(Minghui.org) เว่ยอี้เป็นผู้ฝึกในท้องถิ่น เธอเล่าเรื่องราวอัศจรรย์มากมายให้ฉันฟังเกี่ยวกับการอธิบายความจริงให้กับผู้คนในประเทศจีนและแคนาดา ฉันประทับใจเรื่องราวเหล่านี้มาก จึงเขียนบางเรื่องมาแบ่งปัน ณ ที่นี้

“ฉันจะบอกวลีมงคลให้กับทุกคนในหมู่บ้านของฉัน !”

เมื่อ 15 ปีก่อน เว่ยอี้ทำงานในบริษัทจัดการทรัพย์สินในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ วันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่เธอเดินกลับบ้าน เธอพบหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ หญิงชราคนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอเอามือทั้งสองข้างปิดหู ดูเหมือนเธอกำลังเจ็บปวดมาก

เว่ยอี้เดินเข้าไปทักทายหญิงชรา และได้ทราบว่าหูของเธอเต็มไปด้วยหนอง เธอปวดหัวอยู่ตลอดเวลา และกระสับกระส่ายทั้งวันทั้งคืน เว่ยอี้พูดคุยกับหญิงชรา และเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า พร้อมกับบอกให้เธอท่องวลี “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอ หญิงชราต้องการเรียนรู้วลีทั้งสองทันที เว่ยอี้สอนให้เธอท่องทีละคำ และกำชับให้เธอท่องด้วยความจริงใจและท่องบ่อย ๆ หญิงชราพยักหน้าอย่างต่อเนื่องและเริ่มท่องวลีเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันถัดมา เว่ยอี้เดินผ่านที่เดิมอีกครั้ง หญิงชรามองเห็นเธอจากระยะไกล จึงรีบวิ่งเข้ามาทักทายเธอ หญิงชราขอบคุณเว่ยอี้และพูดว่า “วลีมงคลเหล่านี้อัศจรรย์จริง ๆ ! ฉันท่องวลีเหล่านี้ในใจตลอดตั้งแต่กลับถึงบ้าน ตอนนี้ฉันไม่ปวดหัวแล้ว และหูก็ไม่มีหนองไหลออกมาอีกแล้ว ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มากี่วันกี่คืนแล้ว แต่เมื่อคืนฉันนอนหลับสนิทได้ตลอดคืน พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ฉันรู้สึกแข็งแรงและสดชื่น เหมือนมีพลังงานที่ไม่สิ้นสุด”

หญิงชรารอเว่ยอี้อยู่ที่นั่นทั้งวัน เธอรู้สึกขอบคุณเว่ยอี้ที่สอนวลีมงคลซึ่งช่วยให้เธอหายจากโรคเรื้อรังซึ่งทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ เธอยังมาอำลาด้วย เพราะเธอตัดสินใจที่จะกลับบ้านเพื่อเล่าเรื่องปาฏิหาริย์ที่เธอประสบให้ชาวบ้านฟัง

หญิงชราถอนหายใจ “คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านของฉันเป็นคนแก่ อ่อนแอ ป่วย หรือพิการ พวกเขาต้องการการดูแลจากครอบครัวจริง ๆ แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครดูแลพวกเขาได้ น่าสงสารจริง ๆ คนหนุ่มสาวและคนแข็งแรงทุกคนในหมู่บ้านต้องออกไปทำงานในเมืองที่อยู่ไกล ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้พอเลี้ยงชีพเท่านั้น”

เธอพูดอย่างมีความสุขว่า “ฉันจะกลับไปบอกทุกคนในหมู่บ้านให้ท่องวลีมงคลนี้ ! ฉันหวังว่าทุกคนจะดีขึ้นเหมือนฉัน”

อาการปวดหายไปอย่างน่าอัศจรรย์หลังจากฝึกท่าชุดที่หนึ่ง

เย็นวันหนึ่ง หลังจากเลิกงานพักใหญ่ อาคารสำนักงานก็แทบจะว่างเปล่าขณะที่เว่ยอี้กำลังจะกลับบ้าน ขณะที่เธอเดินผ่านประตูสำนักงานที่เปิดอยู่บานหนึ่ง เธอเห็นสตรีวัยกลางคนที่เธอรู้จักดีคนหนึ่งยังคงนั่งเหม่อลอยอยู่ที่โต๊ะทำงาน

ผู้หญิงคนนี้ทักทายเธอ เว่ยอี้จึงถามว่า “ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่ล่ะ”

ผู้หญิงคนนี้พูดว่า “อาการปวดหลังของฉันกำเริบอีกแล้ว ช่วงนี้อาการแย่ลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ฉันลุกขึ้นหรือขยับตัว ฉันจะเจ็บมากจนทนไม่ไหว ฉันต้องนั่งพักสักครู่ก่อนค่อยกลับ”

เว่ยอี้พูดว่า “นั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหน มันก็ยังจะเจ็บมากเหมือนเดิมเมื่อคุณลุกขึ้นหรือขยับตัว ทำไมคุณไม่มาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากับฉันล่ะ”

