ประสบการณ์ของผมเกี่ยวกับ “การอธิบายความจริงคือกุญแจสำคัญ”

(Minghui.org) เมื่อเผชิญกับการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) ผมฟาเจิ้งเนี่ยนและอธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้าย ด้วยการคุ้มครองของท่านอาจารย์ ผมรอดพ้นจากการประทุษร้ายหลายครั้งและบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกต้าฝ่า จากประสบการณ์เหล่านี้ ผมเห็นสิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าว :

“การอธิบายความจริงเป็นกุญแจสารพัดนึก” (“บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยนครแอตแลนต้า ปี ค.ศ. 2003” ใน รวมการบรรยายธรรมในพื้นที่ต่างๆ 4

เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกผมให้ระวัง

ผมนั่งรถไฟกลับบ้านจากเซี่ยงไฮ้เมื่อต้นปี 2019 ทันทีที่ผมขึ้นรถไฟ มีตำรวจ 2 คนเข้ามาหาผม พวกเขารู้ตัวตนของผมทันทีที่ผมซื้อตั๋วรถไฟ พวกเขาเริ่มค้นข้าวของของผม และในไม่ช้าก็พบหนังสือต้าฝ่าฉบับอิเล็กทรอนิกส์ในแท็บเล็ต ขณะที่พวกเขาพาผมลงจากรถไฟ ผมถามพวกเขาว่า “คุณรู้ระเบียบข้อบังคับสำหรับตำรวจที่ทำผิดไหม” หนึ่งในนั้นถามว่าทำไม ผมตอบว่าระเบียบข้อบังคับระบุว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามคำสั่งที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เขาจะต้องรับผิดชอบตลอดชีวิตแม้จะมีการย้ายตำแหน่ง ย้ายที่ทำงาน หรือเกษียณแล้วก็ตาม

เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ผมที่สุดพูดว่า “นี่มาจากฝ่าหลุนกงของคุณหรือเปล่า” ผมตอบว่า “ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณจะบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร หากคุณไม่รู้ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการบังคับใช้กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับนี้ถูกกำหนดโดย [ประธานาธิบดีจีน] สี จิ้นผิง เพื่อพวกคุณ” เขาดูประหลาดใจ

เมื่อเราไปถึงห้องทำงานของตำรวจรถไฟ มีคนเชื่อมต่อแท็บเล็ตของผมเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบ ผมนั่งบนโซฟากับคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกเขา และผมถือโอกาสอธิบายความจริงให้เขาฟัง ผมพูดว่า “รัฐบาลชุดนี้กำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องจริง ๆ มันเพิกเฉยต่อเรื่องผิดกฎหมายและอาชญากรรรมมากมาย และลงโทษเฉพาะคนดีและคนที่ปฏิบัติตามความจริง-ความเมตตา-ความอดทนเท่านั้น การมีคนดีมากขึ้นไม่ดีหรือ ทำไมรัฐบาลจึงกลัวคนดี”

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ถามผมว่า “ฝ่าหลุนกงมีเรื่องอะไร” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจประเด็นนี้จริง ๆ ผมจึงบอกเขาว่า “ฝ่าหลุนกงต้องการให้ผู้ฝึกเป็นคนดีตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน” เขาถามอีกครั้งว่าหลักการเหล่านี้เกี่ยวกับอะไร ผมบอกเขาว่า “พูดง่าย ๆ ก็คือ ความจริงหมายถึงพูดความจริง ทำสิ่งที่เป็นจริง บำเพ็ญธรรมชาติที่แท้จริงของตนเอง ไม่พูดเท็จ ความเมตตาหมายถึงการมีเมตตาต่อผู้อื่น ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความดีงาม และไม่ทำสิ่งชั่วร้าย ความอดทนหมายถึงการอดทนและให้อภัยเมื่อเผชิญกับความขัดแย้ง คุณไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้ดีหรือ” เขาตอบว่าใช่

