[เฉลิมฉลองวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลก] สามีสนับสนุนฉันในการฝึกต้าฝ่าอย่างมั่นคงแม้มีการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่อง

(Minghui.org) ก่อนฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อ 27 ปีที่แล้ว ฉันเป็นมะเร็งระยะลุกลาม 2 ครั้งในช่วงเวลา 30 ปี ฉันต้องพึ่งยาเพื่อควบคุมอาการ แต่ก็รู้ดีว่าฉันอาจเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ท่านอาจารย์ได้ชำระร่างกายให้ฉัน และฉันได้รับโอกาสให้ใช้ชีวิตที่ปราศจากโรคและมีความสุข

แม้ว่าสามีของฉันจะไม่ได้ฝึกต้าฝ่า แต่เขาก็สนับสนุนฉันในการฝึกและปกป้องฉัน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้รับพร ฉันขอเล่าเรื่องราวของเขา

สามีของฉันซึ่งขณะนี้มีอายุ 80 ปีเศษ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฉันจากผู้ป่วยใกล้ตายกลายเป็นคนที่มีสุขภาพดีภายในระยะเวลาอันสั้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงกับการเตรียมยาจีนให้ฉันอีกต่อไป เขาทึ่งกับพลังการรักษาของต้าฝ่าและสนับสนุนการฝึกของฉันแม้จะมีการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1999 การสนับสนุนอย่างถูกต้องและด้วยความเต็มใจของเขาที่จะยืนหยัดต่อต้านการประทุษร้ายเป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนบ้านและผู้ฝึกในท้องถิ่นของเรา

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2000 ตำรวจท้องถิ่นในพื้นที่ของเราได้เข้าตรวจค้นทั่วสวนสาธารณะในเมืองเพื่อค้นหาผู้ฝึกฝ่าหลุนกง พวกเขาไล่ประชาชนทั่วไปออกจากสวน รวมทั้งสามีของฉันด้วย พวกเขาไปที่นั่นเพื่อทำกิจกรรมบันเทิง สามีของฉันรู้สึกว่าการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ยุติธรรม เขาและคนอื่นเกือบ 100 คนจึงตอบโต้ด้วยการไปที่สถานีตำรวจของเขตเพื่อเผชิญหน้ากับตำรวจ และชี้ให้เห็นว่าการที่ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเช่นนั้นไม่ถูกต้อง ด้วยเสียงสนับสนุนจากสาธารณชนอย่างแข็งแกร่ง ตำรวจจึงอนุญาตให้กิจกรรมบันเทิงในสวนสาธารณะกลับมาดำเนินการต่อได้

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ฉันถูกจับที่สวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่ง หลังจากสามีพบว่าฉันอยู่ที่ไหนแล้ว เขาก็ไปที่สถานีตำรวจในวันต่อมาเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวฉัน เขาตำหนิหัวหน้าตำรวจที่ประทุษร้ายฉัน และไม่นานหลังจากนั้น หัวหน้าตำรวจก็ตกลงที่จะปล่อยตัวฉัน ตำรวจสั่งให้ฉันรายงานตัวกับตำรวจทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่สามีพูดกับฉันว่า “คุณไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรในการฝึกฝ่าหลุนกง ไม่ต้องไปหรอก” ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสคนหนึ่งมาหาฉันและขอความร่วมมือจากฉัน โดยบอกว่าเขาจะเกษียณเร็ว ๆ นี้ และไม่อยากมีประวัติที่ไม่ดี หลังจากที่เขาขอร้องซ้ำแล้วซ้ำอีก สามีของฉันก็ไปสถานีตำรวจเป็นเพื่อนฉันอยู่ 5 วัน แล้วเราก็หยุดไป

