(Minghui.org) ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันรู้ว่าเราควรปฏิบัติตามกฎหมาย เวลาพ่อแม่หรือครูของฉันบอกให้ฉันทำอะไร ฉันจะทำโดยไม่มีข้อแม้

ฉันอายุ 36 ปี ในปี 1999 ซึ่งเป็นปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มกดขี่ข่มเหงฝ่าหลุนกง และทำให้เกิดหายนะทั่วประเทศ ทั้งรุนแรงกว่าและยาวนานกว่าการปฏิวัติทางวัฒนธรรม มีหลายอย่างที่เรียนรู้ได้จากเหตุการณ์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนริเริ่มทั้งสองเหตุการณ์นี้

ตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหวหนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรมคือ "การวิจารณ์หลิน (เบียว) และการวิจารณ์ขงจื๊อ" ในเวลานั้นฉันอยู่โรงเรียนประถมและครูบอกว่าทุกคนต้องแสดงเรื่องตลกขบขันสั้น ๆ เพื่อแสดงมุมมองของเรา ฉันทำเกมสื่อสาร ‘โชว์-และ-บอก’ ตามที่ครูแนะนำ

แต่ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นเกือบทำให้ฉันเดือดร้อน

มันเริ่มจากหนังสือบางเล่มที่พ่อแม่ของฉันนำมาบ้านจากที่ทำงานของพวกเขาเป็นหนังสือที่ถูกเล็งไว้ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น "ซาน จื้อจิง" และ "ตัวหนังสือพันตัวหลียนกุย" ฯลฯ ฉันชอบหนังสือพวกนี้จนท่องบางช่วงบางตอนของหนังสือได้ ในเวลานั้นฉันไม่ได้เชื่อมโยงตัวหนังสือเหล่านี้กับการเคลื่อนไหว "วิพากษ์วิจารณ์" จนกระทั่งฉันอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

เรามีเวลาว่างในบ่ายวันหนึ่ง เพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายคนกำลังเล่นอยู่ด้านนอกสำนักงานพลศึกษา ฉันหัวเราะแล้วพูดว่า "อย่าตีกัน อย่าตีกัน สันติภาพเป็นสิ่งล้ำค่า (ขงจื๊อพูด "สันติภาพเป็นของคุณ") ทันใดนั้นประตูสำนักงานก็เปิดออกอย่างรวดเร็วและครูสอนพลศึกษาผู้หญิงตัวผอม ๆ ก็รีบเดินออกมาและตะโกนว่า "ใครพูดคำนั้น ใครพูดคำนั้น มันเป็นการต่อต้านการปฏิวัติ !"

เด็กอื่น ๆ ตกใจกลัวจนหยุดเล่น ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหรือทำอะไร โชคดีที่ไม่มีใครเอาฉันไปฟ้องครู ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ได้เรียนรู้ว่าหนังสือ "ซาน จื้อจิง" และ "ตัวหนังสือพันตัวหลียนกุย" มีไว้ให้วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้มีไว้ศึกษา

สิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนกง แม้ว่าหลักการของ "ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน" จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝึกและต่อสังคม แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ยังคงจับกุมผู้ฝึกและทำลายหนังสือฝ่าหลุนกง ที่จริงฉันคิดไม่ออกว่าทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงห้ามหนังสือฝ่าหลุนกง ถ้าคำสอนไม่ดีจริง ๆ คนที่อ่านจะไม่เห็นด้วยตัวเองหรือ

ในช่วง 22 ปีนับตั้งแต่การประทุษร้ายเริ่มต้นขึ้น ระบอบเผด็จการนี้ได้ใช้ทุกกลอุบายที่มีเพื่อทำให้ฝ่าหลุนกงเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ก็ไม่ได้ผลเลย เหตุผลเดียวที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนห้ามไม่ให้ผู้คนอ่านหนังสือฝ่าหลุนกงก็คือมันรู้ว่าใครก็ตามที่อ่านหนังสือเหล่านี้จะรู้ว่าการประทุษร้ายนี้ไม่มีเหตุผลเลย

น่าเสียดายที่ผู้ที่คล้อยตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างไม่ลืมหูลืมตานั้นไม่เพียงทำร้ายผู้อื่นแต่ยังทำร้ายตัวเองด้วย ตัวอย่างเช่น สืบเนื่องจากความโกรธแค้นของประชาชนหลังการปฏิวัติทางวัฒนธรรม พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประหารประชาชนจำนวนมากที่มีบทบาทสำคัญในการประทุษร้ายคนอื่นในช่วงนั้น ระหว่าง 22 ปีของการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงที่ผ่านมา ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปข่มเหงผู้ฝึกที่บริสุทธิ์ตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน การกระทำเช่นนั้นของพวกเขาละเมิดกฎหมายจริง ๆ เพราะไม่มีกฎหมายใดในประเทศจีนที่ห้ามเสรีภาพในความเชื่อหรือฝึกฝ่าหลุนกง กล่าวอีกนัยหนึ่ง การฝึกฝ่าหลุนกงและการครอบครองหนังสือฝ่าหลุนกงนั้นถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

โดยทั่วไปประชาชนมีความคุ้นเคยทางด้านกฎหมายแตกต่างกันอย่างมาก เกือบทุกคนรู้กฎจราจร แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้กฎหมายอื่นที่ไม่มีผลกระทบกับพวกเขาโดยตรง เมื่อคนจำนวนมากพอรู้ว่าการฝึกฝ่าหลุนกงเป็นสิทธิตามกฎหมาย การกดขี่ข่มเหงนี้ก็จะดำเนินต่อไปไม่ได้

เมื่อคนคนหนึ่งฝ่าฝืนกฎหมาย เขาหรือเธอจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยการปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อคน 1,000 คนฝ่าฝืนกฎหมาย พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน เมื่อการบังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ตุลาการละเมิดกฎหมาย และปลุกปั่นให้พลเมืองทั่วไปทำเช่นนั้นด้วยโดยใช้เงินล่อใจ มันจะนำไปสู่สังคมที่ไร้กฎหมาย เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น เทพอาจแทรกแซงเพื่อปรับเปลี่ยนให้ถูกต้อง

เมื่อคิดต่อ ภัยพิบัติจำนวนมากอาจเป็นผลมาจากการกระทำผิดของประชาชน ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้ผู้คนยอมรับคุณค่าดั้งเดิม สนับสนุนผู้บริสุทธิ์ และปฏิเสธพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าที่ได้รับพรจากพระเจ้า

บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