(Minghui.org) เมื่อวานฉันไปเยี่ยมคังซึ่งเป็นผู้ฝึกอายุ 78 ปี ฉันพบเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฉันตกใจมากที่เห็นเธอดูแย่ลงมากในช่วงไม่กี่เดือน

คังนอนอยู่บนเตียง ผมของเธอสั้นมาก และสีหน้าดูเหนื่อยอ่อน ฉันถามเธอว่าทำไมเธอไม่ลุกขึ้นนั่งฟังคำสอนของท่านอาจารย์ การนอนอยู่บนเตียงอย่างนั้นไม่น่าจะดี เธอบอกฉันว่าเธอฟังฝ่าหรือฝึกท่าครั้งสุดท้ายหลายเดือนมาแล้ว

ฉันเห็น MP3 ที่ชาร์จอยู่บนโต๊ะของเธอ ฉันจึงเปิดเครื่อง ฉันตกใจมากที่เสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงการบรรยายของท่านอาจารย์ แต่เป็นดนตรีทางพุทธศาสนาที่ลูกสาวของเธอบันทึกไว้ให้เธอ แม่บ้านของคังบอกว่าคังฟังมาหลายเดือนแล้ว ฉันถามคังว่าเครื่องเล่น MP3 ของเธอที่บันทึกการบรรยายของท่านอาจารย์หลี่ (ผู้ก่อตั้งต้าฝ่า) และดนตรีประกอบท่าฝึกอยู่ที่ไหน เธอบอกว่าไม่รู้ บางทีลูกสาวของเธออาจเอาไปเก็บ

คังเริ่มเจ็บป่วยทางร่างกายหลังจากกลับมาจากการไปเยี่ยมลูกสาวของเธอที่ปักกิ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน ขณะนั้นเธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากการจับกุม ผู้ฝึกสองคนในกลุ่มศึกษาฝ่ากังวลว่าตำรวจอาจติดตามเธอ เราจึงหยุดอ่านฝ่ากับเธอ พอไม่มีสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญกับกลุ่ม เธอจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านของลูกสาวและไม่ได้นำหนังสือต้าฝ่าไปด้วย ลูกสาวของเธอเล่นดนตรีของพุทธศาสนาให้เธอฟังทุกวัน เธอไม่ได้ฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อขจัดการรบกวน และเริ่มแย่ลงหลังจากนั้นไม่นาน

คังบอกฉันว่าเธอแบกรับความทุกข์ไม่ไหวแล้วและอยากตาย ฉันขอให้เธอไม่คิดเช่นนั้น เธอรอคอยชาติแล้วชาติเล่าเพื่อที่จะได้รับต้าฝ่าและมาเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่านอาจารย์ทำเพื่อเรามากมาย หากเธอยอมแพ้เช่นนี้ เธอจะเผชิญหน้ากับความเมตตาของท่านอาจารย์และสรรพชีวิตในโลกของเธอที่ฝากความหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือไว้กับเธอได้อย่างไร

ฉันพูดว่า “คุณต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและสรรพชีวิตในโลกของคุณ มีเพียงการบำเพ็ญตัวเองให้ดีเท่านั้น คุณจึงจะช่วยพวกเขาได้ คุณต้องเสริมสร้างจิตสำนึกหลักของคุณให้แข็งแกร่ง”

“ถ้าลูกสาวของคุณไม่ยอมให้คุณอ่านฝ่าหรือฝึกท่า เธอจะมอบมรรคผลและอนาคตที่สดใสให้คุณได้ไหม ถ้าคุณหยุดฝึกต้าฝ่าเพราะคุณไม่ต้องการทำให้เธอเสียใจ นั่นไม่ใช่ฉิงหรือ คุณไม่คิดถึงเรื่องทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังหรือ ในฐานะผู้บำเพ็ญจริง คุณต้องวัดสิ่งต่าง ๆ กับฝ่า ไม่ใช่กับสิ่งที่ลูกสาวหรือแม่บ้านของคุณบอก เราต้องเผชิญกับทุกสิ่งด้วยความคิดถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นฉิงของครอบครัว หรือการรังควานของตำรวจ เราควรบอกตัวเองว่าเราเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ และเราเพียงปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์เพื่อทำสามสิ่งให้ดี”

