(Minghui.org) การประชุมฝ่าเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการบำเพ็ญของเรา การประชุมฝ่าเปิดโอกาสให้เราค้นพบข้อบกพร่องของตนเอง ได้เรียนรู้จากกันและกัน และยกระดับไปด้วยกัน ฉันขอแบ่งปันประสบการณ์เมื่อไม่นานนี้ของฉัน
ไม่หวั่นไหวต่อความรู้สึกอ่อนไหวของมนุษย์
บ่ายวันหนึ่งในปี 2020 ตํารวจโทรหาลูกชายของฉันและบอกว่าพวกเขาต้องการมาที่บ้านของเรา ฉันไม่อยากพบพวกเขา ดังนั้นฉันจึงออกไปอธิบายความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง (หรือที่เรียกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่า) วันต่อมา ตํารวจโทรหาลูกชายของฉันอีกครั้ง ฉันคิดว่า "ตํารวจควรได้รับการช่วยเหลือด้วย ฉันจึงจะพบกับพวกเขา"
พวกเขามาถึงเวลาประมาณ 16:00 น. ฉันต้อนรับพวกเขาด้วยน้ำชา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามฉันว่า "คุณยังฝึกอยู่หรือเปล่า" ฉันตอบว่า "ฝ่าหลุนกงดีมาก และเผยแผ่ไปยังประเทศต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การมีความเชื่อเป็นสิทธิที่พลเมืองทุกคนมี มาตรฐานของความถูก-ผิด ถูกกําหนดโดยสวรรค์ ไม่ใช่โดยบุคคล ประเทศ หรืออํานาจใด ๆ ฝ่าหลุนกงมีแต่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและครอบครัว"
ฉันพูดต่อว่า "ฉันจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจนถึงที่สุดและเดินไปตามเส้นทางที่ท่านอาจารย์หลี่จัดวางไว้ ถ้าทุกคนเชื่อว่าความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี สังคมนี้จะยังวุ่นวายอยู่หรือ ความดีและความชั่วมีผลที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นหลักการสากล ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณทุกคนจะมีอนาคตที่ดีและหยุดมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง คุณกําลังก่ออาชญากรรม คุณรู้หรือไม่ คุณต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณและของครอบครัวของคุณ"
ขณะที่พวกเขากําลังจะกลับ ฉันบอกให้พวกเขาจําไว้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี และความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี
วันต่อมา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งโทรหาลูกชายของฉันและพูดว่า "แม่ของคุณดื้อรั้นมาก คุณควรพยายามเกลี้ยกล่อมเธอ [ให้หยุดฝึก] ไม่เช่นนั้นเราจะรายงานต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงและจับกุมเธอ" ลูกชายของฉันกลัวเพราะฉันถูกประทุษร้ายและถูกจับกุมมาแล้ว
วันนั้นลูกชายคนที่ 2 ของฉันมาถึงและพูดว่า "ตํารวจต้องการให้เราถ่ายรูปและวิดีโอของแม่" ฉันตอบว่า "ฉันจะไม่ทํา" ฉันจะไปตลาดเพื่อพูดคุยกับผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง เย็นวันนั้น ขณะที่ฉันกําลังทําเกี๊ยว ลูกชายทั้งสองคนของฉันเข้ามาและพูดเสียงดังว่า "แม่ แม่กําลังสร้างปัญหาให้เรา !" ฉันพูดว่า "แม่มีท่านอาจารย์คอยคุ้มครองเรา แม่รู้ว่าลูกกลัวว่าแม่จะถูกจับ แต่ลูกช่วยปกป้องแม่ได้ไหม" พวกเขาตะโกนว่า "ถ้าแม่ถูกจับอีก ก็อย่ากลับมาที่บ้านหลังนี้อีกเลย !" ฉันตอบว่า "แม่จะบําเพ็ญจนถึงที่สุด ไม่มีใครเปลี่ยนใจแม่ได้ แม่เชื่อในต้าฝ่า ! แม่เชื่อในท่านอาจารย์ ! ไม่มีใครแตะต้องแม่ได้ !"