ผมพูดต่อว่า “ดูสิ กลุ่มคนที่ดีและจิตใจดีอย่างนี้ แต่รัฐบาลกลับต้องการปราบปรามและประทุษร้ายพวกเขา คุณไม่คิดว่ามันผิดปกติหรือ” เขาบอกว่าใช่ เราคุยกันสักพัก แล้วเขาก็เดินไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ ถามเจ้าหน้าที่ที่กำลังดูคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับสถานการณ์ แล้วพูดว่า “ไปหาคนคนนี้ แล้วซื้อตั๋วรถไฟให้เขากลับบ้าน” เมื่อชายคนนั้นมาถึง หัวหน้าตำรวจก็พูดว่า “ให้ตั๋วเขาไป”

ก่อนผมออกมา หัวหน้าตำรวจบอกผมว่า “ออกไปแล้วให้ระวังตัว ถ้าคุณมีปัญหาก็กลับมา” ผมขอบคุณเขาและบอกพวกเขาว่าจะต้องปฏิบัติต่อผู้ฝึกให้ดีในอนาคต แล้วพวกเขาจะได้รับพร ด้วยวิธีนี้ โดยการอธิบายความจริง ผมได้แยกสลายการประทุษร้ายที่จัดวางโดยอิทธิพลเก่า

ตำรวจปล่อยตัวผม

ภรรยาของผมถูกจับและถูกตัดสินโทษในข้อหาพูดเรื่องการประทุษร้ายให้คนอื่นฟัง ผมไปที่เรือนจำหญิงประจำมณฑลเพื่อเยี่ยมเธอ และผมมีแผนว่าจะนั่งรถไฟกลับบ้าน ตอนที่ผมกำลังจะขึ้นรถไฟที่สถานี ตำรวจนอกเครื่องแบบสองคนก็หยุดผม และถามผมว่า “คุณนามสกุลหลิวหรือเปล่า” ผมบอกว่าใช่ พวกเขาบอกให้ผมไปกับพวกเขา ผมถามว่าทำไม พวกเขาแค่บอกว่าให้ไปกับพวกเขา พวกเขาพาผมไปที่ห้องทำงานของเจ้าหน้าที่การรถไฟ ซึ่งเป็นห้องเล็ก ๆ มีโต๊ะ 1 ตัว เรานั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะ พวกเขาค้นกระเป๋าเดินทางของผมและพบเครื่องเล่นเสียงขนาดเล็กหนึ่งเครื่องที่ผมเคยใช้ฟังคำสอนของท่านอาจารย์ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคนหนึ่งพูดว่า “คุณรู้ไหมว่ารัฐบาลไม่อนุญาตให้ประชาชนฝึกฝ่าหลุนกง”

ผมพูดว่า “ผมรู้ แต่การสั่งห้ามของ CCP ไม่ได้หมายความว่าฝ่าหลุนกงผิดกฎหมาย คนที่ฝึกฝ่าหลุนกงเป็นคนดีทุกคน พวกเขาปฏิบัติตามความจริง-ความเมตตา-ความอดทน พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่จิตใจดีจริง ๆ การปราบปรามฝ่าหลุนกงของ CCP ต่างหากที่เป็นปัญหา”

เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกคนหนึ่งถามผมว่า “คุณเชื่อพรรคคอมมิวนิสต์หรือฝ่าหลุนกง” “แน่นอน ผมเชื่อในฝ่าหลุนกง” ผมพูดอย่างแน่วแน่ เขาพูดว่าผมต้องเชื่อพรรคคอมมิวนิสต์ ผมพูดต่อว่า “การที่ CCP ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงคือความผิด มันทำชั่ว และคุณยังต้องการให้ผมเชื่อมัน นั่นเป็นไปได้หรือ”

ชายสองคนนี้เห็นว่าพวกเขาไม่สามารถโน้มน้าวผมได้ หลังจากคุยกันเสร็จ พวกเขาก็ยืนขึ้นและบอกให้ผมไปกับพวกเขา ผมถามว่าเรากำลังจะไปไหน พวกเขาบอกว่าไปสถานีตำรวจ ผมตระหนักว่าพวกเขาวางแผนจะพาผมไป ผมเลยรีบพูดไปว่า “ผมไปกับคุณไม่ได้ ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือก่ออาชญากรรมใด ๆ ทำไมผมต้องไปกับคุณด้วย”

เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบทั้งสองคนดูประหลาดใจ มองหน้ากัน แล้วพยายามดึงผม เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังใช้กำลังบังคับ ผมจึงมีความคิดอย่างหนึ่ง—ผมจะไปสถานีตำรวจเพื่ออธิบายความจริง ผมเดินไปกับพวกเขาประมาณสิบก้าวก็ได้ยินคนหนึ่งพูดว่า “ขึ้นรถไฟ !” ผมอึ้งไปชั่วขณะแล้วมองไปรอบ ๆ ไม่มีรถไฟขบวนอื่นนอกจากขบวนที่กำลังจะปิดประตูและออกรถ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบทั้งสองคนพูดอีกครั้งว่า “เร็วเข้า ขึ้นรถไฟ รถไฟกำลังจะออกแล้ว” ผมจึงได้รู้ว่าพวกเขาต้องการให้ผมขึ้นรถไฟกลับบ้าน

“ผมชื่นชมความเชื่อของคุณ”

ผมไปเยี่ยมภรรยาที่ถูกจำคุกอย่างผิดกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2018 ผมถูกตำรวจสถานีรถไฟกักตัวไว้ในห้องรอ พวกเขาเอากุญแจของผมไป ไปที่บ้านของผม นำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับต้าฝ่าทั้งหมดไป และพาผมไปที่ศูนย์กักกันของอำเภอ ผมฝึกท่าเมื่อตื่นนอนตอนเช้า แต่หัวหน้าผู้ต้องขังเข้ามาหยุดผมและด่าว่าผม ผมพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ผมไม่ได้ก่ออาชญากรรม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำ”

เมื่อเขาเห็นว่าผมไม่ยอมฟัง เขาจึงพูดอย่างดุร้ายว่า “โอ้ คุณแข็งแกร่งมาก คุณไม่ใช่นักโทษ ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่” ผมพูดว่า “ผมถูกพามาที่นี่เพราะผมเป็นคนดี ผมฝึกฝ่าหลุนกงและเรากำลังถูกประทุษร้าย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายและผมไม่ควรอยู่ที่นี่”

เขาจ้องมองมาที่ผมแล้วพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีก วันนี้ผมจะไม่ให้คุณฝึก” ผมบอกเขาว่าเขาควบคุมผมไม่ได้ เขาจ้องมองผมเหมือนเขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง ผมเตือนเขาว่าอย่าแตะต้องผม เพราะผมไม่กลัวเขา เขาจึงได้แต่ด่าทอแต่ไม่ได้ทำอะไร ผมยังคงฝึกท่าต่อไป

ตำรวจออกตรวจตราห้องขังทุกเช้า ผู้กำกับยืนอยู่ที่ประตูแล้วเรียกผมเข้าไปพบ เขาพูดว่า “รัฐบาลไม่อนุญาตให้ฝึกฝ่าหลุนกง คุณต่อต้านรัฐบาลไม่ได้ คุณต้องเชื่อฟัง” ผมพูดว่า “ไม่ใช่รัฐบาลที่ไม่อนุญาตให้ฝึกฝ่าหลุนกง แต่เป็นเจียงเจ๋อหมินที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดและใช้กลไกของรัฐทั้งหมดเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกง”

เขาพูดว่า “คุณไม่สามารถต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์” ผมพูดว่า “รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายพื้นฐานของประเทศ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าไม่มีองค์กรใดหรือบุคคลใดในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้รับสิทธิพิเศษเหนือรัฐธรรมนูญ CCP เป็นองค์กรหนึ่งและเจียง เจ๋อหมินเป็นเพียงบุคคลหนึ่ง พวกเขาฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ การประทุษร้ายคนดีคืออาชญากรรมที่แท้จริง เราไม่ต่อต้านใครและก็ไม่ต่อต้านพรรคด้วย เราเพียงแค่บอกผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้าย เพื่อให้พวกเขาไม่ทำตามพรรคในการทำเรื่องชั่วและทำอันตราย”