คังถามว่า “ทำไมฉันจึงต้องต่อสู้กับโรคจากกรรมในการบำเพ็ญอยู่เสมอ และตอนนี้ฉันยิ่งแย่ลงไปอีก” จากคำถามของเธอ ฉันว่าดูเหมือนความเข้าใจในฝ่าของเธอยังอยู่ในระดับผิวเผิน เธอไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าการบำเพ็ญคืออะไรและทำไมเราจึงบำเพ็ญ

ฉันพูดว่า “นับตั้งแต่วันที่เราได้รับต้าฝ่า เราก็ไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว เราคือผู้บำเพ็ญ ท่านอาจารย์จัดวางชีวิตของเราใหม่โดยอิงตามรากฐาน กรรม การรู้แจ้ง และความมุ่งมั่น ท่านอาจารย์ได้เตรียมการอย่างเป็นระบบเพื่อให้เราสลายกรรมของเรา ดังนั้นจึงมีการทดสอบและความยากลำบากให้เราผ่าน มันขึ้นอยู่กับเราทั้งหมดที่จะรับรู้”

เธอยังถามอีกว่า “ทำไมเพื่อนของฉันบางคนที่ไม่ฝึกต้าฝ่า จึงมีสุขภาพดีกว่าฉัน พวกเขามีช่วงเวลาที่ดีทุกวันและมีความทุกข์ยากน้อยมาก”

ฉันอธิบายว่า “เพราะในฐานะผู้บำเพ็ญเราจำเป็นต้องกำจัดกรรมของเรา และชำระหนี้ของเรา ขั้นตอนการบำเพ็ญทั้งหมดของเราก็เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธฺ์และยกระดับ เมื่อเราอดทนทางร่างกาย ซินซิ่งของเราจะยกระดับ และระดับชั้นของเราก็สูงขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่บำเพ็ญ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำได้ดีเพียงผิวเผิน แต่เป็นเพราะกรรมของพวกเขายังฝังลึกอยู่ข้างใน สำหรับเรา กรรมของเรากำลังถูกผลักออกมาจากระดับลึก ทีละชั้น จนกว่าทุกอย่างจะปลอดโปร่ง ร่างกายของเราจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นสสารพลังงานสูง มีวิธีให้เราสลายกรรมได้หลายวิธี ทั้งการทนทุกข์ทางร่างกายและการทรมานทางจิตใจ ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นหนี้กรรมแบบใด เราจะต้องชำระหนี้กรรมทั้งหมดและขจัดความคิดของมนุษย์ทั้งหมดก่อนที่เราจะบำเพ็ญสำเร็จบริบูรณ์ และกลับบ้านพร้อมท่านอาจารย์ ทุกอย่างจะต้องเข้าที่ ถ้าเราเข้าใจหลักการเหล่านี้ มันจะไม่ยากนักเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องผ่านการทดสอบ”

ท่านอาจารย์สอนเรา

“คุณใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในหมู่คนธรรมดาสามัญ คุณจะบำเพ็ญอย่างไร กรรมของคุณจะผันแปรได้อย่างไร จะมีสภาพแวดล้อมให้คุณได้ยกระดับซินซิ่งและผันแปรกรรมของคุณได้อย่างไร” (บทที่ 6 จ้วนฝ่าหลุน)

ฉันคะยั้นคะยอให้คังท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” ถ้าเธอปฏิบัติตนเป็นผู้บำเพ็ญต้าฝ่าจริง ๆ ฉันว่าท่านอาจารย์จะช่วยเธอ

คังพยักหน้าและบอกว่าเธอรู้สึกดีขึ้นมาก ฉันหวังจริง ๆ ว่าเธอจะสามารถเสริมสร้างความคิดถูกต้องของเธอให้แข็งแกร่ง และผ่านบททดสอบนี้

ในฐานะผู้บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า เราต้องมองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแง่มุมที่แตกต่างจากผู้ที่ไม่ฝึก เมื่อเราทนทุกข์กับความรู้สึกไม่สบาย เราควรถือว่าเป็นสิ่งดี เราทุกคนสร้างกรรมเหลือล้นในหลายชาติที่ผ่านมา การชดใช้กรรมไม่น่าเพลิดเพลิน มีเพียงการอดทนต่อความยากลำบากเท่านั้น เราจึงจะชดใช้หนี้และยกระดับได้อย่างแท้จริง