น้ําตาไหลอาบแก้มของฉัน ฉันหยุดทําเกี๊ยวและเข้าไปในห้องนอนของฉัน ฉันฟังบันทึกการบรรยายของท่านอาจารย์และได้ยินท่านอาจารย์พูดว่าความชั่วร้ายไม่สามารถเอาชนะความดีได้
ฉันไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนผู้ฝึกและเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา การค้นหาจากภายในเป็นเครื่องมือวิเศษ ทําไมลูกชายของฉันถึงให้ความร่วมมือกับตํารวจ เป็นเพราะฉันกลัวว่าจะถูกประทุษร้ายและฉันไม่พอใจลูกชายของฉันที่ไม่พูดปกป้องต้าฝ่า ฉันพึ่งพาคนธรรมดามากเกินไปไม่ใช่หรือ การบำเพ็ญเป็นเรื่องของตัวเอง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทดสอบจิตใจของผู้บำเพ็ญ
ฉันปล่อยให้ความรู้สึกอ่อนไหวของมนุษย์ส่งผลกระทบต่อฉัน ทําให้ฉันโต้เถียงกับลูกชายทั้งสองของฉัน ที่จริงไม่มีใครทำให้ฉันหวั่นไหวได้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันกลับบ้าน ลูกชายของฉันเปิดประตูด้วยรอยยิ้มและถามว่า "แม่จะกินเกี๊ยวต้มหรือเกี๊ยวทอดดี" ฉันตอบว่า "แม่ไม่อยากกิน" เขาพูดเสริมว่า "ผมไม่ควรอารมณ์เสีย เป็นความผิดของผมทั้งหมด" ลูกชายของฉันทั้งสองคนดูเหมือนเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผลลัพธ์ของการชอบคําชม
หลังจากเหตุการณ์นั้น ฉันยังคงพูดคุยกับผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้ายและฝ่าหลุนกงและทํางานบ้านต่อไป แต่ ฉันไม่ได้ค้นหาจากภายในอย่างแท้จริงเพื่อค้นหาความผิดพลาดของฉัน
บรรยากาศในครอบครัวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทุกวันเมื่อลูกชายของฉันกลับจากการทํางาน เขาจะอารมณ์ฉุนเฉียวทันทีที่เขาเดินเข้าบ้าน เขาบ่นเกือบทุกเรื่อง เช่น อาหารไม่อร่อย โต๊ะไม่สะอาด ฯลฯ ฉันคิดในใจว่า ฉันทําอาหารให้เธอมาหลายปีแล้ว จู่ ๆ มันก็ไม่อร่อยขึ้นมาเมื่อไรกัน" เขาพูดว่า "แม่เอาแต่ศึกษาฝ่าหรือฝึกท่าตลอดทั้งวัน แม่ไม่เห็นที่นี่เป็นบ้านของแม่เลย"
ฉันรู้สึกเศร้ามากเมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันคิดในใจว่าฉันเป็นผู้ฝึก ฉันไม่ควรปล่อยให้คําพูดของเขากวนใจฉัน แต่บางครั้งฉันก็อดไม่ได้ที่จะโต้เถียงกับเขา หลังจากนั้นฉันเสียใจที่ไม่ได้ทําตัวเหมือนผู้ฝึก
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันเริ่มขุ่นเคือง รู้สึกว่าลูกไม่ยุติธรรมกับฉัน "ฉันเลี้ยงลูกมา ตอนนี้ฉันทํางานบ้านทั้งหมดและลูกก็ยังไม่พอใจ วันนี้ฉันมีสุขภาพแข็งแรงเพราะฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ทําให้ฉันสามารถดูแลครอบครัวได้"
เมื่อฉันค้นหาจากภายใน ฉันแค่มองที่พื้นผิวของปัญหาแทนที่จะขุดลึกลงไปถึงรากเหง้า ฉันตัดสินถูก-ผิดจากมุมมองของมนุษย์โดยลืมไปว่าฉันเป็นผู้ฝึก
ลูกสะใภ้ของฉันพูดกับฉันว่า "ที่จริงเขาดีกับทุกคนมาก ทําไมเขาถึงจับผิดแม่ตลอด" ฉันตอบว่า "เป็นเพราะแม่ทําได้ไม่ดีในการบําเพ็ญของแม่ เขาช่วยให้แม่ยกระดับ"
ลูกสะใภ้ของฉันสนับสนุนการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าของฉันเป็นอย่างมาก เธอยังได้อ่านหนังสือต้าฝ่าด้วย บางครั้งเมื่อลูกชายของฉันบ่น เธอจะพูดว่า "อย่าจู้จี้นักเลย เราโชคดีที่มีคนเตรียมอาหารไว้ให้เรา การโกรธเป็นการไม่เคารพแม่ของคุณมากที่สุด"