เมื่อเห็นว่าผมอธิบายสถานการณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว ผู้กำกับจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพูดเก่งจริง ๆ ผมโน้มน้าวคุณไม่ได้” หัวหน้าผู้ต้องขังบอกผู้กำกับว่าผมฝึกท่า ผู้กำกับพูดว่า “อย่ากังวลเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง”

ในวันที่ 8 ของการกักขังอย่างผิดกฎหมาย หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงสาธารณะการรถไฟสอบปากคำผม เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่พาผมไปเรือนจำนั่งอยู่ข้างหลังเขา เขาถามชื่อ อายุ และอาชีพของผม ผมถามเขาว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหรือไม่ เขาบอกว่าใช่

ผมพูดว่า “เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควรปฏิบัติตามกฎหมายใช่ไหม” เขาบอกว่าใช่ ผมถามว่า “แล้วเอกสารทางกฎหมายของคุณล่ะ แล้วข้อกำหนดที่มีผลทางกฎหมายล่ะ คุณไม่มีอะไรเลย หลายปีที่ผ่านมา ทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเป็นการทำผิดกฎหมาย คุณจับกุม กักขัง ตัดสิน และส่งผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนนับไม่ถ้วนไปยังค่ายแรงงาน และกระทั่งประทุษร้ายพวกเขาจนเสียชีวิต คุณคืออาชญากรที่แท้จริง ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับความรับผิดชอบของตำรวจในกรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมายผิดพลาดกำหนดว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามคำสั่งที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เขาจะต้องรับผิดชอบตลอดชีวิต ไม่ว่าจะย้ายตำแหน่ง ย้ายที่ทำงาน หรือเกษียณแล้ว นี่คือกฎที่สี จิ้นผิง กำหนดขึ้นสำหรับคุณ ฝ่าหลุนกงไม่ใช่ลัทธิ ข้อกล่าวหานี้เป็นเพียงสิ่งที่เจียงเจ๋อหมินปั้นขึ้นมาเพื่อตอบคำถามของนักข่าวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง หนังสือพิมพ์และนิตยสารรายใหญ่ทั่วประเทศก็เผยแพร่ซ้ำ ๆ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ใส่ความฝ่าหลุนกงเช่นกัน

“การบังคับใช้กฎหมายในขณะที่ละเมิดกฎหมายคือการกระทำที่ผิดกฎหมาย ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าหากข้าราชการดำเนินการตามคำสั่งที่ผิดกฎหมาย เขาจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณยังคงประทุษร้ายฝ่าหลุนกงต่อไป คุณก็กำลังฝ่าฝืนกฎหมายและประทุษร้ายคนที่จิตใจดี คุณจะทำอย่างไรเมื่อในวันหนึ่งฝ่าหลุนกงได้รับการพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับลูก ๆ ของคุณ ถ้าไม่คิดถึงตัวเอง คุณก็ควรคิดถึงอนาคตของภรรยาและลูก ๆ การพบกันของเราเป็นเพราะชะตากรรมกำหนด ถ้าผมไม่บอกคุณเรื่องนี้ ผมจะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณ คิดให้รอบคอบ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมเพิ่งพูด ผมหวังอย่างจริงใจว่าคุณจะได้รับการช่วยเหลือในอนาคต”

หลังจากได้ยินสิ่งที่ผมพูด ชายคนนี้ก็เก็บแฟ้มของเขาและพูดว่า “ไม่ว่าผมจะเชื่อในศรัทธาของคุณหรือไม่ ไม่ว่าผมจะสนับสนุนศรัทธาของคุณหรือไม่ ผมก็ชื่นชมศรัทธาของคุณ” เขายกนิ้วให้

หลังจากที่เขาออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร” ผมเห็นเธอจริงใจ ผมจึงพูดว่า “ถ้าคุณต้องการช่วยผมจริง ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกของพรรคหรือองค์กรในเครือก็ลาออกจากองค์กรเหล่านี้ตอนนี้เลย เมื่อ CCP ล่มสลายโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณจะปลอดภัย—นั่นคือวิธีที่คุณช่วยผมได้” เธอพูดว่า “ขอบคุณคะ !”

