(Minghui.org) เมื่อ 26 ปีที่แล้ว ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงประมาณ 10,000 คน ไปรวมตัวกันที่บริเวณสํานักงานอุทธรณ์ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 25 เมษายน เพื่อขอให้ทางการปล่อยตัวผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจํานวน 45 คน ที่ถูกจับกุมอย่างผิดกฎหมายในเมืองเทียนจินก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ตกลงตามคำร้องของผู้ฝึกและปล่อยตัวผู้ฝึกในเทียนจิน นี่เป็นการเจรจาอย่างสันติและเกิดผลครั้งแรกระหว่างพลเรือนกับรัฐบาลนับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดอํานาจ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้รายงานเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นี้ในทันที แต่รอ 3 เดือนให้หลัง จึงออกรายงานให้ร้ายผู้ฝึก โดยอ้างว่าพวกเขาไปปักกิ่งในวันนั้นเพื่อ "ปิดล้อมจงหนานไห่" ซึ่งเป็นบริเวณของรัฐบาลกลาง แต่จากภาพข่าวที่ปรากฏ ผู้ฝึกยืนอยู่เงียบ ๆ ระหว่างรอผลการเจรจาอย่างอดทน

เพื่อรําลึกถึงการอุทธรณ์อย่างสันติในวันที่ 25 เมษายน ที่เกิดขึ้นในปี 1999 ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในโทรอนโตได้จัดกิจกรรมหลายอย่างในวันที่ 24 เมษายน 2025 พวกเขาฝึกท่าของฝ่าหลุนกง 5 ชุดด้วยกันที่ Queen’s Park ในช่วงเช้าและจัดการชุมนุมขนาดใหญ่หลังจากนั้น

บ่ายวันนั้นที่สี่แยก Avenue Road ตัดกับ Bloor Street ผู้ฝึกแสดงป้ายผ้าเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงที่ยังคงดําเนินอยู่ในประเทศจีน ผู้ที่เดินผ่านลงนามในคําร้องเพื่อสนับสนุนความพยายามของผู้ฝึกในการยุติการประทุษร้ายและประณามพรรคคอมมิวนิสต์จีนสําหรับอาชญากรรมที่กระทําต่อผู้ฝึก หลังจากทราบข้อเท็จจริงเบื้องหลังการประทุษร้ายแล้ว หลายคนที่มาจากประเทศจีนตัดสินใจลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ

ผู้ฝึกแสดงป้ายผ้าใกล้กับพิพิธภัณฑ์ Royal Ontario ในโทรอนโต

ผู้ฝึกบอกผู้คนเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงที่ยังคงดำเนินอยู่ในประเทศจีน

"ฉันต้องการยืนหยัดต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนเหมือนที่คุณทํา"

หลิวมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เธออพยพไปแคนาดาเมื่อสองปีที่แล้ว เธอต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้ฝึก "ฉันมักจะไปที่ร้านหนังสือ Fa Yuan ใน Pacific Mall และพูดคุยกับผู้ฝึก บางครั้งฉันก็อ่านหนังสือของพวกคุณ ผู้ฝึกที่นั่นบอกฉันว่า วันนี้คุณจะจัดกิจกรรมที่นี่ใกล้กับ Queen’s Park ดังนั้นฉันกับสามีจึงมา" เธอพูด

ครอบครัวของหลิวมาที่แคนาดาเมื่อปลายปี 2023 เพื่อให้ลูกของเธอได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น เธอพูดว่า "ในประเทศจีน ลูกชายของฉันถูกบังคับให้สวมผ้าพันคอสีแดงและทำพิธีเคารพธงชาติจีนทุกวัน ถ้าเขาไม่ทํา เขาจะถูกรังแก และถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติ วันหนึ่งเขากลับบ้านพร้อมหนังสือเล่มเล็กสีแดงที่เต็มไปด้วยคําสรรเสริญพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉันไม่ต้องการให้ลูกชายของฉันอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจออกจากประเทศจีน"

เมื่อเธออยู่ในประเทศจีน เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง แต่มีการรับรู้ในแง่ลบเพราะเธอเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เธอไม่ต้องการได้ยินสิ่งที่ผู้ฝึกพูด ครั้งหนึ่งครอบครัวของเธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ฝรั่งเศสและผู้ฝึกพยายามอธิบายความจริงให้เธอฟัง "ฉันยังกลัวในตอนนั้น ฉันจึงปฏิเสธที่จะฟัง" เธอพูด เมื่อเธอไปอังกฤษ ผู้ฝึกคนหนึ่งพูดคุยกับเธออย่างอดทน "หลังจากนั้น ฉันก็รู้สึกว่าฝ่าหลุนกงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด หลังจากที่เราย้ายไปอยู่ที่แคนาดา ฉันได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงบนอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นฉันจึงพบว่าฝ่าหลุนกงไม่เหมือนกับที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนบอก" เธอพูด

