บทเรียนที่หนักหน่วงจากโศกนาฏกรรมของครอบครัวของผู้อำนวยการสำนักงาน 610 ในมณฑลจี๋หลิน

(Minghui.org) จากข้อมูลวงในที่ได้รับจากองค์การโลกเพื่อสืบสวนการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง (World Organization to Investigate the Persecution of Falun Gong, WOIPFG) เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2024 พรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) ได้วางแผนรณรงค์ระลอกใหม่เพื่อโจมตีฝ่าหลุนกงนอกประเทศจีน ซึ่งปฏิบัติการโดยสายลับพิเศษของ CCP และบุคคลที่ต่อต้านฝ่าหลุนกง

สำหรับผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ต่อต้านการประทุษร้ายอย่างสันติมาเป็นเวลา 25 ปี การรณรงค์บิดเบือนข้อมูลครั้งใหม่ของ CCP ดูเหมือนจะเป็นเฮือกสุดท้ายก่อนการล่มสลาย แม้ว่าการล่มสลายของ CCP จะเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ฉันก็เป็นห่วงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับคนที่ปฏิบัติตาม CCP อย่างใกล้ชิดในการดำเนินการประทุษร้าย

ฉันขอยกตัวอย่างบทเรียนที่หนักหน่วงของซุน ชิ่งหลิน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงาน 610 คนแรกในเขตเฟิงหม่าน เมืองจี๋หลิน มณฑลจี๋หลิน ฉันจะพูดถึงการมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายและชะตากรรมอันน่าสลดใจของเขาและครอบครัว

คดีประทุษร้ายในช่วงที่ซุน ชิ่งหลิน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน 610

ในฐานะผู้อำนวยการคนแรกของสำนักงาน 610 ในภูมิภาคนี้ ซุนส่งเสริมการรณรงค์ประทุษร้ายอย่างเต็มที่โดยกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้ฝึก

ศูนย์ล้างสมอง

ภายใต้การสั่งการของสำนักงาน 610 ในเขตเฟิงหม่านและเขตฉวนอิ๋ง มีการจัดกิจกรรมล้างสมองหลายครั้งในเขตชานเมืองจี๋หลิน ในเดือนกันยายน 2009 มีผู้ฝึกหลายคนถูกนำตัวไปที่นั่นเพื่อ "แปรเปลี่ยน" จิตใจ ผู้ฝึกถูกกักขังในห้องที่แยกกันและถูกเฝ้าจับตามองโดยเจ้าหน้าที่ชุมชน 2 คน ตลอด 24 ชั่วโมง

การกักขังโดยพลการและการบีบคั้นทางการเงิน

ข่ง เซี่ยนฟาง ซึ่งในขณะนั้นอายุ 62 ปี เดินทางไปปักกิ่งในเดือนธันวาคม 2000 เพื่ออุทธรณ์ขอสิทธิในการฝึกฝ่าหลุนกง เธอถูกจับกุมและถูกส่งกลับไปยังจี๋หลิน หลังจากถูกกักขัง 76 วัน เธอถูกย้ายไปยังศูนย์ล้างสมองเป็นเวลา 6 วัน เธอได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2001 หลังจากถูกซุนขู่ขูดรีดเงินจำนวน 3,000 หยวน

การทรมานอย่างโหดร้าย

ฟู่ ชุนเซิง ถูกจับกุมในตอนเย็นของวันที่ 28 ธันวาคม 2001 บ้านของเขาถูกรื้อค้น และหนังสือฝ่าหลุนกงและเอกสารต่าง ๆ ของเขาถูกยึด ตำรวจนำตัวเขาไปที่กรมตำรวจเมืองจี๋หลินในวันถัดไปเพื่อสอบปากคำ และย้ายเขาไปที่ศูนย์กักกันที่ 3 ของเมืองจี๋หลินในวันที่ 30 ธันวาคม เนื่องจากเขานิ่งเงียบเมื่อตำรวจถามเขาว่าได้เอกสารฝ่าหลุนกงมาจากไหน เจ้าหน้าที่จึงทุบตีเขาอย่างโหดเหี้ยม เขาถูกทุบตีจนเสียชีวิตในวันที่ 1 มกราคม 2002 แต่ตำรวจไม่ได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเขาให้ครอบครัวทราบจนถึงวันที่ 3 มกราคม