ฉันยังค้นหารากเหง้าของปัญหาของฉันไม่เจอ ฉันถูกอีโกจอมปลอมชักนําให้หลงทาง ไม่สามารถฝึกความอดทนขั้นพื้นฐาน นับประสาอะไรกับความเมตตา ฉันบอกตัวเองว่าฉันควรปล่อยวางความคิดของมนุษย์และใช้หลักการของฝ่าเพื่อประเมินตัวเอง
ฉันใช้ช่วงเวลานี้ค้นหาจากภายในและตระหนักว่าฉันชอบฟังคําชม ความรู้สึกนี้ฝังลึกอยู่ข้างใน ฉันชอบที่จะได้รับการยกย่องและรู้สึกเหนือกว่า ฉันยังมีความรู้สึกเย่อหยิ่งอย่างแรงกล้า และมีจิตยึดติดอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ความอิจฉา การแข่งขัน ความยินดี ความขุ่นเคือง ความปรารถนาที่จะโอ้อวด ความปรารถนาที่จะมีชื่อเสียง ความยึดมั่นว่าตัวเองถูกต้อง และอื่น ๆ
ท้ายที่สุดแล้ว เป็นเพราะฉันไม่สามารถปล่อยวางอีโกของตัวเอง ฉันเห็นแก่ตัวและไม่มองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของต้าฝ่า ฉันใช้ความคิดของมนุษย์เพื่อตัดสินถูก-ผิดอย่างผิวเผิน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมฉันถึงก้าวหน้าในการบำเพ็ญได้ช้ามาก ฉันต้องการกําจัดจิตยึดติดทั้งหมดของฉันออกจากรากเหง้า
ที่จริง การอยากได้คำชมนี้มีที่มา ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันทํางานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ฉันเข้มงวดกับตัวเองและทํางานได้ดี พี่เลี้ยงของฉันมักจะชมเชยฉัน เมื่อเวลาผ่านไป ฉันกลายเป็นคนหยิ่งยโสและเชื่อว่าฉันดีกว่าคนอื่น หลังจากที่ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ความคิดแบบนี้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ฉันตัดสินใจที่จะทบทวนตัวเองใหม่ แก้ไขตัวเองด้วยต้าฝ่า และมุ่งมั่นบำเพ็ญอย่างจริงใจเพื่อที่ท่านอาจารย์จะเป็นห่วงฉันน้อยลง
ค้นหาจากภายใน ทําสามสิ่ง และผ่านการทดสอบความเป็นความตาย
ฉันจําได้ว่าตอนนั้นใกล้ถึงวันตรุษจีนแล้ว และขณะที่ฉันออกไปอธิบายความจริง ฉันก้าวพลาดและล้มลง ฉันลุกขึ้นและรู้สึกว่าไม่เป็นไร ฉันเดินต่อไปอีกสองถนนและพูดคุยกับคนสองสามคนที่ฉันถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าให้พบ พวกเขาตกลงที่จะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ
ตอนนั้นเลยเวลา 16:00 น. แล้ว ฉันจึงกลับบ้านเพื่อทําอาหารเย็น หลังจากนั้นฉันก็ไปที่ห้องเพื่อศึกษาฝ่า หลังของฉันเริ่มเจ็บมากจนอ่านหนังสือไม่ได้ ฉันจึงฟังฝ่า ฟาเจิ้งเนี่ยน และค้นหาจากภายใน ฉันนอนราบไม่ได้ ฉันรู้สึกปวดหลังอย่างรุนแรงทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
ฉันขอให้ท่านอาจารย์เสริมพลังให้ฉัน ฉันจะไม่ยอมให้อิทธิพลเก่าเข้ามาแทรกแซงร่างกายของฉัน ต้าฝ่าสร้างทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน และฉันอยู่ภายใต้การดูแลของท่านอาจารย์แต่เพียงผู้เดียว
ในตอนกลางคืน นาฬิกาปลุกของฉันดังขึ้น ส่งสัญญาณว่าถึงเวลาฝึกท่าแล้ว ฉันพยายามลุกขึ้น แต่อาการปวดหลังรุนแรงมากจนฉันทรุดลง ในที่สุดฉันก็ใช้แรงทั้งหมดลุกจากเตียงและลุกขึ้นยืน
ขา แขน และร่างกายของฉันสั่นด้วยความเจ็บปวด แต่ฉันก็อดทนและฝึกท่าจนครบทุกท่า ฉันต้องทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงนี้ติดต่อกันหลายวัน ในขณะที่ยังคงทําสามสิ่งและทำงานบ้านตามปกติในช่วงกลางวัน แต่หลังของฉันยังคงปวดไม่หาย ขาของฉันรู้สึกหนัก และยากที่จะยกขาขึ้นตอนขึ้นบันได พอถึงตอนเย็น น่องของฉันบวมและแข็งตึง ฉันมัดเท้าเพื่อให้อยู่กับที่เมื่อฉันนั่งสมาธิในตอนกลางคืน ฉันพูดกับท่านอาจารย์ในใจว่า "ฉันรู้ว่าท่านกําลังช่วยฉันกําจัดกรรม ท่านอาจารย์ได้อดทนเพื่อฉันมามาก ฉันจะเอาชนะให้ได้"