“ปล่อยเขาไป”

ขณะที่ผมทำงานในซานตงในปี 2018 ผมไปละแวกบ้านเพื่อแจกเอกสารอธิบายความจริง ฝ่ายจัดการทรัพย์สินของชุมชนพบผมและปิดกั้นทางเข้าอาคารแห่งหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทำความสะอาดอาคารเดินเข้ามาหาพร้อมกับถือแผ่นพับอธิบายความจริงอยู่ในมือและยื่นให้ชายคนนั้น เขาพูดว่า “คุณกล้าโพรโมตฝ่าหลุนกงได้อย่างไร คุณทำอย่างนี้หรือ” ผมบอกว่าใช่ ชายคนนั้นพูดว่า “รัฐบาลกำลังปราบปรามฝ่าหลุนกง คุณกล้าต่อสู้กับรัฐบาลหรือ !”

ผมพูดว่า “ฝ่าหลุนกงสอนให้คนมีจิตใจดี การปราบปรามคนดีของรัฐบาลนั้นขัดต่อกฎธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ผิด ใครก็ตามที่ปฏิบัติตามและมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายกำลังก่ออาชญากรรม” ชายคนนั้นถามผมว่าทำไมจึงแจกแผ่นพับ ผมพูดว่า “ผมแนะนำคนที่ผมรู้จักไม่ให้ทำผิด มีคนมากมายที่ผมไม่รู้จัก ดังนั้นผมจึงแจกเอกสารที่พวกเขาสามารถอ่านและเข้าใจความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ของคุณเอง”

เขาปฏิเสธที่จะฟังและคว้าตัวผมไว้ ผมดิ้นอย่างแรง และเมื่อเขาเห็นว่าเขาดึงผมไว้ไม่ได้ เขาจึงเรียกผู้ชายอีกคนหนึ่งมา หลังจากที่เราไปถึงสำนักงาน เขาก็เริ่มโทรศัพท์ ผมคิดว่าเขาโทรไม่ติด ชายคนนั้นโทร 2 หรือ 3 ครั้งแต่ก็โทรไม่ติด ผมพูดว่า “อย่ากังวลเลย เราติดต่อกับตำรวจบ่อย ๆ พวกเขาไม่ใส่ใจ เราแค่พยายามทำให้โลกรู้ว่าฝ่าหลุนกงคืออะไร การประทุษร้ายฝ่าหลุนกงของ CCP ไม่ถูกต้อง ประชาชนไม่ควรปฏิบัติตามอย่างไม่ลืมหูลืมตาและทำสิ่งที่ไม่ดี โปรดอ่านเนื้อหาเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนแล้วคุณจะเข้าใจ” ขณะที่ผมพูดคุย ชายคนนั้นก็พยายามโทรหาคนอื่นอยู่เรื่อย ๆ

อีกคนหนึ่งอ่านแผ่นพับแล้วพูดว่า “คุณรู้ไหม สิ่งที่พวกเขาพูดสมเหตุสมผล” ในเวลานั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการทรัพย์สินก็โทรติด และดูเหมือนเป็นหัวหน้าของพวกเขา ชายคนนั้นพูดว่าเขาจับผู้ฝึกฝ่าหลุนกงได้ หัวหน้าถามว่าเขาเอาอะไรไว้หรือไม่ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เอาอะไรไป ผมรู้ว่าท่านอาจารย์กำลังช่วยผม ผู้ชายคนที่กำลังอ่านแผ่นพับบอกกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ”

ผมพูดว่า “ดูสิ ผู้ฝึกไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ รัฐบาลต่างหากที่ผิด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครอยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าคุณเจอผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอีกในอนาคต อย่าจับพวกเขา แล้วคุณจะโชคดี”