ผู้หญิงคนนี้เคยฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาก่อน หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในเดือนกรกฎาคม 1999 เธอต้องเผชิญกับแรงกดดันจากที่ทำงานและเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ สามีของเธอก็มักทุบตีและด่าทอเธออยู่บ่อย ๆ เพื่อพยายามให้เธอหยุดฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ดังนั้นเธอจึงเลิกฝึก

เธอกังวลว่าอาการปวดหลังจะทำให้เธอฝึกท่าไม่ได้ แต่ด้วยการคะยั้นคะยอของเว่ยอี้ เธอจึงลุกขึ้นและเริ่มฝึกท่าชุดที่ 1 ของฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอฝึกท่าครั้งสุดท้ายมาหลายปีแล้ว และเธอจำท่าเคลื่อนไหวไม่ได้

เธอทำตามการเคลื่อนไหวของเว่ยอี้และเริ่มฝึก การเคลื่อนไหวของเธอในช่วงแรกนั้นดูเก้ ๆ กัง ๆ และไม่คุ้นเคย แล้วก็ค่อย ๆ คุ้นเคยมากขึ้น จากท่าที่ดูแข็งและงุ่มง่ามไปเป็นนุ่มนวลและสง่างาม จากที่รู้สึกหนักและลำบากไปเป็นเบาขึ้นและทรงพลังมากขึ้น ก่อนที่เธอจะรู้ตัว ผู้หญิงคนนี้ก็ฝึกท่าชุดที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเธอรู้สึกดีใจมากที่พบว่าอาการปวดหลังอย่างรุนแรงของเธอหายไปหมดสิ้น !

ก่อนหน้านี้ อาการปวดรุนแรงมากจนเธอต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเดียว ทนทรมานอย่างยากลำบาก จนแม้แต่จะเดินไปห้องน้ำที่อยู่สุดโถงทางเดินก็ยังทำไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่ปวดหลังแล้ว เธอจึงรีบไปเข้าห้องน้ำได้โดยเร็ว เมื่อเธอกลับมา เธอดูผ่อนคลายขึ้นมาก

เธอขอบคุณเว่ยอี้อย่างท่วมท้น และพูดด้วยความอัศจรรย์ใจว่า “ฉันยังไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง ! เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ฉันยังขยับตัวไม่ได้เลยเพราะปวดหลังสุดจะทรมาน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกหายดีแล้ว ! ฝ่าหลุนต้าฝ่าคือปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง !”

คุณปู่ผู้ล่วงลับขอความช่วยเหลือจากหลานชาย

เช้าตรู่วันหนึ่ง เว่ยอี้ไปที่บูทอธิบายความจริงของฝ่าหลุนต้าฝ่าในย่านไชนาทาวน์ของโทรอนโต เพื่อแจกแผ่นพับอธิบายความจริงให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะชาวจีน

ทันใดนั้น ชายหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งก็ข้ามถนนและวิ่งตรงไปหาเว่ยอี้ เขาขอให้เธอช่วยเขียนคำประกาศบนเว็บไซต์ Epoch Times เพื่อประกาศลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้อง และยกเลิกคำสาบานทั้งหมดที่เขาให้ไว้เมื่อเข้าร่วมองค์กรเหล่านั้น

ชายหนุ่มดูกังวลใจและบอกกับเว่ยอี้ว่า “ที่จริง ผมมาที่นี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และมีคนอื่นช่วยผมให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว ผมเป็นคริสเตียนและเข้าโบสถ์จีน เมื่อผมพูดถึงการตัดสินใจลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับคนที่โบสถ์คนอื่น ๆ บางคนก็พูดจาไม่ดีเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า และยุยงให้ไม่เชื่อและไม่ให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์”

ชายหนุ่มเล่าว่า เขายอมทำตามคำเกลี้ยกล่อมและกลับไปที่เว็บไซต์เพื่อยกเลิกการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ไม่กี่วันต่อมา เขาพบกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เขาวิตกกังวลว่านี่อาจเป็นวิญญาณชั่วร้ายของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่มาตามเอาชีวิตของเขา ตามคำสาบานที่เขาเคยปฏิญาณไว้ภายใต้ธงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

คืนก่อนหน้านั้น ปู่ผู้ล่วงลับของเขา ซึ่งเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และเป็นญาติที่เขารักมากที่สุดได้มาปรากฏตัวให้เขาเห็นในความฝัน

ปู่ของเขาเล่าให้เขาฟังว่า เนื่องจากปู่เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาตลอดชีวิต ปู่จึงต้องทนทุกข์ทรมานในนรกนับตั้งแต่เสียชีวิต และตอนนี้ปู่กำลังขอร้องหลานชายคนโปรดให้ช่วยเขาประกาศลาออกจากพรรคในโลกมนุษย์