ฉันแทบนอนไม่หลับเลยเพราะอาการปวดหลังแย่ลงในตอนกลางคืน ตลอดการทดสอบนี้ ครอบครัวและเพื่อนผู้ฝึกของฉันไม่ทราบว่าฉันกำลังทุกข์ทรมาน
ฉันค้นหาจากภายใน ฟาเจิ้งเนี่ยนบ่อยขึ้น อ่านฝ่ามากขึ้น และอธิบายความจริง หลังของฉันค่อย ๆ ดีขึ้น ฉันรู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละที่ยิ่งใหญ่และความเมตตาที่ไร้ขอบเขตของท่านอาจารย์
ผู้ฝึกในท้องถิ่นบางคนแนะนําให้ฉันเช่าอะพาร์ตเมนต์และแยกกันอยู่กับลูกชาย ฉันตระหนักว่าการจัดวางให้เราอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญของฉัน ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ฉันจะบำเพ็ญและยกระดับได้อย่างไร เมื่อรู้ว่าฉันไม่ควรหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ฉันจึงไม่ย้ายออก
เมื่อฉันพบจิตยึดติด ฉันก็ปล่อยวางอีโก พยายามมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของผู้อื่น และคำนึงถึงความต้องการของพวกเขา ใจของฉันก็เบาขึ้น
สภาพแวดล้อมในครอบครัวของฉันช่วยให้ฉันบำเพ็ญ ฉันรักและผูกพันกับลูกชายของฉันมาก เมื่อเขาไม่เต็มใจที่จะรับฟังความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง ฉันก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตของเขา เมื่อค้นหาจากภายใน ฉันเห็นว่าเป็นเพราะความรู้สึกผูกพันของฉัน ทุกคนมีชะตากรรมของตัวเอง เมื่อฉันปล่อยวางจิตยึดติดกับชื่อเสียง โชคลาภ และความรู้สึก ฉันเห็นว่าลูกชายของฉันทํางานหนักมากเพื่อครอบครัวของเขา
เมื่อฉันกําจัดจิตยึดติดของฉันได้แล้ว ลูกชายของฉันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาและภรรยาดูแลเอาใจใส่ฉันดีมาก ทุกครั้งที่เขามีวันหยุด เขาจะช่วยฉันทําอาหารและล้างจาน ลูกสะใภ้ของฉันซื้อของกินของใช้เป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ฉันทําสามสิ่งอย่างมีความสุขทุกวัน ต้าฝ่าได้เปลี่ยนฉันและครอบครัวของฉัน
ไม่นานหลังจากนั้น ฉันฝันชัดเจนมาก ในความฝันฉันเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งและเห็นเตียงขนาดใหญ่ บนเตียงมีโลงศพสีแดงและหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างโลงศพ ฉันพูดว่า "ทําไมโลงศพถึงอยู่บนเตียง" เธอพูดว่า "นี่คือบ้านของฉัน หลังจากที่ฉันตาย ฉันจะอยู่ที่นี่" เธอถามฉันว่า "แล้วคุณล่ะ" ฉันพูดว่า "พวกเราผู้บําเพ็ญไม่ได้เดินตามเส้นทางนั้น"
เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อย ฉันคิดในใจว่า ถ้าไม่ใช่เพราะพรของท่านอาจารย์ ฉันคงไม่สามารถผ่านการทดสอบความเป็นความตายนี้ ฉันเข้าใจความจริงจังของการบำเพ็ญในช่วงเจิ้งฝ่า การบำเพ็ญแต่ละระดับมีมาตรฐานของตัวเอง ถ้าเราไม่บรรลุตามข้อกําหนดของฝ่า เราจะตกลงไปและถูกชักจูงด้วยชื่อเสียง ผลประโยชน์ และความรักความผูกพันทางโลก และเลิกบำเพ็ญ หรือแม้แต่ไปในทางตรงกันข้าม
ขอให้เราบำเพ็ญอย่างขยันหมั่นเพียรไปด้วยกันและกลับบ้านพร้อมกับท่านอาจารย์ของเรา
(บทความนี้ได้รับการคัดเลือกสำหรับฝ่าฮุ่ยประเทศจีนบน Minghui.org ครั้งที่ 22)
ลิขสิทธิ์ © 2023 Minghui.org. สงวนลิขสิทธิ์