ไต้หวัน : ผู้ฝึกในไถจงเฉลิมฉลองวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลกและสื่อถึงความดีงามของความจริง ความเมตตา และความอดทน

(Minghui.org) ในช่วงบ่ายของวันที่ 8 พฤษภาคม 2022 ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในเมืองไถจงฝึกท่าเคลื่อนไหวที่จัตุรัสหน้าอาคารรัฐบาลเมืองไถจงเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 30 ที่ฝ่าหลุนต้าฝ่าเผยแพร่สู่โลก วันนี้ตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 71 ของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย

เพื่อเฉลิมฉลองวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลกครั้งที่ 23 ซึ่งตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคมของทุกปี ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทุกวัยและทุกสาขาอาชีพได้สื่อให้เห็นประสบการณ์การบำเพ็ญของพวกเขาและประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากการฝึก

ผู้ฝึกฝึกท่าที่จัตุรัสหน้าอาคารรัฐบาลของเมืองไถจงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลองวันต้าฝ่า

ผู้ฝึกแจกจ่ายเอกสารข้อมูลให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องที่

ฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นการฝึกจิตใจที่มีรากฐานมาจากธรรมเนียมปฏิบัติของสายพุทธ ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อเริ่มถ่ายทอดฝ่าหลุนต้าฝ่าในประเทศจีนในปี 1992 ผู้ฝึกมีทุกวัย - วัยกลางคนและผู้สูงอายุ เด็กและวัยรุ่น ตลอดจนผู้ที่อยู่ในวัยฉกรรจ์ เนื่องจากผู้ฝึกเหล่านี้ได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ พวกเขาจึงหวังที่จะให้คนจำนวนมากขึ้นรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าวิเศษเพียงใด

บัณฑิตจากโรงเรียนแพทย์ : ฝ่าหลุนต้าฝ่าช่วยให้คนเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น

หวัง ฉยงอี๋ซึ่งกำลังจะเริ่มทำงานเป็นแพทย์ในเดือนสิงหาคมแนะนำให้คนเรียนรู้ฝ่าหลุนต้าฝ่า

หวัง ฉยงอี๋ เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ประเทศจีนด้วยปริญญา 2 ใบ เธอกล่าวว่า "การบำเพ็ญคือเส้นทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริงในชีวิต" และการบำเพ็ญในฝ่าหลุนต้าฝ่า "สามารถช่วยยกระดับชีวิตของคนให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้นได้" จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอแนะนำให้ทุกคนมาเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า

หวังฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากับแม่เมื่อเธออายุยังน้อย อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่าเธอเริ่มเข้าสู่เส้นทางการบำเพ็ญจริง ๆ ขณะที่เธอเรียนปี 4 ในมหาวิทยาลัย เธอบอกว่าความเครียดจากการสอบมากเหลือเกิน ทำให้เธอนอนไม่หลับและใจสั่น “ฉันรู้สึกหลงทาง” เธอบอก ปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดทำให้เธอเริ่มคิดว่า : "ความหมายของชีวิตคืออะไร จุดประสงค์ของชีวิตนี้คืออะไร" ความทรงจำที่อยู่ลึกในใจของเธอทำให้เธอหยิบหนังสือจ้วนฝ่าหลุนขึ้นมาอีกครั้ง

จากการศึกษาจ้วนฝ่าหลุนและฝึกท่า อาการนอนไม่หลับและใจสั่นของหวังก็หายไป เธอพบความหมายที่แท้จริงของชีวิตผ่านการบำเพ็ญ หวังพูดว่ามีข้อมูลมากมายอยู่รอบตัวในสังคมสมัยใหม่นี้ ปรัชญา การเคลื่อนไหว และวัฒนธรรมตามสมัยนิยมมีอยู่ทั่วไป ผู้คนมีแนวโน้มที่จะหลงทางอยู่ในข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ คนหนุ่มสาวรอบตัวของเธอกำลังเผชิญกับเรื่องนี้ เธอเรียนรู้ว่าการแสวงหาเหล่านี้ทั้งหมดไม่ใช่รากฐานสำคัญ และตระหนักว่า "การบำเพ็ญคือเส้นทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริงของชีวิตเรา" หวังยกตัวอย่างตัวเธอเอง เธอคิดว่าเธอไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว แต่หลังจากเริ่มฝึกต้าฝ่าแล้ว เธอก็ตระหนักว่าเธอทำดีเฉพาะเรื่องของตัวเองเท่านั้น แต่ไม่เคยสนใจคนอื่นเลย และเธอใช้วิธีของตัวเองในการทำสิ่งต่าง ๆ ตอนนี้เธอให้ความสำคัญกับคนอื่นและเอาใจเขามาใส่ใจเราในการคิดปัญหา เธอบอกว่าการบำเพ็ญในต้าฝ่า "สามารถยกระดับชีวิตของเราให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้น"