ครอบครัวของเขาที่เห็นศพบอกว่า ศีรษะของเขาบวม หูและใบหน้ามีรอยฟกช้ำ จมูกและปากมีเลือดอยู่ข้างใน และหน้าอก ท้อง หลังและขามีร่องรอยบาดเจ็บ แต่ตำรวจอ้างว่าเขาเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

โทษจำคุก

ฉาง สือ เป็นอดีตวิศวกรของสำนักงานโทรคมนาคมจี๋หลิน เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2012 พร้อมกับภรรยาของเขา จาง จิ้งตง และลูกสาว ฉาง ฮุ่ยอิ๋ง สาวน้อยฉางซึ่งอายุ 19 ปีในขณะนั้นถูกกักขังที่ศูนย์ล้างสมองชาเฮซีนานกว่า 20 วัน และถูกทรมานอย่างโหดร้าย จางผู้เป็นภรรยามีอาการสาหัสหลังจากถูกกักตัวเพียง 10 วัน แต่ตำรวจก็ยังคงพาเธอไปที่ค่ายแรงงานขณะที่เธอใส่ถุงออกซิเจนอยู่ เธอได้รับการปล่อยตัวหลังจากผู้คุมปฏิเสธที่จะรับเธอไว้ ต่อมานายฉางถูกตัดสินจำคุก 3.5 ปี เขาถูกคุมขังในเรือนจำมณฑลจี๋หลิน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2015

โศกนาฏกรรมของครอบครัวของซุน

ในวัฒนธรรมจีน มีหลักการ ‘ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว’ นั่นคือทุกคนต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเอง หลักการนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ CCP คนอื่น ๆ ที่ได้รับผลกรรมตามสนองจากการทุบตีและทรมานผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ซุนไม่เพียงเผชิญกับชะตากรรมของตัวเองเท่านั้น แต่ยังนำโชคร้ายมาสู่สมาชิกในครอบครัวของเขาด้วย

โศกนาฏกรรมแรกเกิดกับลูกชายคนเดียวของซุนคือ ซุน อิงเจี๋ย ไม่นานหลังจากที่ลูกชายของเขาแต่งงานและได้งานเป็นคนขับรถในปี 2011 เขาก็เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากรู้สึกไม่สบาย เขาเสียชีวิตในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ก่อนที่การวินิจฉัยจากรายงานผลของห้องปฏิบัติการจะออกมา เขาอายุเพียง 26 ปี

ซุน ชิ่งหลิน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเสียชีวิตของลูกชาย ที่จริงก่อนที่โศกนาฏกรรมจะเกิดขึ้น ญาติของเขาบางคนเคยเตือนให้เขาหยุดประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ไม่เช่นนั้นมันจะนำผลกรรมมาสู่ตัวเขาเองหรือคนในครอบครัวของเขา แต่เขาไม่ฟัง

ไม่กี่ปีต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน 2013 ซุนและภรรยาของเขา หลิว เซียงเหลียน เดินทางไปพักผ่อนที่มณฑลไห่หนาน ขณะที่พวกเขากำลังเต้นรำอยู่บนลานสาธารณะ ซุนก็ล้มลงและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

หลิวฝึกฝ่าหลุนกงก่อนการประทุษร้ายจะเริ่มขึ้น อาการป่วยหลายอย่างของเธอดีขึ้นในตอนนั้น แต่ด้วยความกลัวว่าจะถูกประทุษร้าย เธอจึงเลิกฝึกและไม่พยายามที่จะหยุดสามีของเธอจากการประทุษร้ายผู้ฝึก เธอสติแตกและหลายโรคที่เธอเคยเป็นก็กำเริบหลังจากลูกชายและสามีเสียชีวิต เธอป่วยติดเตียงอยู่สองสามปี เธอใช้เงินทั้งหมดที่สามีหามาได้จากการประทุษร้ายผู้ฝึก และเสียชีวิต