ในปี 2001 รัฐบาลของเมืองได้สั่งให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่อยู่ในบัญชีดำทุกคนเขียนคำประกาศเลิกฝึกฝ่าหลุนกง สามีเตือนฉันว่าอย่าให้ความร่วมมือกับพวกเขาไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ทุกครั้งที่ตำรวจหรือคนจากที่ทำงานของฉันมาที่บ้าน สามีของฉันจะพูดคุยกับพวกเขา ในขณะที่ฉันอยู่ในห้องเพื่อฟาเจิ้งเนี่ยน การคุกคามดำเนินต่อเนื่องไปประมาณ 5 เดือน และสิ้นสุดลงในปี 2002 ด้วยการคุ้มครองของท่านอาจารย์ ไม่มีใครมาขอให้ฉันเขียนคำประกาศเลิกฝึกอีกเลย

ในช่วงแรก ก่อนที่เราจะจัดตั้งจุดพิมพ์เอกสารที่บ้าน ฉันมักไปที่ร้านถ่ายเอกสารเพื่อถ่ายสำเนาเอกสาร บางครั้งก็ถ่ายเอกสารครั้งละหลายร้อยชุด สามีของฉันช่วยฉันขนเอกสารกลับบ้านเพื่อไม่ให้ตำรวจผิดสังเกต เมื่อฉันเรียนรู้วิธีพิมพ์เอกสารที่บ้านแล้ว เขาก็ซื้อกระดาษถ่ายเอกสารให้ฉันและช่วยพับแผ่นพับ เมื่อเราเริ่มพิมพ์ข้อความของเราลงบนธนบัตร เขาก็ช่วยฉันรวบรวมธนบัตรย่อย และนำธนบัตรเหล่านั้นไปใช้จ่ายด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สามีของฉันมักจะไปเป็นเพื่อนฉันเวลาที่ฉันออกไปแจกแผ่นพับ ครั้งหนึ่งมีคนแจ้งความเรา แต่สามีของฉันก็หาวิธีกลับบ้านได้โดยไม่ถูกจับ เขารีบขนย้ายหนังสือและเอกสารต้าฝ่าทั้งหมดของฉันไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว เมื่อตำรวจมาค้นบ้านของเราในช่วงบ่าย พวกเขาจึงไม่พบอะไรเลย ที่จริงตำรวจได้ขอโทษสามีของฉันด้วย เขาใช้โอกาสนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายด้วย ในเวลาต่อมา ในอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่คนนั้นมาที่บ้านของเราและเตือนสามีของฉันให้ขนย้ายเอกสารต้าฝ่าออกไปก่อนที่ตำรวจจะเริ่มปฏิบัติการ

มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ที่ทำงานของฉันคนหนึ่งไม่เข้าใจความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้าย เขามักจะเรียกฉันว่าอาชญากรต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน และเตือนพวกเขาให้อยู่ห่างจากฉัน สามีของฉันทนพฤติกรรมของเขาไม่ได้ ฉันจึงเตือนความจำสามีว่าการประทุษร้ายผู้ฝึกต้าฝ่าจะต้องได้รับผลกรรมตามสนอง 3 เดือนต่อมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้เสียชีวิตที่บ้านของเขา

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการชุมชนมักมารบกวนฉันในช่วงวันหยุดสำคัญหรือช่วงที่มีการประชุมทางการเมือง เมื่อพวกเขาสั่งให้เราอยู่บ้าน สามีของฉันจะตอบว่า “เราต้องออกไปซื้ออาหาร ไม่เช่นนั้นจะเอาอะไรกินละ” ในที่สุดสามีของฉันก็ขอพวกเขาตรง ๆ ว่าให้หยุดมารบกวน และพวกเขาก็หยุดมารบกวนจริง ๆ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก

เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้นที่สามีของฉันช่วยฉันขนย้ายหนังสือต้าฝ่า เขายังได้แจกเอกสารต้าฝ่าให้กับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของเขา และกระตุ้นให้พวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย หลังจากที่ฉันถูกจับกุม เขาเตือนฉันไม่ให้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับผู้ฝึกคนอื่นให้ตำรวจทราบ การให้กำลังใจและการเตือนสติของเขามีค่าอย่างยิ่งในการช่วยให้ฉันยืนหยัดอย่างมั่นคงในการฝึกต้าฝ่าเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก

ภายใต้ความหวาดกลัวที่มืดมนของระบอบคอมมิวนิสต์ คนจำนวนมากเลือกที่จะนิ่งเฉยเมื่อเผชิญกับการประทุษร้าย กระทั่งร่วมมือกับตำรวจในการทรมานและเปลี่ยนแปลงเรา อย่างไรก็ตาม สามีของฉันยืนหยัดเคียงข้างฉันอย่างมั่นคง และแสวงหาความยุติธรรมให้กับฉัน การทำเช่นนั้นต้องอาศัยความกล้าหาญอย่างมาก การสนับสนุนที่ถูกต้องของเขาไม่เพียงช่วยเสริมพลังใจให้ฉันเท่านั้น แต่ยังนำพรจากต้าฝ่ามาให้เขาด้วย

ในปี 1995 หมอดูชื่อดังคนหนึ่งได้บอกกับสามีและฉันว่าอีกไม่นานสามีของฉันจะเสียชีวิต ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเราอย่างหนัก และเราไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร 2 ปีต่อมา ฉันเริ่มฝึกต้าฝ่าและยุ่งอยู่กับการบำเพ็ญและอธิบายความจริง เวลาผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้ว และไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่หมอดูทำนายไว้เลย สามีของฉันยังมีสุขภาพดีโดยไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยหนัก เราทั้งคู่เชื่อว่าท่านอาจารย์ได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมและยืดอายุให้เขา

เมื่อสองปีก่อนสามีของฉันล้มในห้องนั่งเล่นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ เขาเล่าให้ฉันฟังว่าเขารู้สึกแขนขาอ่อนแรงมาสองสามวันแล้ว ทำให้ฉันกังวล ฉันสงสัยว่าเขาจะเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือเปล่า และถามว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ไหนหรือไม่ เขาบอกว่าเขาไม่เป็นไร ฉันพยายามช่วยให้เขาลุกขึ้นยืนแต่ทำไม่ได้ เมื่อไม่มีใครอยู่แถวนั้นที่จะมาช่วยเรา เขาก็เริ่มท่องวลีมงคลว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเองโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบาย

หลังจากนั้น 2 เดือน เขาล้มอีก 3 ครั้ง แต่ทุกครั้ง เขาสามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองโดยไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ หลังจากท่องวลี “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” ฉันบอกเขาว่าฉันเชื่อว่าท่านอาจารย์คุ้มครองเขาอยู่

ตั้งแต่นั้นมา สามีของฉันก็พกเครื่องรางต้าฝ่าติดตัว และท่องวลีมงคลเหล่านี้บ่อย ๆ เขาไม่ล้มอีกเลยนานกว่า 1 ปี

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อาการของเขาเริ่มแย่ลง เท้าของเขาบวมและเปลี่ยนสี และปากของเขาเบี้ยว อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายของเขา พวกเขาก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ พวกเขาจึงส่งสามีของฉันกลับบ้านโดยไม่ได้ให้การรักษาใด ๆ

หลังจากสามีของฉันกลับบ้าน ฉันถามเขาว่าคิดอะไรอยู่ระหว่างการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เขาบอกฉันว่าเขาท่องอยู่ในใจว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” ฉันหัวเราะและพูดว่า “คุณสนับสนุนต้าฝ่ามาตลอดหลายปีนี้ ดังนั้นท่านอาจารย์จึงให้พรคุณโดยการยืดอายุและมอบสุขภาพที่ดีให้คุณ คนจำนวนมากปรารถนาที่จะมีสุขภาพที่ดีแต่ก็ไม่สามารถมีได้ คุณโชคดีจริง ๆ ที่ได้รับพรจากต้าฝ่า”

ขอบพระคุณท่านอาจารย์สำหรับการปกป้องและความช่วยเหลือที่เปี่ยมด้วยความเมตตาบนเส้นทางการบำเพ็ญของฉัน !