่งสมาธิที่ฉันนำเสนอในครั้งแรกเป็นส่วนหนึ่งของท่าฝึกของฝ่าหลุนต้าฝ่าใช่ไหม ฉันบอกว่าใช่ เขาบอกว่าฉันทำได้ดีทีเดียวเพราะการนำเสนอของฉันช่วยให้ทุกคนเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ดีขึ้น เขาบอกว่าเขาชื่นชมสิ่งที่ฉันทำจริง ๆ

คนอื่น ๆ ต่างพากันเข้ามาบอกว่าพวกเขารู้สึกเสียใจที่ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีน พวกเขาดูออกว่าฉันเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และพวกเขาขอขอบคุณในความพยายามของฉัน

ฉันได้นำหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการปล้นเอาอวัยวะขณะมีชีวิตไปให้ทุกคนลงนามด้วย เมื่อฉันนำเสนอจบ เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งช่วยเอาไปให้เพื่อน ๆ ในห้องลงนามกัน เพื่อน ๆ ลงชื่อกันหลายคน รวมทั้งคนที่ไม่เคยพูดกับฉันแม้แต่ครั้งเดียว เพื่อนคนหนึ่งบอกว่านี่เป็นการแสดงความคิดเห็นที่สำคัญที่ต้องให้คนรับทราบ และส่งเสริมให้ฉันพยายามทำต่อไป

ผลจากการเตรียมพร้อม

การเตรียมตัวสำหรับการนำเสนอหน้าชั้นเรียนในภาคการศึกษานี้ ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะการพูดของฉันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ฉันได้มองเห็นขั้นตอนการบำเพ็ญของฉันอีกด้วย

เมื่อฉันปล่อยวางจิตยึดติดในการแสวงหาชื่อเสียงลงไปได้ ผู้คนก็ให้ความสนใจฉัน ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานทางบวกในห้อง เพื่อนในห้องสังเกตว่าฉันสบตาผู้ฟังขณะพูดเรื่อย ๆ เขาบอกว่าฉันดูสงบและมั่นใจ ทำให้เพื่อน ๆ อยากฟัง

ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์หลี่ (ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า) อยู่ข้าง ๆ ฉันตลอดขั้นตอนที่ทำ บางคนเห็นความเมตตาในแววตาของฉัน อาจารย์บอกว่าเป้าหมายของการพูดในที่สาธารณะคือการเอาชนะใจผู้ฟังและทำให้ผู้ฟังตั้งใจฟังประเด็นสำคัญที่คุณกำลังพูด ถ้าใครก้าวไปได้อีกขั้นหนึ่งโดยการลงมือปฏิบัติ การนำเสนอนั้นก็นับว่าประสบความสำเร็จ

หลังการนำเสนอครั้งแรก ถ้าผู้ฟังได้ฟังซ้ำ การฟังซ้ำจะช่วยให้เขาเข้าใจเรื่องที่ฟังได้ดีขึ้น และเชื่อในสิ่งที่นำเสนอ นั่นก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ การนำเสนอโดยตัวเองก็เป็นเหมือนกับการปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้ในจิตใจคน มันจะเปลี่ยนพวกเขาได้เมื่อกาลเวลาผ่านไป

คำพูดและการกระทำของพวกเราเป็นเครื่องมือที่จะช่วยแพร่กระจายข้อความ แม้ว่าในบางครั้งเราจะไม่เห็นผลลัพธ์ของมันได้ทันที แต่ทุกสิ่งที่เราพูดคือการช่วยให้ผู้คนก้าวออกมา ผู้คนอาจจะยังไม่ทำอะไรในทันทีเนื่องจากพวกเขาอาจยังไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเราทั้งหมด แต่ตราบเท่าที่เราทำไปอย่างเป็นธรรมชาติ การนำเสนอของเราจะช่วยให้พวกเขาก้าวออกมาได้เร็วขึ้น และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้