ตำรวจปล่อยตัวผม

CCP เริ่มบังคับให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงลงนามในคำแถลง 3 ฉบับในปี 2022 ตำรวจเป็นผู้นำในการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทั่วทุกอำเภอ การก่อกวน เช่น การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การเยี่ยมบ้าน และการเคาะประตู เกิดขึ้นหลายครั้ง และบรรยากาศก็น่ากลัว วันหนึ่ง เคา กันจี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีที่ดูแลพื้นที่ของเราโทรมาหาผมและขอคุยกับผม ผมคิดว่า “ผู้ฝึกคนหนึ่งบอกว่าตำรวจวางแผนที่จะรื้อค้นบ้านของผม ผมต้องเก็บหนังสือต้าฝ่า และสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องออกไป และไม่ปล่อยให้พวกชั่วร้ายเอาหนังสือไป” ดูเหมือนว่าผมกำลังคิดถึงเรื่องความปลอดภัย แต่เมื่อผมคิดอย่างถี่ถ้วน ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นผมจึงค้นหาจากภายใน ผมกลัวการประทุษร้าย และผมลืมภารกิจในฐานะศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเจิ้งฝ่าเพื่อช่วยท่านอาจารย์ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต ความคิดเรื่องความปลอดภัยของผมเกิดจากความคิดของมนุษย์

บ่ายวันนั้นผมโทรไปที่สถานีตำรวจและบอกว่าผมจะไปที่นั่น ผู้กำกับพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณมีความเชื่อของคุณ มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่หัวหน้างานมอบหมายงานให้ผม โปรดเข้าใจด้วย หลังจากที่คุณลงนามในคำแถลงแล้ว คุณจะกลับบ้านเพื่อศึกษาและฝึกตามความเชื่อของคุณก็ได้ตามที่คุณต้องการ ไม่มีใครสนใจ ผมยุ่ง”

ผมยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าผมลงนามในคำแถลงโดยสัญญาว่าจะไม่ฝึก แต่ยังฝึกต่อไปหลังจากกลับบ้าน นั่นก็จะเป็นการโกหกหลอกลวงประชาชนไม่ใช่หรือ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลปกติและเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายควรทำหรือ พวกเราผู้ฝึกฝ่าหลุนกงล้วนเป็นคนดีและปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน เราจะโกหกได้อย่างไร CCP ไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่จะประทุษร้ายฝ่าหลุนกงได้ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ถ้าผมลงนามในคำแถลงจริง ๆ ผมจะไม่ใช่คนดี ผมจะทำร้ายคุณ การประทุษร้ายคนดีคืออาชญากรรม ดังนั้นผมจึงไม่สามารถลงนามในคำแถลงได้” เขาไม่ได้ขอให้ผมลงนามในคำแถลงอีกเลย

ไม่กี่วันต่อมา สถานีตำรวจก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ผมถูกพาไปที่ห้องประชุม ผู้บังคับการทางการเมืองของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ หวัง เหวินหู จากกองพันความมั่นคงภายในประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองคนเดินเข้ามาและนั่งลงตรงข้ามกับผม ผู้บังคับการทางการเมืองพูดว่า “บอกเราถ้าคุณมีปัญหา เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือคุณ”

ผมรู้ว่าความห่วงใยของพวกเขาเป็นของปลอม และพวกเขาต้องการหลอกลวงผม ถ้าผมหวั่นไหว พวกเขาก็จะใช้ทุกวิธีเพื่อให้ผมลงนามในคำแถลงและละทิ้งความเชื่อของผม ผมพูดว่า “ภรรยาของผมถูกตัดสินให้จำคุกอย่างผิดกฎหมาย คุณคิดว่าคุณจะแก้ปัญหานี้ได้หรือ” ผู้บังคับการทางการเมืองพูดทันทีว่า “เราไม่สามารถช่วยคุณในเรื่องนี้ได้”

ผมพูดว่า “คุณกำลังคุกคามผม บอกผมสิว่าผมละเมิดกฎหมายใดและผมก่ออาชญากรรมใด หลายปีที่ผ่านมา CCP ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงโดยไม่มีเอกสารทางกฎหมายหรือข้อกำหนดทางกฎหมายใด ๆ นี่ไม่ใช่การทำผิดกฎหมายในขณะที่บังคับใช้กฎหมายอยู่หรือ ภรรยาของผมถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิต และครอบครัวของผมก็แตกสลาย”

ผู้บังคับการทางการเมืองพูดเสียงอ่อนลงว่ามีข้อกำหนดอยู่ ผมพูดว่า “เช่นนั้นก็แสดงให้ผมดูสิ” “คุณไม่สามารถแสดงมันได้เพราะว่าไม่มี แต่ผมสามารถแสดงหลักฐานว่าฝ่าหลุนกงไม่ได้ละเมิดกฎหมายใด ๆ”

ผมพูดว่า “มันเป็นโชคชะตาที่พวกคุณทุกคนนั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้ ผมไม่มีความบาดหมางกับพวกคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากข้างบน พวกคุณก็ไม่มีใครจะรบกวนผม ใช่ไหม คุณรู้ว่าในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ประธานหลิว เซาชี ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เป็นคนงานทดแทนคนงานที่นัดหยุดงาน และเป็นสายลับ เขาถูกโค่นล้มแล้วถูกทรมานจนเสียชีวิต นั่นคือพฤติกรรมของ CCP ใช่ไหม หลังจากที่เขาได้รับการพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์แล้ว มันก็พูดว่าเป็นความผิดพลาด มันเป็นความผิดของใคร ความผิดของ CCP แต่ใครกล้าพูดว่ามันเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลในขณะนั้นล่ะ การประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่ CCP ทำเช่นกัน ไม่มีเอกสารทางกฎหมายหรือข้อกำหนดของเรื่องนี้ ถ้าคุณมีส่วนร่วมในการประทุษร้าย คุณก็กำลังก่ออาชญากรรมด้วยไม่ใช่หรือ คนที่ประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมจะต้องชดใช้ผลกรรมในภายหลัง และคนที่ช่วยเหลือเหยื่อที่รับเคราะห์จะได้รับพร ผมหวังว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้จะอยู่ให้ห่างจากความชั่วร้าย ระวังมโนธรรมของคุณ และจะได้รับพรในอนาคต”

หนึ่งในพวกเขาพูดว่า “คุณเป็นคนมีวาทศิลป์ คุณควรเป็นอาจารย์” จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษและปากกาออกมายื่นให้ผมแล้วพูดว่า “เราไม่สามารถบังคับคุณได้ ถ้าคุณไม่ต้องการลงนาม ก็แค่เขียนสิ่งที่คุณคิด โอเคไหม” ผมแค่เขียนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผม ครอบครัวของผม และสังคมได้รับจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ประโยคสุดท้ายที่ผมเขียนคือ “ผมคิดว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าคือแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องที่สุดในจักรวาล”

ผมบอกว่าต้องไปงานแต่งงานของเพื่อน ไม่เช่นนั้นผมจะสาย เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดว่า “คุณอาจจะออกไปไม่ได้” ผมพูดว่า “ทำไมคุณถึงอยากให้ผมอยู่ที่นี่ คุณไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย” หัวหน้าทีมเดินเข้ามาแล้วผมพูดทันทีว่า “ผมต้องไปงานแต่งงานตอนนี้แล้ว ผมหวังว่าคุณจะจำสิ่งที่ผมพูดในวันนี้ได้ ผมไม่อยากให้คุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องทนทุกข์เมื่อความจริงเกี่ยวกับ CCP ถูกเปิดเผย” เขาตะลึงอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้วพูดกับเจ้าหน้าที่ที่พูดว่าผมอาจจะออกไปไม่ได้ว่า “ให้ขับรถพาเขาไปงานแต่งงาน”

ผู้ชายคนที่พาผมไปสถานีตำรวจเปลี่ยนน้ำเสียงทันทีและพูดว่า “กลับบ้านไปจัดเก็บของนะ เราจะไปตรวจค้นบ้านของคุณในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ให้ระวังด้วย” ผมพูดว่า “คุณพูดถูก คุณต้องปฏิบัติต่อศิษย์ต้าฝ่าให้ดี คุณยุ่ง ดังนั้นคุณไม่ต้องขับรถไปส่งผมหรอก” ผมจะขี่จักรยานไปที่นั่น ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครขอให้ผมลงนามในคำแถลงใด ๆ อีก