หวังเรียนวิชาเอกทางด้านการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนตะวันตก เธอแนะนำให้คนมาเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า ทฤษฎีการแพทย์แผนจีนที่มีมาแต่โบราณกล่าวว่า "ความโกรธทำร้ายตับ ขณะที่ความสนุกสนานทำร้ายหัวใจ" เธอบอกว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถช่วยให้ผู้คนเผชิญกับความยากลำบากด้วยอารมณ์สงบ ทำให้จิตใจและร่างกายของเราดีขึ้น”

นักดนตรี : สื่อถึงความดีงามของความจริง ความเมตตา และความอดทนผ่านการแสดง

นักดนตรี ลู่ เฉิงหาน หวังว่าผู้คนจำนวนมากยิ่งขึ้นจะมาและสัมผัสถึงความดีงามของความจริง - ความเมตตา - ความอดทน

ลู่ เฉิงหาน วัย 26 ปี เป็นนักดนตรีมืออาชีพและเป็นครูสอนดนตรีด้วย เขาเรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าจากเพื่อนคนหนึ่งระหว่างเรียนปีที่ 3 ในมหาวิทยาลัยของเขา หลักการของความจริง ความเมตตา และความอดทนของฝ่าหลุนต้าฝ่าชี้นำการใช้คำพูดและพฤติกรรมของเขา และยังช่วยชี้นำทิศทางในชีวิตของเขาด้วย ช่วยให้เขาเป็นคนจริงใจและมีจิตใจโอบอ้อมอารีมากขึ้น

ลู่เล่าว่าก่อนบำเพ็ญ เขามีความกังวลอยู่เสมอเมื่อต้องติดต่อสื่อสารและพูดคุยกับคนอื่น เพราะเขากลัวว่าตัวเองจะพูดได้ไม่ดี กลัวว่าคนอื่นอาจไม่ยอมรับเขา และเข้าใจเขาผิด แต่หลังจากฝึกต้าฝ่าแล้ว เขาสามารถ "ปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความจริงใจและคิดจากมุมมองของคนอื่น" ลู่พบว่าตัวเองกลายเป็นคนที่เป็นมิตรมากขึ้นและเฉลียวฉลาดขึ้น

ครอบครัวของลู่เห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาหลังจากเขาเริ่มปฏิบัติตามหลักการของความจริง ความเมตตา และความอดทน เพื่อยกระดับซินซิ่ง การใช้คำพูด พฤติกรรม และทัศนคติของเขา ตอนนี้พวกเขาพูดว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดีจริง ๆ" และพวกเขาสนับสนุนการบำเพ็ญของเขาอย่างมาก

ทุกครั้งที่ลู่แสดง เขาจะร้องเพลง "สายลมแห่งความจริง ความเมตตา และความอดทน" ในตอนท้าย ก่อนร้องเพลง เขาจะบอกกับผู้ชมว่าเขาเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าซึ่งบำเพ็ญความจริง ความเมตตา และความอดทน เขายังอธิบายด้วยว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่เหมือนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างในการโฆษณาชวนเชื่อซึ่งบิดเบือนข้อมูลไปจากความจริง และเขาหวังว่าจะมีคนจำนวนมากยิ่งขึ้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงความดีงามของค่านิยมสากลของความจริง ความเมตตา ความอดทน

