โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ : ยกระดับร่วมกันผ่านการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า

(Minghui.org) ในระหว่างการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าที่นิวซีแลนด์ปี 2025 ที่โอ๊คแลนด์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2025 ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า 15 คน อธิบายว่าพวกเขายกระดับตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยการปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนได้อย่างไร ในขณะที่พวกเขายังคงบำเพ็ญและช่วยท่านอาจารย์ในการช่วยเหลือผู้คน พวกเขารู้สึกถึงความเมตตาของท่านอาจารย์และพวกเขารู้สึกขอบคุณมาก

การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าที่นิวซีแลนด์ปี 2025 จัดขึ้นที่โอ๊คแลนด์เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2025

ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าขอบคุณฝ่าหลุนต้าฝ่า

โพรโมตเสินยวิ่นในที่ทํางาน

Niknil Govind ต้องการบอกคนอื่นเกี่ยวกับเสินยวิ่น แม้ว่าในเมืองของเขาจะไม่มีกําหนดการแสดงของเสินยวิ่น แต่ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทของเขาทํางานในเมืองที่มีกําหนดการแสดงเสินยวิ่น Govind จึงอยากแนะนำไให้พวกเขาไปดูการแสดงเสินยวิ่น

หลังจากที่เขาได้ยินว่า CEO และผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ จะมาเยือนเมืองของเขาในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Govind ได้ฟาเจิ้งเนี่ยนอยู่เรื่อย ๆ ด้วยความช่วยเหลือของท่านอาจารย์ เขามีโอกาสทักทาย CEO และได้บอก CEO เกี่ยวกับเสินยวิ่น และเชิญเขาไปชมการแสดง เขาได้ส่งอีเมลตามเรื่องด้วย CEO ตอบกลับเขาในวันรุ่งขึ้นว่าตกลงที่จะไปดูการแสดง Govind รู้ว่าท่านอาจารย์กําลังช่วยเขาอยู่

Govind บอกเพื่อนร่วมงานของเขาเกี่ยวกับการแสดงอย่างต่อเนื่องและตามเรื่องทางอีเมล เขาได้รับการปฏิเสธเป็นครั้งคราว แต่เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสในการยกระดับซินซิ่งของเขา สุดท้ายเพื่อนร่วมงานของเขาและคนอื่นที่เขาติดต่อไปประมาณ 40 คนซื้อตั๋ว จากเรื่องนี้ เขาได้เรียนรู้ถึงความสําคัญของการรักษาความคิดถูกต้องและการปล่อยวางความกลัว และท่านอาจารย์จะช่วยเหลือทุกเรื่อง

Govind ช่วยขายตั๋วและให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ขอคืนบัตร พอเขารู้ว่าเสินยวิ่นล้ำค่ามาก เขาจึงทุ่มเทใจในการเขียนอีเมลทุกฉบับ และอธิบายว่าทําไมเสินยวิ่นจึงพิเศษและสําคัญ ในระหว่างกระบวนการนี้ เขารู้สึกได้ว่าท่านอาจารย์กําลังเสริมพลังและให้ปัญญาแก่เขา ในที่สุด นอกจากกรณีพิเศษ 1 หรือ 2 ราย ทุกคนก็เก็บตั๋วไว้

Govind ตระหนักว่ายิ่งเขาบำเพ็ญนานขึ้น เขาก็ยิ่งต้องค้นหาจากภายในและกําจัดจิตยึดติดของเขาให้มากขึ้น เขารู้สึกถึงความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์เสมอ และเขาได้รับแรงบันดาลใจให้ทําให้ดียิ่งขึ้น

ปาฏิหาริย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่า

ก่อนที่ Ms. Zhang จะเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่ออายุ 36 ปี เธอมีโรคมากมายและรู้สึกว่าชีวิตของเธอสิ้นหวัง เพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งเชิญเธอไปดูวิดีโอการบรรยายของท่านอาจารย์ เธอรู้สึกแข็งแรงขึ้นราวกับปาฏิหาริย์และสามารถกลับบ้านได้เองโดยไม่ต้องมีใครช่วยเหลือ คืนนั้นเธอฝันว่าเธอกระโดดออกจากหนองน้ําไปสู่เส้นทางที่กว้างใหญ่ และเธอเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอรู้ว่าท่านอาจารย์ช่วยเธอไว้ สุขภาพของเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็ว Zhang เริ่มฝึกต้าฝ่าและขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ให้ชีวิตใหม่แก่เธอ