ปู่ของเขาได้ย้ำเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ปู่เสียชีวิตและตกนรกไปแล้ว ปู่จึงต้องได้รับความช่วยเหลือจากญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ และจะต้องใช้ชื่อจริงและนามสกุลจริงของปู่ เพื่อประกาศลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างจริงจัง เพื่อให้ปู่ได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง และหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในนรกได้อย่างแท้จริง ปู่ยังหวังว่าญาติที่ยังมีชีวิตอยู่และที่เสียชีวิตไปแล้วทุกคนของปู่จะประกาศลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและหนีพ้นจากความทุกข์ทรมานในนรกเช่นกัน”

ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เขารีบออกไปแต่เช้าตรู่ และมาที่บูทอธิบายความจริงระหว่างทางไปทำงาน เขาขอให้เว่ยอี้ช่วยเขาประกาศ “การลาออกทั้งสาม” อีกครั้ง นอกจากนี้ เขายังช่วยปู่ของเขาให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างจริงจังโดยใช้ชื่อจริงของปู่ด้วย

หลังจากที่เว่ยอี้ช่วยเขา สีหน้าของชายหนุ่มก็ดูผ่อนคลายลงทันที ราวกับเป็นคนละคน เขาขอบคุณเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า โบกมืออำลา และรีบไปทำงาน

ผลลัพธ์ที่อัศจรรย์หน้าสถานกงสุล

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในโทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้ประท้วงการประทุษร้ายและอธิบายความจริงอยู่หน้าสถานกงสุลจีนมาหลายสิบปี พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาพที่เห็นในชีวิตประจำวันของที่นั้นไปแล้ว

หนึ่งวันก่อนการระบาดใหญ่โควิด-19 เว่ยอี้อยู่หน้าสถานกงสุลจีนเพื่อแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่าและเปิดโปงการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้กับผู้คนที่เดินทางไปทำธุระที่นั่น

ในตอนเช้า ก่อนที่สถานกงสุลจะเปิด ก็มีคนมายืนต่อแถวรอแล้ว คนสุดท้ายที่ยืนต่อแถวเป็นผู้หญิงสูงวัยที่ดูผิดปกติเล็กน้อย คนอื่นยืนต่อแถวกันหมด แต่เธอนั่งอยู่บนม้านั่งตัวเล็ก

เว่ยอี้เข้าไปหาหญิงชราและทราบว่าเธอนั่งเพราะเธอปวดหลังเรื้อรัง ทำให้เดินหรือยืนนาน ๆ ได้ลำบาก เธอมีแผนที่จะรอจนกว่าสถานกงสุลเปิดทำการ พอถึงตอนนั้นสามีและลูกชายของเธอจะเข้ามาช่วยเธอเดินเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ

เว่ยอี้บอกกับหญิงชราว่า “คุณลองท่องวลีต่อไปนี้ในใจนะ ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี’ วลีทั้งสองมีพลังของคำสอนของพระพุทธ และจะช่วยคุณได้อย่างแน่นอน” หญิงชราสนใจและอยากเรียนรู้วิธีท่องคำในวลี เว่ยอี้สอนให้เธอท่องวลีนี้สามครั้งก่อนที่เธอจะจำได้

หลังจากท่องครั้งที่สามแล้ว หญิงชราก็ลุกขึ้นทันที หยิบเก้าอี้ของเธอ และเดินข้ามถนน ไปยังที่จอดรถของเธออย่างรวดเร็ว เว่ยอี้คิดว่า “แปลกจัง” แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก และยังคงอธิบายความจริงให้คนอื่นที่รออยู่ในแถวฟังต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามาหาเว่ยอี้ “สวัสดีครับ ขอบคุณมาก ! เมื่อกี้แม่ของผมรีบเดินมาหาเราและบอกพวกเราด้วยความตื่นเต้นว่าแม่ท่อง ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี’ สามครั้ง อาการปวดหลังของแม่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ฝ่าหลุนต้าฝ่าอัศจรรย์จริง ๆ ! แม่ของผมคะยั้นคะยอให้พวกเรามาขอบคุณคุณครับ”

เว่ยอี้เห็นแม่และพ่อของชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังเขา เว่ยอี้ดีใจกับแม่ของเขามาก เธอเล่าให้พวกเขาฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า การประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หนังสือ “เก้าบทวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์” และอธิบายว่าทำไมผู้คนจึงต้องลาออกจากสามองค์กรเพื่อความปลอดภัย หลังจากฟังแล้ว ครอบครัวนี้ก็ขอให้เธอช่วยให้ทั้งสามคนได้ประกาศลาออกจากสามองค์กรทางออนไลน์ด้วย

พวกเขาขอเอกสารทั้งหมดจากเว่ยอี้เพื่อนำไปอ่านเพิ่มเติมเมื่อกลับถึงบ้าน หลังจากพวกเขาออกจากสถานกงสุลแล้ว พวกเขาก็กลับมาหยิบถุงเอกสาร ขอบคุณเว่ยอี้อีกครั้ง แล้วก็จากไปอย่างมีความสุข

(บทความนี้ได้รับการคัดเลือกเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลกปี 2025 ที่ Minghui.org)