(Minghui.org) ผู้ฝึกชาวเยอรมันจัดสัมมนาฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นเวลา 9 วันติดต่อกันที่แฟรงก์เฟิร์ต เบอร์ลิน มิวนิก มันน์ไฮม์ และเบรเมิน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลก และสิ้นสุดในปลายเดือนพฤษภาคม การสัมมนาเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมได้ฟรี เช่นเดียวกับทุกกิจกรรมของฝ่าหลุนต้าฝ่า

สัมมนาฝ่าหลุนต้าฝ่า 9 วัน ที่กรุงเบอร์ลิน

ผู้เข้าร่วมสัมมนากำลังดูวิดีโอการบรรยายของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อ ระหว่างการสัมมนาฝ่าหลุนต้าฝ่าในกรุงเบอร์ลิน

ในระหว่างการสัมมนา 9 วัน ผู้จัดงานได้เปิดวิดีโอของผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า (อาจารย์หลี่หงจื้อ) ซึ่งเป็นการบรรยายที่ท่านสอนฝ่าหลุนต้าฝ่าในประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 1990 พวกเขาได้แสดงท่าฝึกให้ทุกคนดูและกระตุ้นให้ทุกคนพูดถึงประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้

ผู้เข้าร่วมสัมมนาบางคนยังใหม่กับฝ่าหลุนต้าฝ่า ส่วนที่เหลือเป็นผู้ฝึกที่ค่อนข้างใหม่ที่ฝึกมาแล้วช่วงสั้น ๆ ผู้เข้าร่วมหลายคนบอกว่าขณะดูวิดีโอการบรรยายของอาจารย์หลี่หงจื้อ พวกเขารู้สึกว่าอาณาจักรของจิตวิญญาณของพวกเขายกระดับสูงขึ้น สุขภาพของหลายคนก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน พวกเขาบอกว่าพวกเขารู้สึกถึงพลังงานที่แรงกล้าในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ พวกเขายังบอกด้วยว่าจะเข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่าในท้องถิ่นและจะเริ่มบำเพ็ญอย่างจริงจังและขยันขันแข็ง

เบรเมิน

มาร์ตินาเป็นผู้ฝึกใหม่ที่มาช่วยจัดงาน เธอพูดว่า “ฉันไม่ได้ตระหนักว่าการเข้าร่วมกิจกรรมนี้จะส่งผลต่อฉันขนาดนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันได้เข้าสู่ขั้นใหม่ในการฝึกของฉัน”

เธออธิบายว่าแม้เธอจะเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อสามปีที่แล้ว แต่เธอก็ไม่เคยดูวิดีโอการบรรยายของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อทุกวันเหมือนที่เธอได้ดูในการสัมมนา 9 วัน เมื่อดูการบรรยายจบ ทุกคนจะฝึกท่า เธออธิบายว่า “ฉันรู้สึกว่ามีฝ่าหลุนในทุกเซลล์ของร่างกายของฉัน หมุนเร็วมาก หมุนอย่างทรงพลังจนเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของฉันดูเหมือนสั่นสะเทือน ความรู้สึกนี้แรงกล้ามาก”

มาร์ตินามีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความเมตตาด้วย เธอพูดว่า “ฉันอยากจะเข้าใจว่าความเมตตาจริง ๆ แล้วหมายถึงอะไร และมันคืออะไร ที่นี่ (ในชั้นเรียน 9 วัน) ฉันสัมผัสได้ ใจของฉันเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา และทุกคนที่ฉันติดต่อด้วยก็เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาโดยไม่มีข้อยกเว้น ฉันตระหนักได้ว่าความเมตตานั้นอยู่เหนือขอบเขตจิตใจของมนุษย์ และเป็นสภาวะที่งดงามเกินกว่าจะพรรณนาได้ แม้หลังจากกลับบ้านและอยู่ใกล้สามี ฉันก็ยังรู้สึกถึงสภาวะความสงบอยู่”

ซูซานเป็นผู้ฝึกใหม่อีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมการสัมมนา 9 วันในเมืองเบรเมินด้วย ไม่กี่เดือนก่อน เธอได้เรียนรู้ท่าการเคลื่อนไหวของฝ่าหลุนกงทางออนไลน์ ในช่วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์หลังการบรรยาย เธอพูดว่าจากการสัมมนา 9 วัน เธอค่อย ๆ เข้าใจความหมายของคำว่า “ความอดทน” ยกตัวอย่างเช่น เธอเคยขับรถอย่างหุนหันพลันแล่น ถ้าเธอคิดว่าคนที่เดินผ่านไปมาหรือรถคันอื่นเสียมารยาทและมีผลต่อเธอ เธอจะตะโกนใส่พวกเขาออกมาทางหน้าต่างรถ ในระหว่างการสัมมนา 9 วัน เธอตระหนักได้ว่าเธอเริ่มควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้และนึกถึงผลที่ดีต่อคนอื่นก่อนที่จะทำ

เบอร์ลิน

โอยาซึ่งเป็นนักสังคมศึกษาเคยอ่านหนังสือจ้วนฝ่าหลุนทางออนไลน์มาก่อนเข้าร่วมชั้นเรียน 9 วันในกรุงเบอร์ลิน เธอเล่าว่า “ฉันโตมาในครอบครัวชาวตุรกีที่เข้มงวดมากและต้องเผชิญกับกฎเกณฑ์มากมาย ฉันไม่ต้องการปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ ฉันชอบปาร์ตี้ด้วย และเหมือนสาวเยอรมันที่แสวงหาอิสระส่วนบุคคล ฉันนึกหวังในใจว่าจะไม่ถูกจำกัดอิสรภาพ”

เธอเล่าประสบการณ์ของเธอว่า “ขณะอ่านฝ่า ฉันรู้สึกอึดอัดเมื่ออ่านประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำบางคำ เช่น ‘ไม่อนุญาต’ ‘ห้าม’ เป็นต้น ฉันรู้สึกว่าคำสอนเหล่านี้จริงจังและยากที่ฉันจะยอมรับ” ในฐานะผู้หญิงที่แสวงหาอิสระส่วนบุคคล น้ำเสียงที่เข้มงวดที่เธอคิดว่าเธอได้ยินขณะอ่านหนังสือกลายเป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าของเธอ หลังจากดูวิดีโอที่ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อสอนฝ่า การรับรู้ของเธอก็เปลี่ยนไป “ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อได้ยินท่านอาจารย์พูดบรรยายฝ่าและได้เห็นหน้าท่านอาจารย์ในวิดีโอ” และ “ฉันทราบได้ว่าท่านอาจารย์กำลังพูดความจริง”

หลังจากฟังการบรรยายมาหลายวัน โอยาก็มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับคำว่า "อิสระเสรี" เธอพูดว่า “ฉันตระหนักได้ว่าถ้าหากสิ่งที่ฉันต้องการคืออิสระเสรี การได้รับการช่วยเหลือก็คืออิสระเสรีที่แท้จริง ละทิ้งความทุกข์ทรมานของโลกมนุษย์ตลอดไป ฉันรักอิสระเสรี ดังนั้นฝ่าหลุนต้าฝ่าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฉัน”

โอยาพูดถึงอุปสรรคที่เธอรู้สึกเมื่อเริ่มอ่านหนังสือจ้วนฝ่าหลุน “ความคิดเหล่านั้นขัดขวางฉันไม่ให้ได้รับความจริง” “ฉันทราบว่าท่านอาจารย์กำลังพูดความจริง และนั่นคือสิ่งที่ฉันเข้าใจในทันที”

โอยายังซื้อหนังสือเล่มหลักของฝ่าหลุนต้าฝ่าคือ “จ้วนฝ่าหลุน” ด้วยตอนที่เข้าร่วมสัมมนา 9 วัน และบอกว่าเธออยากบำเพ็ญต่อไป “เมื่อฉันตัดสินใจแล้ว ฉันก็ไม่พบความยากลำบากอีก”

แฟรงก์เฟิร์ต

บินห์เป็นผู้หญิงชาวเวียดนามอายุ 17 ปี หลังจากได้รับแผ่นพับของสัมมนา 9 วัน เธอก็สมัครทันที ในช่วงเก้าวัน เธอได้ฟังคำสอนของท่านอาจารย์หลี่หงจื้ออย่างตั้งใจ และรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ระหว่างช่วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในวันสุดท้าย เธอบอกว่าเธอเป็นโรคนอนไม่หลับมาหลายปีแล้ว แต่ตั้งแต่เข้าร่วมสัมมนา 9 วัน คุณภาพการนอนหลับของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนอนหลับได้ดีขึ้น เธอจึงไม่รู้สึกเหนื่อยระหว่างวันอีกเลย อาการปวดมือและปวดไหล่ที่เธอเป็นมานานแล้วก็ลดลงมากเช่นกัน บินห์พูดว่าต่อไปเธอจะเข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่าในท้องถิ่นอย่างสม่ำเสมอ

แมรี-หลุยส์ ผู้ฝึกใหม่พูดว่าเธออยากเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังจากที่ได้เข้าร่วมสัมมนา 9 วันในแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อพูดถึงความรู้สึกจากการเข้าร่วมสัมมนา 9 วัน เธอบอกว่ารู้สึกประทับใจมาก เธอรับรู้ได้ว่าเธอต้องฟังฝ่าที่ท่านอาจารย์พูดอย่างตั้งใจทุกคำ ในเวลาเดียวกันเธอรู้สึกถึงความเมตตาของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าทุกคน และบอกว่าเธอจะเข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่าในท้องถิ่นต่อไป