กาคว่ำบาตรจากนานาชาติ

ไม่มีผู้กระทำความผิดคนใดหนีรอดจากการพิพากษาของพระเจ้าได้ ในขณะเดียวกันกฎหมายบนโลกก็กำหนดให้ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่พวกเขาก่อขึ้นด้วย

หลังจากที่สหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมาย Global Magnitsky Human Rights Accountability Act ในปี 2016 สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส แคนาดา และประเทศอื่น ๆ ก็ได้ผ่านกฎหมาย Magnitsky ของตนเองด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินหรือการห้ามเดินทางของผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน

ในเดือนพฤษภาคม 2019 ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในสหรัฐอเมริกาได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่าพวกเขากำลังเข้มงวดในการตรวจสอบวีซ่า และอาจปฏิเสธวีซ่าแก่ผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและผู้ที่ประทุษร้ายความเชื่อทางศาสนา นโยบายนี้ครอบคลุมถึงวีซ่าถาวร (immigration visas) และวีซ่าชั่วคราว (non-immigration visas) เช่น วีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าธุรกิจ ผู้ถือวีซ่ารวมทั้งผู้ที่ได้รับเอกสารของผู้อยู่อาศัยถาวร (กรีนการ์ด) แล้วอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ เจ้าหน้าที่คนเดียวกันนี้ยังเรียกร้องให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงส่งรายชื่อผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงให้ด้วย

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2024 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกงซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อ “หลีกเลี่ยงความร่วมมือใด ๆ กับสาธารณรัฐประชาชนจีนในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะตราบใดที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงอยู่ในอำนาจ” และ “ใช้มาตรการที่เหมาะสม รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อบังคับให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนยุติการผ่าตัดเก็บอวัยวะที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ”

นอกเหนือจากการคว่ำบาตรแล้ว บุคคลหลายคนที่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในสหรัฐอเมริกาได้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีแล้ว

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2024 สายลับของ CCP หลี่ ผิง ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี และถูกปรับเงิน 250,000 ดอลลาร์ และให้อยู่ภายใต้การควบคุมเป็นเวลา 3 ปีหลังพ้นโทษ หลี่ทำหน้าที่เป็นสายลับให้รัฐบาลจีนมาหลายปี โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ผู้เห็นต่างชาวจีน และผู้สนับสนุนประชาธิปไตยแก่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของจีน

หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ 19 ธันวาคม 2024 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศจับกุมผู้ต้องสงสัยวัย 64 ปีซึ่งทำหน้าที่เป็นสายลับที่ไม่ได้จดทะเบียนของรัฐบาลจีน เหยาหนิง (ไมค์) ซุน ถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับจุน (จอห์น) เฉิน เพื่อโน้มน้าวนักการเมืองคนหนึ่งในสหรัฐฯ ในนามของรัฐบาลจีน และดำเนินการบนแผ่นดินของสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงของ CCP

จอห์น เฉิน ถูกจับกุมในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 และศาลรัฐบาลกลางตัดสินว่ามีความผิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปีนี้ ในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเพิกถอนสถานะการยกเว้นภาษีขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ ที่ดำเนินการโดยผู้ฝึกฝ่าหลุนกง เฉินถูกตัดสินจำคุก 20 เดือน

ไม่ว่า CCP จะกระทำการทุจริตหรือโหดร้ายใด ๆ ต่อฝ่าหลุนกง การปราบปรามความเชื่อที่แท้จริงจะไม่มีวันสำเร็จ เหยื่อที่แท้จริงของการรณรงค์ประทุษร้ายคือผู้ติดตามพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อความปลอดภัยและอนาคตของพวกเขาเอง ขอให้พวกเขาคิดให้รอบคอบว่าจะมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายต่อไปหรือไม่