ยิ่งเธอเรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนกงมากขึ้น เธอก็ยิ่งคิดว่าเธอควรออกมาพูดแสดงความคิดเห็นว่า "อย่างน้อยฉันก็ต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนสําหรับประชาชนในประเทศจีน ฉันต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเช่นนี้มากขึ้น และยืนหยัดต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนเหมือนที่พวกคุณทํา"

"ทุกคนควรได้รับอนุญาตให้มีเสรีภาพในการเชื่อ"

ชายคนหนึ่งจากซินเจียงพูดคุยกับผู้ฝึกที่กำลังถือป้ายผ้าอยู่ เขาบอกว่าเขาเคยพูดคุยกับผู้ฝึกที่ Pacific Mall ในอดีต และลาออกจากนักบุกเบิกรุ่นเยาว์และยุวชนทหาร เขาเชื่อในศาสนาอิสลาม แต่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน วัฒนธรรมและความเชื่อของเขาถูกทำลาย

เขาพูดว่าการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นสิ่งผิด "ทุกคนควรได้รับอนุญาตให้มีเสรีภาพในการเชื่อ ผมรู้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนฆ่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากด้วย" เขาเห็นด้วยกับหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน โดยพูดว่าหลักการนี้เป็น "ค่านิยมสากล"

"มันไม่ควรเกิดขึ้น"

บรรยากาศที่สงบสุขระหว่างการสาธิตท่าฝึกดึงดูดเอฮับ

เอฮับเป็นวิศวกรโยธา เขาพูดว่าเขาสนใจพลังงานที่สงบสุขในขณะที่ผู้ฝึกฝึกท่าด้วยกันใน Queen’s Park "มันทําให้ผมรู้สึกสงบมาก มีคนจำนวนมาก แต่บรรยากาศสงบและเงียบมาก ทุกคนมีสมาธิมาก นี่น่าสนใจมาก"

ผู้ฝึกคนหนึ่งบอกเขาว่า 3 เดือนหลังจากการประท้วงอย่างสันติในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1999 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเลือกที่จะประทุษร้ายกลุ่มผู้ฝึกที่สงบสันตินี้ เอฮับพูดว่า "มันเป็นเวลา 26 ปีแล้ว มันแย่มาก ! ประชาชนควรมีสิทธิในเสรีภาพในการเชื่อ ในสายตาของผม ผู้ฝึกมีความสงบสุขมาก และการฝึกของพวกเขาไม่ได้ทําร้ายใคร ไม่น่าเชื่อที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเลือกที่จะประทุษร้ายคนที่มีจิตใจดีกลุ่มนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย" เขาบอกว่าเขาจะค้นหาข้อมูลและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงทางออนไลน์

"ถ้าทุกคนสามารถแสดงความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นอีกหน่อย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน"

เกรกอริโอบอกว่าเขาต้องการเรียนฝ่าหลุนกง

หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกและการประทุษร้าย เกรกอริโอพูดว่าเขาเห็นด้วยกับหลักการของฝ่าหลุนกง "ผมคิดว่าค่านิยมเหล่านี้ดีต่อสังคม หากทุกคนสามารถแสดงความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นอีกหน่อย มันจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ผมจะเข้าเว็บไซต์ฝ่าหลุนกงเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมหลังจากที่ผมกลับบ้าน"

เขาพูดว่า เขาคิดว่าสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำผิดและไม่ยุติธรรม "ทุกคนควรมีเสรีภาพในการเชื่อ มันวิเศษมากที่ประชาชนในแคนาดาสามารถมีเสรีภาพเช่นนี้ได้" เขาลงนามในคําร้องเพื่อสนับสนุนความพยายามของผู้ฝึกในการยุติการประทุษร้าย ก่อนที่เขาจะจากไป เขาให้หมายเลขโทรศัพท์ของเขาแก่ผู้ฝึกเพราะเขาต้องการเรียนรู้วิธีฝึกท่า

"ฉันจะช่วยเผยแพร่ความจริงให้ผู้คนมากขึ้น"

เนดาพูดว่าเธอจะบอกผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงและการประทุษร้ายที่ยังคงดําเนินอยู่

เนดาเป็นนักบัญชี เมื่อเธอเห็นป้ายผ้าของผู้ฝึก เธอบอกพวกเขาว่าเธอเห็นด้วยกับหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน เธอเคยทําสมาธิมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง "ฉันดีใจที่ได้พบพวกคุณ ฉันจะเข้าไปดูเว็บไซต์ที่คุณบอกฉันอย่างแน่นอน และจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกนี้หลังจากที่ฉันกลับบ้าน" เธอพูด

เมื่อเธอทราบเกี่ยวกับการประท้วงอย่างสันติและการประทุษร้ายที่เริ่มขึ้นเมื่อ 26 ปีที่แล้ว เธอพูดว่าสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทํานั้นผิด "ฉันจะช่วยเผยแพร่ความจริงไปยังผู้คนจํานวนมากขึ้น" เธอพูด "เราต้องการโลกที่สงบสุข" เธอลงนามในคําร้อง