การบำเพ็ญช่วยขจัดอารมณ์ที่ไม่ดี

เพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยของ หยาง ยี่เจินบอกว่าเธอเป็นที่ชื่นชอบและใจดี

หยาง ยี่เจิน เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว เธอบอกว่า ประโยชน์ที่เธอได้รับมากที่สุดจากการบำเพ็ญคือการกำจัดอารมณ์ที่ไม่ดีของเธอ ในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัย เธอเป็นที่ชื่นชอบและมีกิริยาสุภาพอ่อนโยน ทุกคนชอบที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอยังเด็ก หยางไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ไม่ยอมขอโทษ และเป็นคนอารมณ์ไม่ดี เธอบอกว่าเธอเปลี่ยนหลังจากที่เธอเริ่มบำเพ็ญตัวเองจริง ๆ ระหว่างเรียนปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย

หยางพบอุปสรรคในการเรียนเต้นรำที่ทำให้เธอชะงักและข้ามไปไม่ได้ เธอตระหนักว่าถึงเวลาที่เธอต้องฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างจริงจัง ในระหว่างที่เธออ่านหนังสือของฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเข้าใจว่าต้นตอของปัญหาที่ทำให้เธอก้าวข้ามไม่ได้คือเธอกังวลว่าเธอจะเต้นได้ไม่ดีพอ หรือเธออาจได้รับบาดเจ็บระหว่างเต้น เธอตระหนักว่านี่คือจิตยึดติดต่อการได้ การเสีย ชื่อเสียง และผลประโยชน์ส่วนตน การยึดติดเหล่านี้ทำให้จิตใจของเธอตึงเครียดจนเธอไม่สามารถทำเต็มที่ได้ เมื่อเธอตระหนักเช่นนี้ ความคิดของเธอก็เริ่มเปลี่ยนและร่างกายของเธอก็เบาขึ้นมาก เมื่ออ่านคำบรรยายฝ่าของอาจารย์ต่อ หยางก็พบว่า "ต้นตอของความขัดแย้งและปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวเธอเอง" เธอจึงเปลี่ยนเป็นคนที่เต็มใจที่จะยอมรับความผิดของตัวเองและยอมขอโทษ

เพื่อนร่วมชั้นของเธอทุกคนชมเชยเธอที่มีอารมณ์ดีและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หยางสังเกตว่าคำพูดและการกระทำของเธอมีอิทธิพลต่อคนรอบข้างด้วย ตอนนี้พวกเขาหลีกเลี่ยงการพูดล้อเล่นด้วยมุกลามกต่อหน้าเธอ

เรียนรู้ที่จะค้นหาจากภายใน

หลังจากผ่านไป 10 กว่าปี เฉิน หลู่หยุนได้พบต้าฝ่าอีกครั้ง

เฉิน หลู่หยุน เกิดในปี 1992 ซึ่งเป็นปีที่ต้าฝ่าเผยแพร่สู่โลก เขาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากับแม่เมื่อเขายังเด็ก หลังจากห่างหายไป 10 กว่าปี เขาได้พบต้าฝ่าอีกครั้งและเริ่มต้นเส้นทางการบำเพ็ญ

เฉินบอกว่าหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าก็ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ เขาเริ่มมองหาสนามฝึก หลังจากก้าวข้ามอุปสรรคบางอย่าง เขาก็ได้พบสนามฝึกแห่งหนึ่งในที่สุด วันนั้นเขาฝึกท่าทั้งห้าชุด

ตลอดระยะเวลาสองปีที่เฉินศึกษาและฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาค้นพบว่าอุปนิสัยหุนหันพลันแล่นและความกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของตัวเองได้เปลี่ยนไป เขาพูดว่าในอดีต "เมื่อไรที่มีความขัดแย้ง ผมจะกล่าวโทษอีกฝ่ายตลอด ตอนนี้ผมรู้ว่าต้องค้นหาปัญหาของตัวเองก่อนและค้นหาความยึดติดที่ผมต้องขจัดทิ้ง" เขาบอกว่าตอนนี้เขาคิดถึงคนอื่นก่อน และเขาไม่หุนหันพลันแล่นอีกแล้ว

เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย