(Minghui.org) ฉันย่อหย่อนในการบำเพ็ญหลังจากยุ่งอยู่กับการสอบเพื่อตำแหน่งงานของฉันและยุ่งอยู่กับงานด้วย ฉันเริ่มมีความขัดแย้งในที่ทำงาน ตอนแรกฉันจัดการกับมันเหมือนคนธรรมดาสามัญ นั่นนำไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้น

หัวหน้างานโดยตรงของฉันซึ่งเป็นหนึ่งในญาติผู้ใหญ่ของฉันด้วยแสดงความผิดหวังกับงานของฉันอย่างเปิดเผย เธอจู้จี้จุกจิกกับงานของฉันและบอกว่าฉันสื่อสารกับแผนกอื่นได้ไม่ดี ฉันเป็นคนเดียวในแผนกที่เธอเล็ง

ครั้งหนึ่งเธอพูดว่ารายงานที่ฉันทำไม่ตรงกับที่เธอขอและบอกว่าฉันไม่ฟังเธอ เธอพูดว่าเพื่อนร่วมงานของฉันเข้าใจเธอและทำรายงานได้ถูกต้อง ฉันขอสำเนารายงานจากเพื่อนร่วมงานและพบว่ามันเหมือนกันกับที่ฉันทำ ฉันนำรายงานทั้งสองฉบับไปให้หัวหน้าดูเพื่อให้เธอเห็นว่ามันเหมือนกัน แต่เธอไม่ใส่ใจและบอกให้ฉันกลับไปทำงาน

ฉันคิดว่าเธอต้องมีอคติกับฉันแน่ ๆ ฉันพยายามสื่อสารกับเธอ ทว่าสิ่งที่ฉันได้รับกลับมามีแต่คำถามและความไม่เข้าใจ ท่าทีของเธอแข็งกร้าว มันทำให้ฉันอึดอัด

ฉันไม่ตระหนักว่านี่คือบททดสอบในการบำเพ็ญที่ท่านอาจารย์จัดวางให้ฉัน ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นศิษย์ต้าฝ่าขณะมองปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นฉันจึงจัดการกับมันเช่นเดียวกับที่คนธรรมดาสามัญทำ สภาวะการบำเพ็ญของฉันค่อย ๆ แย่ลง

ในที่สุดฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันเป็นศิษย์ต้าฝ่าและฉันต้องแก้ไขความขัดแย้งในที่ทำงานเหล่านี้ ฉันต้องเปลี่ยนแปลง แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะเปลี่ยนอย่างไร ฉันศึกษาฝ่ามากขึ้นและตั้งสมาธิกับสิ่งที่อ่าน ฉันอ่านฝ่าให้ช้ากว่าเดิม อ่านทีละคำ ทีละคำ ฉันกลับมาฝึกท่าในตอนเช้า ฉันให้ความสำคัญกับการฟาเจิ้งเนี่ยนมากขึ้น จากการอ่านฝ่า ฉันค่อย ๆ เริ่มเห็นหลักการของฝ่ามากขึ้น

ท่านอาจารย์กล่าวว่า

“จิตที่ปล่อยวางไม่ได้ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ล้วนต้องให้คุณปล่อยวาง จิตยึดติดทั้งหมด ตราบใดที่คุณยังมีอยู่ ก็ต้องขจัดมันทิ้งไปในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้คุณล้มลุกคลุกคลาน อู้หลักธรรมจากในนั้น ก็คือซิวเลี่ยนมาอย่างนี้” (บทที่ 4, จ้วนฝ่าหลุน)

ฉันเข้าใจว่าสภาพแวดล้อมในที่ทำงานถูกท่านอาจารย์จัดวางให้ฉันปล่อยวางจิตยึดติดของตัวเอง ฉันพบจิตยึดติดของตัวเองเมื่อฉันทบทวนความขัดแย้งที่ฉันเคยประสบในที่ทำงานอีกครั้ง

ฉันพบว่าอารมณ์ความรู้สึกของฉันทำให้ฉันหวังว่าหัวหน้างานที่เป็นญาติของฉันจะยอมรับและชื่นชมฉัน ที่หัวหน้างานจู้จี้จุกจิกกับงานของฉันก็เพราะฉันแสวงหาความสมบูรณ์แบบและมีจิตโอ้อวด การที่เธอไม่ยอมรับฉันเป็นการแสดงให้เห็นถึงจิตแข่งขันของฉันเพราะฉันต้องการที่จะดีกว่าคนอื่น ฉันคิดว่าเธอมีอคติกับฉัน ชื่นชมคนอื่นแต่กล่าวโทษฉัน ที่จริงเป็นเพราะจิตอิจฉาของฉัน

ฉันฟาเจิ้งเนี่ยนหลายครั้งและขอให้ท่านอาจารย์เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ฉันกำจัดจิตยึดติดเหล่านี้ทิ้งไป หลังจากกำจัดจิตยึดติดของฉันออกไปได้แล้ว ทัศนคติที่เธอมีต่อฉันก็เปลี่ยนไป เธอไม่มีท่าทีแข็งกร้าวหรือดูถูกฉันอีกแล้ว และเธอก็มีน้ำใจมากขึ้นเมื่อฉันประสบปัญหาในการทำงาน

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาจัดวางเพื่อช่วยให้ฉันยกระดับในการบำเพ็ญของตัวเอง ต่อไปฉันจะศึกษาฝ่าอย่างมั่นคงกว่าเดิม และค้นหาจากภายในเมื่อพบกับความขัดแย้ง