[บทความนี้อยู่ในหนังสือ Hearts and Minds Uplifted--The Power of Falun Dafa ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกโดยบรรณาธิการ Clearwisdom ในปี 2006 เรื่องสั้นในหนังสือเล่มนี้เขียนโดยผู้คนทุกวัย จากหลายประเทศ และจากทุกสาขาอาชีพ ทุกเรื่องเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็มีสาระเดียวกัน นั่นคือการเติบโตทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมาจากการฝึกฝ่าหลุนกง]
ผมอยู่ในสหรัฐอเมริกามานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้เมื่อผมมองย้อนกลับไป ผมตระหนักว่าผมประสบกับความยากลําบากในช่วงหนึ่งปีนี้มากกว่าทุกปีนับตั้งแต่ผมเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1995 ผมรู้สึกโชคดีที่ได้พบกับความยากลําบากเหล่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นผมจะไม่สามารถยกระดับซินซิ่งของตัวเองได้
ผมเป็นช่างเทคนิคในบริษัทของผม ความรับผิดชอบของผมคือการประกอบและทดสอบอุปกรณ์ micro-thermal ประเภทต่าง ๆ ในช่วงแรก ทุกอย่างในบริษัทเป็นเรื่องใหม่สําหรับผม และผมต้องเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน ผมรู้สึกว่าผมถูกปฏิบัติเหมือนเด็กฝึกงาน ผมถูกสั่งให้ทํางานจิปาถะทุกชนิดที่ไม่มีใครอยากทํา ผมต้องอดทนต่อความไม่อดทนของคนอื่นด้วย ทุกครั้งที่ผมเจอสิ่งใหม่ ๆ ผมต้องถามคนอื่น ถ้าผมถามมากเกินไป พวกเขาจะหมดความอดทน หรือถ้าพวกเขาอารมณ์ไม่ดีอยู่ พวกเขาก็จะหงุดหงิดง่าย
ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันมีขั้นตอนการประกอบที่แตกต่างกัน หากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาบางอย่างเมื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจทําให้บริษัทเสียหายใหญ่หลวงได้
ในช่วงเวลาหนึ่ง ผมทําผิดพลาดบ่อยมาก บางอย่างผิดพลาดอยู่เสมอ กระทั่งในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล บางครั้ง แม้ว่าผมจะปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างดีและได้รับไฟเขียวจากเพื่อนร่วมงานแล้ว แต่ผลที่ได้ก็ยังน่าผิดหวัง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผมได้รับคำวิจารณ์ที่รุนแรงมากมายจากหัวหน้าห้องปฏิบัติการ ซึ่งทําให้ผมเสียใจมาก ผมคิดในใจว่า "ผมพยายามทําอย่างดีที่สุดแล้ว มีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้หรือเปล่า" ที่แย่กว่านั้นคือเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของผมมักรายงานให้หัวหน้างานทราบทันทีที่พบความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของผม หัวหน้างานจะหมดความอดทนทันทีและตะโกนว่า "คุณทําผิดพลาดตลอดเวลาอย่างนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น ผมจะเก็บคุณไว้ที่นี่อีกต่อไปไม่ได้แล้ว" แล้วผมก็จะโกรธเช่นกันและคิดว่า "มนุษย์ทุกคนทําผิดพลาดได้ คุณคิดว่าผมตั้งใจทำผิดหรือ" ในช่วงเวลานั้น ใจของผมถูกครอบงําด้วยความคิดหนึ่งเดียวคือ "ถ้าอย่างนั้นก็ไล่ผมออกเลย ถ้าแย่ที่สุด ผมก็จะกลับบ้าน แค่นั้นแหละ ผมเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้แล้ว"
