(Minghui.org) พ่อของฉันซึ่งอยู่ในวัย 87 ปี เคยเป็นผู้อำนวยการของหน่วยงานหนึ่งในธนาคารแห่งหนึ่งก่อนที่ท่านจะเกษียณ ท่านเชื่อในอเทวนิยมมาก่อนเพราะได้รับอิทธิพลจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่ท่านได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดทำให้ท่านเปลี่ยนโลกทัศน์อย่างสิ้นเชิง

เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017 พ่อของฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะลุกลาม พวกเราพาท่านไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทางที่เมืองจี่หนาน เทียนจิน และปักกิ่ง ทุกแห่งวินิจฉัยเหมือนกันหมด : นอกจากมะเร็งแล้ว ผลการตรวจยังพบว่าพ่อเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และมีลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดกับขาด้วย

อาการของพ่อแย่ลงและพูดได้ไม่ชัด แพทย์บอกว่าพ่อจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสองเดือน และบอกว่าพ่อจะกลับมาพูดเป็นปกติเหมือนเดิมอีกไม่ได้ เราจึงพาพ่อออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน

ฉันบอกความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าให้พ่อฟังแต่พ่อไม่ยอมฟัง ฉันบอกพ่อหลายครั้งด้วยความอดทนว่าให้พ่อท่องในใจซ้ำ ๆ ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว (ดี)” และ “เจิน - ซั่น – เหยิ่น - ห่าว (ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน - ดี)” เขาส่ายหัวตลอด เมื่อเห็นว่าพ่อดื้อแค่ไหน แม่ก็วิตกกังวลมากจนร้องไห้ เธอบอกว่า “เร็วเข้า ! ฉันจะพูดซ้ำ ๆ พร้อมกับคุณด้วย” พ่อจ้องแม่แล้วแผดเสียงว่า “ฉันไม่เชื่อ !”

เมื่อเวลาผ่านไป อาการของพ่อก็แย่ลงไปเรื่อยๆ พวกพี่ชายของฉันพาพ่อไปโรงพยาบาลเทศบาลนครเทียนจิน แต่พี่ ๆ ทนดูพ่อทุกข์ทรมานไม่ได้ ฉันไปกับพวกเขาไม่ได้ ฉันจึงอ้อนวอนท่านอาจารย์หลี่ (ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า) ในใจว่า “ได้โปรดให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าสักคนหนึ่งในเทียนจินอธิบายความจริงให้พ่อฟัง และช่วยเขาด้วย”

พี่ชายทั้ง 3 คนพาพ่อกลับบ้านในอีกไม่กี่วันต่อมา ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในบ้านของเรา พวกพี่ชายก็บอกฉันอย่างมีความสุขว่า “พ่อสบายดีแล้ว !” พ่อบอกฉันอย่างมีความสุขว่า “ดูสิ พ่อเดินได้แล้ว”

พี่ ๆ บอกฉันว่าพวกเขาได้พบกับผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าคนหนึ่งตอนเข็นรถเข็นของพ่อเพื่อพาพ่อไปทานอาหารกลางวันนอกโรงพยาบาล ผู้ฝึกคนนั้นบอกพวกเขาเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และช่วยให้พวกเขาทุกคนลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้ฝึกคนนั้นบอกให้พวกเขาท่องซ้ำ ๆ ในใจว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว” และ “เจิน - ซั่น – เหยิ่น - ห่าว" พวกเขาทั้ง 4 คนเห็นด้วย

พ่อบอกว่า “คนนี้บำเพ็ญได้ดี เธออายุ 60 กว่าปีแล้ว แต่ยังดูเหมือน 40 กว่าปี เธออธิบายความจริง [เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า] ได้ดีมากด้วย เหรียญนำโชคที่เธอมอบให้พวกเรานั้นดูงดงาม เมื่อพ่อเริ่มท่องซ้ำ ๆ ว่า 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน - ซั่น – เหยิ่น - ห่าว' มันได้ผล ! พ่อรู้สึกว่าขาเบาขึ้น พ่อลุกยืนและเดินได้”

น้องชายของฉันพูดเสริมว่า “พ่อ พ่อรู้ว่าโรงพยาบาลรักษามะเร็งให้พ่อไม่ได้ ทำไมพ่อไม่ท่อง 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี’ ต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะ พ่อจะได้ไม่ต้องกินยาที่พ่อไม่ชอบอีก ไม่ดีหรือ” พ่อตอบด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน พ่อจะท่อง !”