เนื่องจากการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน Zhang ถูกกักขังหลายครั้งและถูกส่งไปยังค่ายแรงงาน แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนศรัทธาของเธอที่มีต่อต้าฝ่าและท่านอาจารย์ แม้ว่าเธอจำต้องหลบหนีออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม เธอก็ยังคงเสี่ยงชีวิตเพื่ออธิบายความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่าให้ผู้คนได้รับรู้ เธอแจกเก้าบทวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ และช่วยให้ผู้คนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันหนึ่งเธอฝันว่าหมูตัวหนึ่งนํากระดาษแผ่นหนึ่งที่มีคําว่า "ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน" มาให้เธอ เธอรู้ว่านี่เป็นคําใบ้จากท่านอาจารย์ หลายวันต่อมา เพื่อนคนหนึ่งที่เกิดในปีหมูที่อ่านเก้าบทวิจารณ์ต้องการลาออกจากองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์จีน จากเรื่องนี้ Zhang รู้ว่าท่านอาจารย์กําลังช่วยเธอ และการลาออกจากองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นจริงจังมากจริง ๆ

หลังจากที่เธอหลบหนีไปประเทศไทย หน่วยงานผู้ลี้ภัยได้จัดให้เธอย้ายไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ เธอไปที่ Mission Bay ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับต้าฝ่ามานานกว่า 10 ปีแล้ว เธอต้องเผชิญกับการถูกดูหมิ่น ถูกข่มขู่ และแม้แต่ถูกกระทำรุนแรง ครั้งหนึ่งมีคน 3 คนมาขู่ว่าจะทุบตีเธอ ชายหนุ่มชาวตะวันตก 3 คนได้ช่วยปกป้องเธอไว้ และอันธพาล 3 คนนั้นก็หนีไป เธอรู้สึกตื้นตันจนน้ําตาไหลเพราะเธอรู้ว่าท่านอาจารย์ได้ช่วยปกป้องเธอ

หลังจากฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามานานกว่า 20 ปี Zhang รู้สึกขอบคุณความช่วยเหลือที่เปี่ยมด้วยเมตตาของท่านอาจารย์ เธอรู้ว่าการคงความขยันหมั่นเพียรและทําสามสิ่งให้ดีมีความสำคัญมาก

ความจริงมีพลัง

หลังจากที่ Ms. Cheng และสามีของเธอมาถึงนิวซีแลนด์ พวกเขาได้อาศัยอยู่ในเมืองต่าง ๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน พวกเขาก็จะบอกผู้คนเกี่ยวกับต้าฝ่าและการปราบปรามที่ยังคงดำเนินอยู่ในประเทศจีนเสมอ บางคนบอกว่าพวกเขาได้อ่านเรื่องนี้จากโซเชียลมีเดีย บางคนอ่านโปสเตอร์และขอข้อมูลเพิ่มเติม

นักวิชาการชาวตะวันตกคนหนึ่งตั้งคําถามว่าการประทุษร้ายนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และวิพากษ์วิจารณ์เธอด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา Cheng ไม่ได้โต้เถียง เพียงแค่เล่าความทุกข์ทรมานที่เธอประสบในประเทศจีนเพราะเธอฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างสงบ

Cheng ชี้ไปที่รูจมูกด้านซ้ายของเธอ และพูดว่า "นี่คือหลักฐานของการบังคับให้อาหารทางสายยางโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน" ชายคนนั้นดูตกใจและรับแผ่นพับอย่างเงียบ ๆ Cheng รู้ว่าความจริงนั้นทรงพลัง

Cheng ขอบพระคุณท่านอาจารย์หลี่สําหรับการจัดวางทั้งหมด "ฉันเป็นเพียงคนธรรมดา และต้าฝ่าให้ความกล้าหาญและสติปัญญาแก่ฉัน" เธออธิบาย "เราต้องทําภารกิจในการช่วยท่านอาจารย์ช่วยเหลือผู้คนให้สําเร็จ"

ในรั้วมหาวิทยาลัย

Gia Thuy Do เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 2018 เธอเล่าประสบการณ์ของเธอในขณะที่เธอกำลังศึกษาในระดับปริญญาโทด้านการศึกษา การมอบหมายงานในห้องเรียนจํานวนมากได้รับอิทธิพลจากอุดมการณ์สังคมนิยม การทำงานที่ได้รับมอบหมายเหล่านั้นให้เสร็จไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับชั้นเรียนของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นกระบวนการทดสอบความยืดหยุ่นของเธอด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เธอตระหนักว่า ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาการบ้าน เพราะท่านอาจารย์ได้ถ่ายทอดคําสอนของต้าฝ่าซึ่งควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในสังคมทั่วไป

งานที่ได้รับมอบหมายบางอย่างเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ เธอตอบคําถามเหล่านั้นตามค่านิยมดั้งเดิมและได้เกรดต่ํา แต่เธอได้เกรดสูงจากงานที่ได้รับมอบหมายอื่น ๆ เธอจึงสามารถผ่านรายวิชานั้นมาได้ เธอรู้ว่าท่านอาจารย์กําลังปกป้องเธอเพราะเธอไม่ยอมแลกเปลี่ยนศรัทธาของเธอกับการได้เกรดที่สูงขึ้น จากบทกวีของท่านอาจารย์ เธอรู้ว่าแนวโน้มสมัยใหม่เบี่ยงเบนไปจากค่านิยมดั้งเดิมและผลักดันผู้คนให้ห่างจากเทพ

บางครั้ง Do พบว่าการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเป็นเรื่องที่ท้าทาย เมื่อมองย้อนกลับไป เธอรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการยกระดับซินซิ่งของเธอ และให้โอกาสเธอได้ฝึกความอดทน ยกระดับซินซิ่ง และช่วยท่านอาจารย์ในการช่วยเหลือผู้คน เธอรู้สึกขอบพระคุณท่านอาจารย์สําหรับโอกาสเหล่านี้

โรคภัยจากกรรม

Ms. Mai เริ่มฝึกต้าฝ่าในปี 1998 และได้ประจักษ์กับปาฏิหาริย์มากมาย หลังจากอ่านฝ่ากับกลุ่มวันหนึ่ง จู่ ๆ เธอก็สังเกตว่าขาขวาของเธอไม่มีความรู้สึก และมือขวาของเธอก็อ่อนแรงมากจนเธอไม่สามารถถือเงินได้ เมื่อตระหนักว่าเธอย่อหย่อนเมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากบางโครงการดําเนินไปอย่างราบรื่น Mai รู้ว่าเธอฝึกท่าได้ไม่ดี ไม่ดำรงความขยันหมั่นเพียร หรือไม่ฟาเจิ้งเนี่ยนมากพอ ดังนั้นเธอจึงค้นหาจากภายในทันทีเพื่อปรับปรุงตัวเอง

เธอมีปัญหาเมื่อเธอพยายามฟาเจิ้งเนี่ยนหรือฝึกท่า เพราะมือขวาของเธออ่อนแรง แต่เธอไม่ยอมแพ้ บางทีอาจเป็นเพราะท่านอาจารย์เห็นความมุ่งมั่นของเธอ ผู้ฝึกคนหนึ่งไปเยี่ยมเธอและบอกเธอว่าการฝึกท่าช่วยให้เธอฟื้นตัวได้อย่างไรหลังจากที่เธอมีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง

ดังนั้น Mai จึงเริ่มฝึกท่าฝ่าหลุนต้าฝ่าชุดที่ 2 โดยพิงกับตู้เสื้อผ้า เธอรู้สึกได้ถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเธอยกมือขึ้นเหนือศีรษะ มือขวาของเธอก็ไม่ตก หลังจากฝึกท่าชุดที่ 2 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เธอตื้นตันจนน้ำตาไหล ในระหว่างนี้ เธอได้ฟาเจิ้งเนี่ยนอย่างแรงกล้าเพื่อปรับแก้ตัวเอง เธอฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 6 วัน และรู้ว่าเป็นเพราะอานุภาพของต้าฝ่า

หลังจากผ่านการทดสอบเกี่ยวกับโรคภัยจากกรรมมาหลายครั้ง Mai ได้เรียนรู้ว่าการบำเพ็ญนั้นจริงจัง เราต้องรักษาความคิดถูกต้อง ความขยันหมั่นเพียร และความเชื่อในท่านอาจารย์อยู่เสมอ เธอหวังว่าประสบการณ์ของเธอจะช่วยผู้ฝึกอื่น เพื่อให้เราทุกคนได้ยกระดับไปด้วยกัน