สถานการณ์นี้ดําเนินต่อไปเป็นเวลานาน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทําผิดพลาดในขณะที่หัวหน้างานบังเอิญเดินผ่านมาพอดี เขาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมบอกเขาว่าผมทําผิดพลาดอีกแล้ว และคาดว่าเขาคงจะระเบิดออกมาด้วยการบ่น ผมประหลาดใจที่เขาเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนตื่นจากความฝัน การตําหนิและการโต้เถียงมากมายหลายวันล้วนมาจากจิตยึดติดเดียวคือ ทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาด ผมมักนิ่งเงียบและพยายามปกปิดมันอยู่ตลอด เมื่อมีคนมาสอบถาม ผมจะบอกว่าทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้วและเรียบร้อยดี ผมเชื่อตลอดมาว่าตราบใดที่ผลสุดท้ายออกมาดี ทุกคนก็ควรพอใจ พวกเขาคงไม่อยากรำคาญโดยถามว่าเกิดอะไรขึ้นในขั้นตอนการทำงาน ดูเผิน ๆ ข้อโต้แย้งของผมฟังดูสมเหตุสมผล แต่สําหรับผู้ฝึกต้าฝ่าแล้วมันไม่ใช่ ผู้ฝึกควรปฏิบัติตามหลักการของ "ความจริง" ทําสิ่งต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา เต็มใจยอมรับความผิดพลาดใด ๆ และชัดเจนโปร่งใสในทุกเรื่อง ความพยายามที่จะปกปิดความผิดพลาดไม่ใช่จิตยึดติดใหญ่หรือ น่าแปลกที่หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็ไม่ค่อยทําผิดพลาดอีก ด้วยเหตุนี้ หัวหน้างานจึงไม่เคยบ่นอีกเลย และไม่มีใครสนใจที่จะรายงานความผิดพลาดของผมให้เขาทราบอีกต่อไป
บางทีอาจเป็นเพราะไม่มีใครในครอบครัวสร้างปัญหาให้กับผม ผมจึงถูกกําหนดให้ประสบปัญหามากขึ้นในบริษัทของผมเพื่อที่ผมจะได้มีโอกาสบำเพ็ญ เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งดูก้าวร้าวมากในทุกเรื่อง เขามีนิสัยชอบแย่งชิงอุปกรณ์ของบริษัทมายึดครองไว้ก่อน แม้ว่าเขาจะยังไม่ใช้งานในทันทีก็ตาม ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องใช้อุปกรณ์บางอย่าง ผมก็ไม่สามารถใช้ได้ และงานของผมก็จะล่าช้า นอกจากนี้ ผมเป็นคนที่มีวินัยและเป็นระเบียบ และเก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ของผมไว้อย่างเป็นระเบียบอยู่เสมอ แต่เขากลับตรงกันข้าม เขาทิ้งอุปกรณ์ทุกชิ้นไว้อย่างยุ่งเหยิง มันเยิ้ม และบางครั้งก็เสียหลังจากที่เขาใช้งาน บางครั้งที่เขาหาเครื่องมือของตัวเองไม่เจอ เขาก็ใช้ของผม และบางครั้งก็ทําของผมหายด้วย งานของผมก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้เกิดขึ้นกับผมเกือบทุกวัน หลายครั้งที่ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และระเบิดความโกรธออกมา หลังจากนั้นผมก็จะเสียใจกับสิ่งที่ผมทํา ในประเด็นของการยกระดับซินซิ่งของผม เมื่อมีความขัดแย้ง ผมรู้สึกว่าผมยกระดับได้ช้ามาก ทําไมผมไม่รู้สึกถึงจิตใจที่มีเมตตาและเห็นอกเห็นใจข้างใน ถ้าเรื่องเล็กน้อยสามารถทําร้ายผมได้ ผมก็ยังห่างไกลจากความมั่นคงและไม่หวั่นไหว อย่างที่ผู้ฝึกต้าฝ่าควรจะเป็น
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ผมก็เข้าใจว่าทําไม อันดับแรก เป็นเพราะผมมีทัศนคติที่มีอคติต่อผู้อื่น ผมมองว่าพวกเขาเห็นแก่ตัว หยาบคาย และไม่เป็นระเบียบในการทํางานของเขา ผมรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวผมอย่างเคร่งครัดจากมุมมองของตัวเองเสมอ เมื่อคนอื่นทำไม่สอดคล้องกับความคิดของผม ผมก็จะรู้สึกไม่สบายใจกับพวกเขา ทําไมผมถึงโกรธมาก เป็นเพราะพวกเขารบกวนงานของผมและสร้างปัญหาให้กับผม ทุกความคิดของผมล้วนเกี่ยวข้องกับตัวผมเองทั้งนั้น นั่นไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวหรือ ถ้าเขาสร้างปัญหาให้คนอื่น รบกวนงานของคนอื่น ผมคงไม่โกรธ
เราต้องคำนึกถึงคนอื่นในทุกเรื่อง ! หลังจากที่ผมเริ่มนำทัศนคตินี้มาปฏิบัติ ผมก็ไม่รู้สึกรําคาญเพื่อนร่วมงานอีกเลย ในทางตรงกันข้าม ผมเริ่มรู้สึกถึงความเมตตาที่มีต่อพวกเขา เพราะพวกเขาก็กำลังทนทุกข์จากความยากลําบากในชีวิตของพวกเขาเช่นกัน
ลิขสิทธิ์ © 1999-2025 Minghui.org สงวนลิขสิทธิ์
โลกต้องการความจริง-ความเมตตา-ความอดทน การบริจาคของคุณสามารถช่วยให้ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าได้มากขึ้น หมิงฮุ่ยขอขอบคุณสําหรับการสนับสนุนของคุณ
สนับสนุน Minghui
หมวดหมู่: เส้นทางการบำเพ็ญ