ค่ารักษาพยาบาลของพ่อเบิกได้เกือบทั้งหมดเนื่องจากพ่อเป็นนายทหารเกษียณ พ่อจึงชอบที่จะอยู่พักฟื้นที่โรงพยาบาล หลังจากพักในโรงพยาบาลอำเภอ 10 วัน พ่อก็ยืนกรานว่าจะกลับบ้าน แต่ต่อมาพ่อก็ต้องการไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลในเมืองของเรา เย็นวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม พ่ออาการแย่ลงอย่างกะทันหันและถูกย้ายเข้าห้องไอซียู แพทย์แนะนำให้เราย้ายพ่อไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่าในเมือง

พวกเราอาศัยอยู่ในชนบทซึ่งค่อนข้างไกลจากโรงพยาบาล กว่าฉันจะไปถึงในวันรุ่งขึ้น พ่อของเราก็ดีขึ้นแล้ว พ่อเดินเองได้ แพทย์ก็แปลกใจเหมือนกัน ฉันถามพ่อว่า “พ่อ พ่อท่องคำพวกนั้นหรือเปล่า” พ่อบอกว่า “แน่นอน ! พ่อท่องคำเหล่านั้นซ้ำ ๆ ทุกวัน” สุขภาพของพ่อดีขึ้นเรื่อย ๆ แพทย์บอกพ่อว่า “คุณกลับบ้านได้แล้ว ตอนนี้ร่างกายของคุณแข็งแรงดีแล้ว ผมมั่นใจว่าคุณจะอยู่ได้อีกหลายปี”

พ่อเริ่มใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและคล่องแคล่ว พ่อขี่จักรยานไปตลาด ไปเยี่ยมญาติ และออกไปเดินเล่น คนในหมู่บ้านของเราเป็นประจักษ์พยานในพลังของการท่อง "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" ผ่านทางการเปลี่ยนแปลงของพ่อ ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนหนึ่งเห็นพ่อ เธอจะพูดว่า “เขาตายแล้วฟื้นคืนชีพ”

เมื่อป้าของฉันมาเยี่ยมพ่อ พ่อเล่าให้เธอฟังว่า “ผมไม่เชื่ออะไรที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ แต่ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาลอำเภอ ผมเห็นผีสองตนในชุดสีขาววนเวียนอยู่รอบเตียงของผม แต่พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้ผม ผมมองเห็นพวกเขาชัดมาก ผมกลัวจนไม่กล้าอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ผมรู้ว่าผีพวกนี้ติดตามผม ผมก็เลยรีบออกจากโรงพยาบาล”

ในที่สุดเราก็รู้เหตุผลที่พ่อยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาลอำเภอเพื่อกลับบ้าน พ่อเห็น เฮยไป๋อู่ชาง (เทพสององค์ตามศาสนาพื้นบ้านของจีนที่มีหน้าที่คุมวิญญาณของคนตายไปยังยมโลก) ที่พยายามเอาเขาไปจากโลกนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่าหลุนต้าฝ่า พ่อคงเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อพ่อไปโรงพยาบาลอำเภอเพื่อตรวจร่างกายประจำเดือน คุณหมอซ่ง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของแผนกซึ่งเคยรักษาพ่อ ไม่เชื่อว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ เขามองพ่อขึ้น ๆ ลง ๆ และถอยหลังด้วยความตกใจ เขาถามพี่ ๆ ของฉันว่า “พ่อของคุณหายดีได้อย่างไร บอกได้ไหมว่าเขาไปพบแพทย์คนไหน ฉันต้องเรียนรู้จากแพทย์ท่านนั้น” พวกพี่ชายคิดถึงการประทุษร้ายที่ยังเกิดอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็ไม่กล้าบอกความจริงกับแพทย์ ได้แต่ยื่นประวัติการรักษาของพ่อจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ให้ดู คุณหมอซ่งพูดว่า “ผมรู้สิ่งเหล่านี้ ถ้าใช้ยาพวกนี้ เขาคงตายไปนานแล้ว” คุณหมอซ่งดูงุนงงและไม่เชื่อ

วันเวลาผ่านไป พ่อได้รับอิทธิพลจากความเชื่ออเทวนิยมอีกครั้ง และเริ่มกินยา พอฉันแนะนำให้พ่อท่องคำที่ช่วยชีวิตซ้ำ ๆ ต่อไป พ่อเริ่มหาข้ออ้างที่จะไม่ท่อง กระทั่งโกรธฉันกับเพื่อนผู้ฝึกเมื่อให้คำแนะนำแบบเดียวกัน

วันหนึ่งในเดือนเมษายนปี 2020 อยู่ ๆ พ่อก็คิดหรือพูดไม่ชัด พวกเราพาพ่อไปโรงพยาบาล พ่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่สมองระยะลุกลามและแพร่กระจายไปถึงกระเพาะอาหาร พวกเขาพบเนื้องอกหลายจุดในร่างกายของพ่อ พ่อเจ็บปวดมากขึ้นและร้องคร่ำครวญไม่เว้นแต่ละวัน แพทย์สั่งยาแก้ปวดชนิดที่แรงที่สุดให้แต่ยาพวกนี้ทำให้ตาของพ่อกลิ้งกลับ สุดท้ายพ่อขยับตัวหรือพูดไม่ได้ ใบหน้าของพ่อดูซีดและผิดรูปอย่างน่ากลัว

ฉันทนเห็นพ่อทุกข์ทรมานไม่ได้ ก็เลยลองพูดแนะนำให้พ่อท่องคำเหล่านั้นซ้ำ ๆ อีกครั้ง คราวนี้พ่อตอบตกลง ในวันที่สองพ่อบอกว่าจิตใจกระจ่างแจ้งและความเจ็บปวดก็หายไป พ่อดูดีขึ้นมาก เมื่อแพทย์มาเห็นพ่อก็ซ่อนความประหลาดใจไว้ไม่ได้ เขาพูดอยู่ตลอดว่า “ชายชราคนนี้ฟื้นจากทุกอย่างได้จริงๆ”

หลายวันหลังจากจุดเปลี่ยนนี้ แพทย์ตรวจพบว่าเนื้องอกในสมองของพ่อหายไปแล้ว เขาถามเราทันทีว่า “พวกคุณทำอะไรกับเขา คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม” ครั้งนี้พวกเราทั้งครอบครัวเอาชนะความกลัวได้ เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับท่านอาจารย์หลี่ถ้าพวกเราไม่บอกความจริงกับแพทย์ เราจึงบอกกับหมอว่าพ่อหายป่วยได้จากการท่องซ้ำ ๆ ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว และ เจิน - ซั่น – เหยิ่น - ห่าว" คุณหมอดูเหมือนกับตื่นขึ้นมาในที่สุด เขาตระหนักว่านั่นคือวิธีที่พ่อหายครั้งล่าสุด เขาส่งเสริมเราว่า “ใช่ ให้ท่องคำเหล่านั้นต่อไปเรื่อย ๆ เพราะมันได้ผลดีเหลือเกิน !”

ประสบการณ์มหัศจรรย์ของพ่อแสดงให้เห็นถึงพลังพิเศษของฝ่าหลุนต้าฝ่า และลบล้างคำโกหกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คนจำนวนมากรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นยอดเยี่ยมเพียงใดจากประสบการณ์ของเขา พวกเขาได้รับประโยชน์จากการท่องคำเหล่านั้นด้วย

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยพ่อของฉัน