(Minghui.org) ฉันพบกับเฉินซีซึ่งเป็นผู้ฝึกที่ฉันรู้จักโดยบังเอิญ เขาเล่าเรื่องของผู้ฝึกอีกคนหนึ่งที่ชื่อห่าวเซี่ยให้ฉันฟัง (ทั้งสองชื่อเป็นนามแฝง) ห่าวเคยพยายามอย่างมากที่จะอยู่ให้ห่างจากตำรวจที่เคยคุกคามเธอ แต่ไม่นานมานี้เธอตัดสินใจใช้วิธีที่ถูกต้องมากขึ้น

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อใดก็ตามที่ห่าวได้ยินว่าตำรวจกำลังมาที่บ้านของเธอ เธอจะเก็บของใส่กระเป๋าเป้และหลบไปที่บ้านญาติเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อกวน สมาชิกในครอบครัวทุกคนเคยชินกับสิ่งนี้และมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

ในเดือนพฤษภาคม ห่าวได้ยินว่าวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในและตำรวจจะมาที่บ้านของเธอ เหมือนเช่นเคย เธอเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วเริ่มออกเดินทาง

ขณะที่ห่าวกำลังจะออกไป ลูกสาวของเธอก็กำลังเดินทางมาเยี่ยมเธอ เธอเห็นแม่กำลังถือกระเป๋าเป้อยู่จากระยะไกล เธอตะโกนว่า “แม่ แม่กำลังจะออกจากบ้านสองสามวันเพื่อหนีตำรวจใช่ไหม คราวนี้จะไปไหนคะ ไปบ้านป้า หรือไปบ้านพี่สาวของหนูคะ”

คำพูดของลูกสาวของเธอทำให้ห่าวหยุดชะงัก เธอคิดว่า “ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่หรือ ฉันไม่ควรไปไหน ฉันควรช่วยคนเหล่านี้” เธอหันหลังกลับและเข้าบ้านพร้อมลูกสาวของเธอ

ห่าวเดินเข้ามาและบอกสามีของเธอว่า "ช่วยไปซื้อแตงโมลูกใหญ่ ๆ กับขนมดี ๆ ให้หน่อย ฉันจะเลี้ยงแขกพรุ่งนี้”

เธอวางแตงโมกับขนมหวานบนโต๊ะกาแฟ และรอให้เจ้าหน้าที่มาถึง เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ 7 หรือ 8 คน จากฝ่ายความมั่นคงภายในประเทศและจากสถานีตำรวจก็แสดงตน ทันทีที่มาถึงพวกเขาก็เริ่มค้นบ้านของห่าวเพื่อหาเอกสารและข้อมูลเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงและการประทุษร้าย

ผู้บังคับบัญชาสถานีตำรวจเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เขาถามเธอว่า “ทุกวันนี้คุณทำอะไร คุณออกไปแจกเอกสารข้อมูลของฝ่าหลุนกงใช่ไหม”

ห่าวบอกเขาว่าเธอแค่กำลังมองหาเอกสารข้อมูลบางอย่าง เธอบอกว่า “ฉันอยากให้แผ่นพับคุณ ฉันอยากมอบโอกาสให้คุณได้รับการช่วยเหลือ ทุกวันนี้คนจำนวนมากทราบว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าช่วยชีวิตได้ แต่พวกคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงวิ่งวุ่นทำตามคำสั่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ให้ทำเรื่องโง่ ๆ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณเมื่อความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงรู้ไปทั่วโลก”

ขณะที่ห่าวกำลังคุยกับผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนก็เข้าไปในห้องและเริ่มค้นหา เธอคุยกับพวกเขาด้วย ลูกสาวและสามีของเธอเป็นห่วงและพยายามห้ามเธอ ผู้บังคับบัญชาคนนั้นพูดว่า "อย่าห้ามเธอ ปล่อยให้เธอพูด ผมอยากได้ยินว่าเธอจะพูดอะไร"

ห่าวพูดต่อว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะกำจัดคนที่ทำงานให้ทันทีที่งานเสร็จเสมอ ๆ หลิว ฉวนซิน ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะแห่งกรุงปักกิ่งเป็นคนที่ทำงานหนักมากให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม เขาฆ่าตัวตายหลังการปฏิวัติวัฒนธรรม นายทหารฝ่ายเสนาธิการอีก 17 คนถูกลอบนำตัวไปยังมณฑลยูนนานอย่างลับ ๆ และถูกประหารชีวิต ครอบครัวของพวกเขาได้รับแจ้งเพียงว่าเป็นการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น”

หลังจากเชิญทุกคนกินแตงโม ห่าวก็บอกกับตำรวจว่า “ตอนนี้พวกคุณอยู่ในเครื่องแบบตำรวจ แต่เมื่อคุณกลับบ้านและถอดเครื่องแบบออก คุณก็เป็นลูกชาย เป็นสามี และเป็นพ่อ สมาชิกในครอบครัวของคุณหลายคนต้องพึ่งพาคุณและคุณต้องรับผิดชอบพวกเขา ดูสิ คุณสร้างความเสียหายให้กับครอบครัวของฉันมากแค่ไหนที่มารื้อค้นบ้านของฉัน และลองจินตนาการดูสิว่าเพื่อนบ้านจะมองอย่างไร แต่สามีและลูกของฉันยังคงสนับสนุนให้ฉันบอกคุณเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงเพื่อให้คุณได้รับการช่วยเหลือ”

คำพูดที่เปี่ยมด้วยความเมตตาของเธอทำให้เจ้าหน้าที่ประทับใจ พวกเขาหยิบเอกสารเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงไปด้วย และบอกว่าพวกเขาอยากจะอ่านเมื่อกลับถึงบ้าน ห่าวช่วยหนึ่งในนั้นให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ ผู้บังคับบัญชาคนนั้นสนทนากับห่าวเป็นเวลานาน

หลังจากเล่าเรื่องห่าวให้ฉันฟัง เฉินซีก็ให้ความคิดเห็นว่า “เพราะห่าวเซี่ยมีความคิดถูกต้องและขจัดจิตหวาดกลัวออกไป เธอไม่เพียงหยุดการหลบหนีตำรวจ แต่เธอยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย - และช่วยให้หนึ่งในพวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย เธอหยุดพวกเขาไม่ให้ก่ออาชญากรรมกับต้าฝ่ามากกว่าไปนี้ เหตุการณ์นี้ช่วยให้เพื่อนบ้านของเธอเปลี่ยนความเข้าใจผิดที่มีต่อต้าฝ่าด้วย”

เฉินพูดต่อว่า “ห่าวหยุดหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และสมาชิกในครอบครัวของเธอก็สนับสนุนให้เธอบอกผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงและการประทุษร้ายมากยิ่งขึ้น”

ฉันเล่าเรื่องนี้กับผู้ฝึกในพื้นที่ฟัง พวกเขาคิดว่ามันช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา พวกเขาบางคนไม่ค่อยออกไปข้างนอกบ่อยนัก แต่หลังจากได้ฟังเรื่องของห่าว พวกเขาก็เริ่มออกไปอธิบายความจริงและช่วยสรรพชีวิต